JJNY : สื่อนอกพร้อมใจตีข่าว│‘อียู-ผู้ดี-กีวี’ชี้เป็นความถดถอย│ชัชชาติ ฮัมเพลง‘ฤดูที่แตกต่าง’│กำลังซื้อฝืด หยุดซื้อที่ดิน

สื่อนอกพร้อมใจตีข่าว ศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกล ชี้ผลกระทบจำกัด ลุ้นคดีเศรษฐาต่อสัปดาห์หน้า หวั่นทำการเมืองไทยป่วน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4723425
 
 
สื่อนอกพร้อมใจตีข่าว ศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกล ชี้ผลกระทบจำกัด ลุ้นคดีเศรษฐาต่อสัปดาห์หน้า หวั่นทำการเมืองไทยป่วน

สำนักข่าวต่างประเทศหลักๆ ทั้งเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ และบีบีซี ต่างพากันนำเสนอข่าวศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 11 คน โดยรอยเตอร์ระบุว่า การยุบพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2566 ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดของพรรคการเมืองหลักของไทย ที่ยังคงพัวพันกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจมาอย่างยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างกลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มเศรษฐีเก่า และกลุ่มนายพล

การตัดสินคดียุบพรรคมีขึ้น 6 เดือนหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้พรรคก้าวไกลยกเลิกแผนปฏิรูปที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบัน ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและเสี่ยงที่จะทำลายระบอบการปกครอง แต่พรรคก้าวไกลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

รอยเตอร์ชี้ว่า แม้การยุบพรรคก้าวไกลจะทำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่เป็นเยาวชนและคนเมืองหลายล้านคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และนโยบายของพรรคไม่พอใจ แต่คาดว่าผลกระทบจากการตัดสิทธิดังกล่าวจะมีอยู่อย่างจำกัด โดยมีเพียงผู้บริหารระดับสูงของพรรคและอดีตสมาชิกพรรค 11 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

ขณะที่สมาชิกรัฐสภาของพรรคก้าวไกล 143 คนของพรรคก้าวไกลในสภาจะยังคงรักษาที่นั่งของพวกเขาเอาไว้ได้ต่อไป และคาดว่าคงจะมีการรวบรวมกันภายใต้พรรคใหม่เช่นเดียวกับที่เคยทำในปี 2562 เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจากการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนในการรณรงค์หาเสียง

คำตัดสินของศาลยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญของการเมืองไทย จากรอยร้าวที่ปรากฏขึ้นระหว่างกลุ่มอนุรักษนิยมกับพรรคการเมืองที่เป็นศัตรูกันยาวนานอย่างพรรคเพื่อไทย ที่ในสัปดาห์หน้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะต้องฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาฝ่ายอนุรักษนิยม ได้ยื่นฟ้องให้ปลดนายเศรษฐาออกจากตำแหน่ง จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ที่เคยต้องโทษจำคุกให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายเศรษฐาปฏิเสธจะยืนยันว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริตใจ

คดีของนายเศรษฐาเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมือง และทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วน และมีแนวโน้มว่าการเมืองไทยจะวุ่นวายยิ่งขึ้นหากนายเศรษฐาถูกตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องทำโดยการลงคะแนนเสียงในรัฐสภา ซึ่งอาจทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเผชิญหน้ากับพรรคที่เป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงการปรับโครงสร้างคณะรัฐมนตรีและนโยบายต่างๆ ในอนาคต

ด้านเอเอฟพีพาดหัวข่าวที่มุ่งเน้นไปที่คำตัดสินยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญและการตัดสิทธิกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกลเป็นเวลา 10 ปี โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เอเอฟพีชี้ว่าเป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง โดยเอเอฟพีระบุว่าความนิยมของนายพิธาเพิ่มสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ในขณะที่เขาเป็นที่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์และผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเมืองด้วยการให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่การได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหลังนายพิธา
นำพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง กลับถูกสกัดจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในวุฒิสภา และเส้นทางการเมืองของนายพิธาต้องสั่นคลอนอีกครั้งในเดือนมีนาคมเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติการณ์อันเป็นการล้มล้างการปกครองดังที่มีคำตัดสินข้างต้น

เอพีรายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของเอมี สมิธ ผู้อำนวยการบริหารองค์กรสิทธิมนุษยชน Fortify Rights กล่าวก่อนคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่า ความพยายามในการยุบพรรคก้าวไกลถือเป็นการโจมตีหลักการประชาธิปไตยโดยตรง ซึ่งบั่นทอนพันธกรณีของประเทศไทยต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

ด้านซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ว่า จากการสัมภาษณ์คนรุ่นใหม่ในไทยก่อนหน้านี้ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็น “คนรุ่นที่ถูกลืม” ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารมานานกว่า 9 ปี ทั้งยังมีอุปสรรคในการหางานหรือซื้อบ้าน และมองไม่เห็นอนาคตในไทย ดังนั้นการตัดสินของศาลในคดียุบพรรคก้าวไกลมีแนวโน้มที่จะทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกผิดหวังมากกว่าเดิม เนื่องจากพวกเขามีความหวังเพียงน้อยนิดที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยได้.



