แชร์ประสบการณ์พีคในเรื่องหลอนหลอน

เราอายุ 24 กำลังจะ 25 ปีนี้ เราชอบฟังเรื่องเล่ามากๆ อย่างเช่นเรื่องเล่าหลอนๆ
เราเป็นเด็กบ้านนอก อาศัยอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด(ตอนนี้ใจสั่นมากๆ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะแชร์เรื่องนี้มา 2 ปีแล้ว) **เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงทุกประการ ประสบการณ์พบเจอโดยดิฉันเอง**
ขอเข้าเรื่องเลยนะ วันนึงเราหยุดเรียนเพราะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ เลยนอนเล่นอยู่บ้าน แล้วยายเราก็มาบอกว่า ไปนอนบ้านของน้องยายนะคืนนี้ ไปนอนด้วยกัน เราก็เลยพูดไม่พอใจกลับไปว่าจะไปทำไม บ้านตัวเองมีทำไม่นอนกัน ยายเราก็เลยพูดขึ้นมาว่า น้องของยายดื่มเบียร์แก้วนึง แล้วเขาเป็นคนจิตอ่อนอยู่แล้ว เลยเจอผีปอบมายืนแลบลิ้นใส่ที่ข้างบ้านตอนเขาเดินไปฉี่ เราก็เลยทำไมไม่ห่วงบ้านตัวเองบ้างล่ะ เราก็ไม่พอใจว่าทำไมต้องไปนอนที่นู้น แต่ก็ต้องไป ไปถึง เจอน้องของยายนอนกอดพ่อธรรม ก็คล้ายๆพ่อชี ที่เขารักในพระพุทธ และก็เอาสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้น้องของยาย ส่วนเราก็ เลยนอนดูทีวี กับพวกหลานๆ นอนที่บ้านหลังนั้นกันหมดทุกคน บ้านเรากับบ้านของน้องยายห่างกันแค่บ้านอีกหลังคั่นกลางไว้ แต่ที่ดินเป็นผืนเดียวกัน เราก็นอนดูทีวีไปเรื่อยๆจนน้องของยายหลับไป หลานๆเราก็นอนหน้าทีวี คนกลางนอนอีกฝั่ง คนเล็กนอนกลาง ส่วนเรานอนขอบ ซึ่งขอบของเราคือเกือบๆตรงกับประตูหลังครัว เราก็นอนคุยโทรศัพท์กับแฟนจนเราง่วง เราทำการวางโทรศัพท์เก็บไว้จะนอน สายตาเราเหลือบ ไปเห็นเงาแวบๆ ที่ประตูครัวเพราะที่ครัวเขาเปิดไฟทิ้งไว้ ในบ้านปิดไฟ เราก็ตาฝาดรึเปล่า เราเลยหันไปมองอีกรอบ ไม่มี. จึงพยายามมองว่ารึเป็นเงาตู้เสื้อผ้าที่ครัว แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะภาพแวบแรกที่เราเจอคือ เขาหัวฟูมากๆ ใส่เสื้อสีขาวขาดๆหลุ่ยๆ ใส่ผ้าถุงลายไทยสีส้ม ผ้าถุงก็หลุ่ยๆ อารมณ์เหมือนเปื้อนโคลน เปื้อนขี้เถ้าดำๆมาทั้งตัว และเขากางแขนและมือหยิกยืน กางขาเหมือนคนโกรธมากๆแล้วก็กำลังจะแผลงฤทธิ์ แต่เราก็พยายามข่มตาจนหลับ ตื่นเช้ามาเรานั่งคิดแล้วคิดอีก จะพูดดีไหม เพราะน้องของยายเขายังไม่หายจากอาการตกใจ ขวัญเตลิด เราก็เลยเลือกที่จะเล่าให้ป้าข้างบ้านที่คั่นกลางระหว่างบ้านน้องยายไว้ ว่าเราเจอแบบนี้มา เขาบอกอย่าไปสนใจนะลูก อย่าไปทักไปท้วง เราเลยบอกไม่ได้ท้วง เราเจอเมื่อคืนก็พยายามคิดในแง่ดี แต่มันไม่ใช่ ก็เลยมีคนถามว่าเจออะไร พูดมาเสียงดัง ป้าข้างบ้านเลยบอกว่าเราเจอปอบ และเรื่องก็เงียบไป สักพักไม่ถึงเดือน ลุงคนที่เป็น อบต.