JJNY : ร้องศาลรธน.ไม่รับคำร้องยุบก้าวไกล│ตร.ไปหาถึงบ้านสมาชิก P-Move 3 วันติด│เงินบาทแข็งค่า│รบ.ทหารเมียนมากำลังประสบภัย

สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องศาล รธน.ไม่รับคำร้องยุบพรรคก้าวไกล
https://prachatai.com/journal/2024/03/108505
 
 
สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนแสดงท่าทีต่อกรณี กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ศาลไม่รับคำร้องอันไร้สาระของ กกต.
 
20 มี.ค.2567 รัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR) ส่งจดหมายข่าวแจ้งถึงท่าทีขององค์กรแสดงถึงความกังวลต่อกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของไทย ยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ถือเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
 
การเปรียบการเสนอให้พิจารณากฎหมายซึ่งเป็นแกนหลักในการทำงานของรัฐสภาว่าเป็นความพยายามล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เป็นเรื่องที่ขัดกับสามัญสำนึกและยังเป็นการบ่อนเซาะกระบวนการทางรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลย์ได้อย่างไรถ้าพรรคของพวกเขาเสี่ยงที่จะถูกยุบตลอดเวลา” เคลวิน อี้ สส.พรรคกิจประชาธิปไตยของมาเลเซีย ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข และ 1 ในสมาชิกของ APHR ระบุ
 
สมาชิก APHR ยังระบุอีกว่าการพยายามยุบพรรคก้าวไกลนั้นไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิต่อนักการเมืองของพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่ยังเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของประชาชนไทย 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลด้วยและชัดเจนว่าเป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตยของไทยด้วย
 
ในแถลงการณ์ได้เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยึดถือเจตจำนงค์ประชาชนไทยและปกป้องประชาธิปไตยด้วยการไม่รับคำร้องของ กกต.ที่ “ไร้สาระ” นี้


 
ตร.ไปหาถึงบ้านสมาชิก P-Move 3 วันติด ก่อน ‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ เจ้าตัวรู้สึกกดดัน
https://prachatai.com/journal/2024/03/108505

ศูนย์ทนายความฯ รายงานมีตำรวจไปลงบ้านชาวปกาเกอะญอสมาชิก P-Move ก่อน “เศรษฐา” และคณะลงพื้นที่ เพื่อเช็คจะมีชาวบ้านไปยื่นหนังสือไหม เจ้าตัวตอบไม่รู้ก็ยังไปหา 3 วันติด สุดท้ายไม่มีใครไป เจ้าตัวสะท้อนรู้สึกกดดัน ถ้าจะมีไปยื่นจริงก็เป็นสิทธิประชาชน ไม่น่าต้องตามแบบนี้
 
เมื่อวานนี้(20 มี.ค.2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า สมชาติ หละแหลม สมาชิกเครือข่าย P-move ให้ข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปติดตามถึงบ้านถึง 3 วัน ติดต่อกันก่อนที่เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะจะลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดลำปางตามกำหนดการในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อพยายามสอบถามว่าจะมีการไปยื่นหนังสือหรือไม่ โดยมีทั้งการโทรศัพท์หาและไปหาถึงบ้านตอนค่ำ
 
สำหรับ สมชาติ หละแหลม เป็นผู้ใหญ่บ้านชาวปกาเกอะญอที่บ้านกลาง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เขาร่วมเรียกร้องปัญหาด้านสิทธิในที่ทำกินของชาวบ้าน รวมถึงรณรงค์ด้านสิทธิชุมชนและวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์เรื่อยมา โดยเข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move (พีมูฟ) ด้วย
 
สมชาติ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. เขาได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามว่าจะมีชาวบ้านไปยื่นหนังสือถึงคณะของนายกฯ หรือไม่ ถ้าจะไป มีชาวบ้านไปประมาณกี่คน และจะไปยื่นร้องเรียนในเรื่องอะไร เขาได้ตอบไปว่ายังไม่ทราบแน่ชัด อาจจะมีชาวบ้านไปหรือไม่ไปก็เป็นได้
จากนั้น ในช่วงค่ำประมาณ 20.00 น. พบว่ามีตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.แม่เมาะ 2-3 นาย เดินทางไปที่บ้านของเขา โดยเขาไม่อยู่บ้าน ทำให้ตำรวจได้พูดคุยกับภรรยาโดยสอบถามในลักษณะเดียวกัน ภรรยาของเขาได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่ว่าจะมีใครไปยื่นหนังสือหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของชาวบ้านและถ้ามีการไปยื่นก็เป็นเรื่องสิทธิในที่ทำกิน เป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ชาวบ้านเรียกร้องเรื่อยมา
 
สมชาติให้ข้อมูลอีกว่าในสองวันถัดมา ทั้งวันที่ 18 และ 19 มี.ค. ก็ยังมีตำรวจเดินทางมาที่บ้านเขาอีก โดยเป็นคนละหน่วยกับที่มาในวันแรก เข้าใจว่าเป็นหน่วยของสันติบาล และหน่วยความมั่นคง ก็มาสอบถามเรื่องการไปยื่นหนังสือกับนายกฯ อีกครั้ง และพยายามให้ได้ข้อมูลว่าถ้าไปยื่นหนังสือ จะมีคนไปกี่คน และพูดคุยในลักษณะเหมือนกับไม่อยากให้มีชาวบ้านไป
 
สมชาติ สรุปว่าสุดท้ายก็ไม่ได้มีกลุ่มชาวบ้านเดินทางไปแต่อย่างใด แต่เขาก็เห็นว่าแค่เรื่องการไปยื่นหนังสือ ตำรวจไม่น่าจะถึงกับต้องมาติดตามอย่างต่อเนื่องถึงสามวันติดกันแบบนี้ ทั้งที่พูดคุยทางโทรศัพท์ก็ได้ และมีการโทรมาก่อนแล้วด้วย แต่ยังต้องมาที่บ้านอีก เหมือนกับพยายามสร้างจิตวิทยา มาติดตามบ่อย ๆ ทำให้เกิดความกลัวหรือความกดดันขึ้น ทั้งที่การไปยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน



เงินบาทแข็งค่า 35.91 บาท หลังเฟดปรับเพิ่มจีดีพี จ่อลดดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้
https://www.dailynews.co.th/news/3275800/
 
ค่าเงินบาทวันนี้ 21 มี.ค. เปิดตลาดแตะระดับ 35.91 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น สอดคล้องสกุลเงินในภูมิภาค หลังเงินดอลลาร์เจอแรงเทขาย เหตุเฟดปรับเพิ่มตัวเลขจีดีพี และยังคงสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้.

วันที่ 21 มี.ค. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 36.00 บาทต่อดอลลาร์มาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.91-35.93 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (10.02 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.17 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ตลอดจนค่าเงินสกุลหลักทั้งยูโรและเยน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่องหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ซึ่งมีสัญญาณบางส่วนที่ทำให้ตลาดผิดหวัง
 
ทั้งนี้ แม้เฟดจะมีการปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ขึ้น แต่มุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายผ่าน Dot plot ยังคงสะท้อนภาพโอกาสของการลดดอกเบี้ย 3 ครั้งตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สวนทางการคาดการณ์ของตลาดบางส่วนที่ประเมินในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจลดจำนวนรอบของการลดดอกเบี้ยในปีนี้ลงมา
  
นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกที่ทะยานกลับไปยืนเหนือ 2,200 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ด้วยเช่นกัน
 
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.80-36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก การตอบรับของตลาดต่อผลการประชุมเฟด ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ข้อมูล PMI ขั้นต้นเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ ตลอดจนตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่