‘อียู-ผู้ดี-กีวี’ ชี้ยุบพรรคก้าวไกล เป็นความถดถอยของความหลากหลายทางการเมือง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4724591

‘อียู-ผู้ดี-กีวี’ ชี้ยุบพรรคก้าวไกล เป็นความถดถอยของความหลากหลายทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานว่า หลังการยุบพรรคก้าวไกล รัฐบาลหลายประเทศได้ออกมาแสดงท่าทีในเรื่องดังกล่าว โดยสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ว่า การตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองชั้นนำที่ได้รับการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2023 ด้วยคะแนนเสียงถึง 14 ล้านเสียง จากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 39 ล้านเสียง ถือเป็นความถดถอยของความหลากหลายทางการเมืองในประเทศไทย

ทั้งนี้ ไม่มีระบอบประชาธิปไตยที่สามารถทำงานได้โดยไม่มีความหลากหลายของพรรคการเมืองและผู้สมัครจำนวนมาก ข้อจำกัดใดๆ ต่อการใช้เสรีภาพในการรวมตัวและการแสดงออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการจัดกิจกรรมและการจัดตั้งพรรคการเมือง จะต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติและหลักการที่เกี่ยวข้องกับตราสารระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองระหว่างประเทศ

สิ่งสำคัญคือทางการจะต้องแน่ใจว่าสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับเลือกตั้งโดยชอบธรรมทุกคนยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาต่อไปได้ โดยไม่คำนึงถึงพรรคการเมืองที่พวกเขาได้รับเลือกมา

อียูพร้อมที่จะเพิ่มพูนการมีส่วนร่วมกับไทยภายใต้ความตกลงความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือที่ลงนามเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2022 รวมถึงประเด็นของความหลกาหลายทางประชาธิปไตย เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และสิทธิมนุษยชน

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรออกแถลงการณ์ต่อกรณีการยุบพรรคก้าวไกลว่า “ความหลากหลายทางความคิดและเสรีภาพในการแสดงออกเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินคดียุบพรรคการเมืองใหญ่ในประเทศไทยอีกพรรคหนึ่งจึงเป็นความถดถอยของหลักการเหล่านี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรขอสนับสนุนให้พรรคการเมืองทุกพรรคยึดมั่นในเรื่องสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยและการเป็นตัวแทนของประชาชน

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศและการค้านิวซีแลนด์ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมว่า “จากกรณีที่ศาลไทยมีมติยุบพรรคก้าวไกลและเพิกถอนสิทธิกรรมการผู้บริหารพรรคทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นิวซีแลนด์สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก รวมถึงสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะเลือกสมาชิกผู้แทนราษฎรตามเสรีภาพที่ตนพึงมี

นิวซีแลนด์ตระหนักว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภาไทย และพรรคฝ่ายค้านมีบทบาทสำคัญในการบริหารตามระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นตัวแทนของประชาชนที่ใช้สิทธิของตนในการลงคะแนนเสียงเลือกผู้แทน


 
อดทนเวลาที่ฝนพรำ! ชัชชาติ ฮัมเพลง ‘ฤดูที่แตกต่าง’ ให้กำลังใจก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4724188

อดทนเวลาที่ฝนพรำ! ชัชชาติ ฮัมเพลง ‘ฤดูที่แตกต่าง’ ให้กำลังใจก้าวไกล 
 
จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดที่มีการกระทำผิด ให้ไม่สามารถไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนดเป็นเวลา 10 ปี
 
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความลงในเพจ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ระบุว่า
 
อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ“
 
เป็นกำลังใจให้กับ คุณพิธา คุณชัยธวัช คุณวิโรจน์ และ พรรคก้าวไกลทุกๆ ท่านครับ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อความที่ นายชัชชาติ ยกมานั้น คือ เพลง “ฤดูที่แตกต่าง” โดย บอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงชื่อดัง
 
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้เข้ามาคอมเมนต์ ตอบกลับข้อความดังกล่าว ด้วยว่า
 
“ขอบคุณอาจารย์มากๆ นะครับ ^^ จะฝนตก หรือฝนจาง ผมก็พร้อมยืนเด่นท่ามกลางแสงแดด และสายฝนเสมอครับ”

https://www.facebook.com/chadchartofficial/posts/pfbid038NCJEDRC3mHts4aWtUYpUXtDTwbEBipsBsBp2ZozWNgXPGNqTVMLEPqi33QciQeol
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่