หมู่บ้านเสีย เราก็อ้าว เมื่อวานยังไปสีข้าวกับเขาอยู่เลย ยายบอกว่านอนไหลตาย แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้น เขาโรคประจำตัวคือความดัน เป็นไปไม่ได้ที่โรคตวามดันจะนอนไหลตาย แต่นั่นคือความคิดเมื่อก่อนนะ ที่เราไม่เชื่อแบบนั้นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เราเจอ
และลูกสาวของ อบต.บอกว่าตอนกลางคืน ได้ยินเสียงนกแสกร้องเยอะมาก แต่ไม่ได้ทัก และได้ยินเสียงดิ้น แต่ไม่คิดว่าเป็นเสียงดิ้นของพ่อตน เรานั่งฟังไปคิดภาพไป ทีนี้ตื่นตอนเช้าเขาไม่เห็นพ่อลงไปกินข้าวเพราะเขาเป็นตื่นเช้ามาก ลูกสาวเลยเดินไปปลุก แต่ไม่ตื่น เลยเว้นระยะเวลา และขึ้นไปปลุกอีกรอบ ก็ไม่ตื่น เลยเอามือไปแตะ ปรากฏว่าพ่อเขามีเลอดออก หู ออกปาก ออกจมูก ออกตา ไม่แน่ใจว่าออกทางทวารด้วยไหม เราเลยพูดว่าชัดเจนเลย ลุงเขาไม่ได้นอนไหล แต่ลุงเขาโดนแล้ว(ปอบกิน) เราก็ทำพิธีกัน เราบวชชีจูงลุงเขาด้วย เพราะเราก็ชอบไปเล่นบ้านเขาบ่อยๆ สนิทกับลูกเขา ทีนี้พอพิธีจบ เขาได้พากันไปดูดวง เขาบอกที่ต้นมะขามหน้าบ้านเขามีปอบเป็นร้อยอยู่บนต้นมะขาม รอที่จะกินรายต่อไป ช่วงนั้นหมู่บ้านเราคนตายเยอะมากๆ ติดต่อกันไม่ถึงเดือน 3-5 ศพ แต่ละคนคือบอกว่าตายเพราะโรคทั้งนั้น จนกระทั่งวันนึง ป้าที่บ้านข้างๆของน้องยายเราเขากลับมาจาก โรงบาล ด้วยอาการกระดูกคอเสื่อมต้องใส่เฝือกตลอดเวลา ใช้ไม้เท้าค้ำเดิน คนนี้ก่อนหน้านี้ยังเป็นเด็กๆเราไปนอนกับเขาเพราะคนแถวนั้นเรานับเป็นญาติหมดเลย หมอดูบอกว่าป้าคนนี้แหล่ะที่เป็นปอบ เราก็เลยคิดว่าใช่หรอ เขาเดินได้ปกตินะ หมอดูบอกว่าก่อนหน้านี้เห็นเขาเดินไหม เราเลยตอบว่าไม่ ซึ่งเขานอนติดเตียงมาเป็นระยะเวลานานมากๆ
เราก็นั่งคิด นี่เราไปนอนกับใครแล้วล่ะเนี่ย นั่งคุยกับลูกพี่ลูกน้อง
