1. Scientific Methods พวกเขาคือชนชาติที่ค้นพบวิทยาศาสตร์ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษา และตัดสินใจ ซึ่งเชื่อมโยงสู่การเก็บข้อมูล การสร้างสรรค์ทางเทคโนโลยี ที่สำคัญคือ การเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้มากกว่าข้อสันนิษฐาน
2. Grand imagination / think big -- global market สมัยก่อน ยากมาก ที่คนไทยจะคิดทำธุรกิจระดับโลก พวกเราเพิ่งรู้จักกันปีนี้ เช่น การบริหารบริษัท Miss Universe แต่ชาวตะวันตก รู้เรื่องตลาดโลกมานานแล้ว และครอบครองหลายธุรกิจที่เป็นระดับโลก พวกเขาคิดใหญ่ ทำใหญ่ แม้แต่งานโปรดั๊กชั่นภาพยนตร์อย่างอเวต้า ลงทุนสูง ศึกษาข้อมูลจริงจัง และขายทั่วโลก
3. Systematization ชาวตะวันตกสนใจการวางระบบ มากกว่า ตัวบุคคล เช่น ระบบบริหาร ระบบ กม แล้วคนอยู่ภายใต้ระบบ ดังนั้น ไม่ว่าใครขึ้นมามีอำนาจ ก็ทำงานภายใต้ระบบที่วางไว้
4. Social context -- bravery, interaction, and individualism บริบทสังคมตะวันตก เป็นสังคมปัจเจกบุคคล โฟกัสที่งานหรือความสำเร็จของตน มากกว่าเรื่องคนอื่น การศึกษาเน้นเรื่องปฏิสัมพันธ์ มากกว่าการฟังครูพูด ทำให้เด็กได้โชว์ฟอร์มในชั้นเรียน ให้คุณค่ากับคนที่กล้าหาญ เด็กๆ อยากจะเป็นคนกล้า มากกว่า คนที่ทำข้อสอบได้คะแนนเต็ม และยังสนับสนุนให้มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเลียนแบบ จึงเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ถูกตีกรอบมากเกินไปแบบสังคมตะวันออก นั่นจึงเป็นที่มาของสังคมที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ สังคมตะวันตกยกย่องนักธุรกิจ นักลงทุน สังคมตะวันออก ยกย่องงานราชการ
5. Competitiveness สังคมตะวันตกยอมรับการแข่งขัน และสนุกกับมัน เหมือนต้นไม้เร่งชูยอดเพราะหิวแสง หรือ แย่งกันหาแสง เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้ผู้คนดำเนินชีวิตในเชิงรุกมากกว่าขอรับความช่วยเหลือ
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อสังเกตของผู้เขียน/เจ้าของกระทู้ หากใครมีข้อชวนคิด/ประสพการณ์อื่นๆ ก็แชร์กันดูนะคะ
อะไรทำให้ชาวตะวันตกครองโลกมาหลายศตวรรษ…คงไม่ใช่แค่ขยัน
2. Grand imagination / think big -- global market สมัยก่อน ยากมาก ที่คนไทยจะคิดทำธุรกิจระดับโลก พวกเราเพิ่งรู้จักกันปีนี้ เช่น การบริหารบริษัท Miss Universe แต่ชาวตะวันตก รู้เรื่องตลาดโลกมานานแล้ว และครอบครองหลายธุรกิจที่เป็นระดับโลก พวกเขาคิดใหญ่ ทำใหญ่ แม้แต่งานโปรดั๊กชั่นภาพยนตร์อย่างอเวต้า ลงทุนสูง ศึกษาข้อมูลจริงจัง และขายทั่วโลก
3. Systematization ชาวตะวันตกสนใจการวางระบบ มากกว่า ตัวบุคคล เช่น ระบบบริหาร ระบบ กม แล้วคนอยู่ภายใต้ระบบ ดังนั้น ไม่ว่าใครขึ้นมามีอำนาจ ก็ทำงานภายใต้ระบบที่วางไว้
4. Social context -- bravery, interaction, and individualism บริบทสังคมตะวันตก เป็นสังคมปัจเจกบุคคล โฟกัสที่งานหรือความสำเร็จของตน มากกว่าเรื่องคนอื่น การศึกษาเน้นเรื่องปฏิสัมพันธ์ มากกว่าการฟังครูพูด ทำให้เด็กได้โชว์ฟอร์มในชั้นเรียน ให้คุณค่ากับคนที่กล้าหาญ เด็กๆ อยากจะเป็นคนกล้า มากกว่า คนที่ทำข้อสอบได้คะแนนเต็ม และยังสนับสนุนให้มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเลียนแบบ จึงเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ถูกตีกรอบมากเกินไปแบบสังคมตะวันออก นั่นจึงเป็นที่มาของสังคมที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ สังคมตะวันตกยกย่องนักธุรกิจ นักลงทุน สังคมตะวันออก ยกย่องงานราชการ
5. Competitiveness สังคมตะวันตกยอมรับการแข่งขัน และสนุกกับมัน เหมือนต้นไม้เร่งชูยอดเพราะหิวแสง หรือ แย่งกันหาแสง เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้ผู้คนดำเนินชีวิตในเชิงรุกมากกว่าขอรับความช่วยเหลือ
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อสังเกตของผู้เขียน/เจ้าของกระทู้ หากใครมีข้อชวนคิด/ประสพการณ์อื่นๆ ก็แชร์กันดูนะคะ