ทีนี้พอหลังจากนั้นเราก็นอน และเราเริ่มฝันแปลกๆ ตั้งแต่ใจเราเชื่อว่าป้าคนนั้นเป็นจริงๆแน่ เรานอนโดนผีอำทุกคืน เราทรมานมาก ทั้งๆที่เราต้องไปเรียนหนังสือทุกวัน(ตอนนั้นเราอายุ 16-17) เราไม่ได้หลับได้นอน บ้านเราเป็นบ้านสองชั้น บนเป็นไม้บวกสังกะสี ด้านล่างเป็นปูน เรานอนด้านล่าง ประตูบ้านเป็นกระจกสีดำ ถ้าปิดไฟในบ้านเปิดไฟด้านนอก ด้านในจะมองเห็นด้านนอก ด้านนอกจะมองไม่เห็นด้านใน เรานอนกึ่งหลับกึ่งตื่น ตะแครงไปที่ประตู ลืมตาขึ้นเราเจอป้าข้างบ้านของน้องยายมายืนถือไม้เท้าที่หน้าบ้านบอกว่าจะลองดีใช่ไหม หรอที่บอกว่ากูเป็นปอบ แล้วก็สะแหยะยิ้มแบบมีอะไรน่ากลัว เราเลยตกใจพยายามทำตัวเองให้ตื่นและหลุดจากภวังค์ นอนรอนับวันให้น้องชายกลับบ้านมานอนด้วยกัน เพราะเรานอนตรงนั้นคนเดียว ปกติจะมีน้องชายนอนด้วย แต่น้องชายเรียน โรงเรียนประจำ เราจะร้องไห้ทุกครั้งที่น้องต้องกลับไปเรียน เพราะเราต้องนอนคนเดียว มาวันนึงเราย้ายโซฟามาบังไว้เพื่อให้เราไม่เห็นประตู สบายใจแล้วนอนได้สบายๆ นอนไม่ถึง 1 นาที เราหลุดเข้าไปในภวังค์นั้นอีกแล้ว รอบนี้เขามาที่ด้านบนหัวเรา ที่หน้าต่าง เขาเปิดบานหน้าต่างออกแลวบอกว่า ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก! แล้วก็ยิ้มแบบมีอะไรเหมือนเดิม ทีนี้เราเริ่มไม่ไหว เราทักหาแม่ เล่าให้แม่ฟัง เราฝันแบบนี้มาเป็นเดือน เราเหนื่อยมาก ฝันแบบนี้ทุกวัน และทุกวัน หมาจะหอนตลอด และทุกครั้งที่เราฝัน จะมีเสียงเหมือนคนพยายามเปิดประตูเข้ามาตลอด จนเราย้ายไปนอนในห้อง เราก็ฝันรอบนี้ว่าเขามานอนข้างๆ และนอนตะแครงหันหน้าสบตากับเรา รอบนี้เป็นรูปร่างหน้าตาแท้จริงของเขาเลยคือปอบคนที่ยืนอยู่ที่ประตูครัวของบ้านน้องยาย เราร้องไห้ ขอให้หลวงน้าช่วย จนหลุด ใจเราสั่น คืนนั้นเราเป็นแบบนั้น 2 ครั้ง จนเหนื่อยและหลับไปตอนเช้าก็แต่งตัวไปเรียน
กลับบ้านมาเราก็บอกยายว่า ยาย หนูไม่ไหวแล้ว หนูไม่ได้นอนเลย เขาบอกด้วยว่าเขาจะเอาหนูไปด้วย หนูไม่อยากไป หนูยังอยากเรียนต่อ เขาตกใจมาก เราบอกอีกว่าแต่คนที่เราคิดว่าเขาเป็นที่จริงเขาไม่ได้เป็น แต่มีคนมายืมร่างเขาไปนะยาย เราทั้งพูดทั้งระแวงว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้นอีกคืนนี้ จนที่บ้านของ อบต.ที่ตายนั้นเขาจะไปดูหมอดูอีก ยายเราเลยขอไปด้วยเพราะเราก็เจอมาหนัก เขาเลยอาบน้ำมนต์ให้เรา ปฏิกิริยาเราไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มีคนเดียวที่เกิดคือ ยายของเราเอง ยายแท้ๆ ที่เราเล่าให้เขาฟังว่าเราเจอมาหนัก เขาอาบน้ำมนต์ เขาร้องโหยหวน บอกว่าร้อน ทั้งๆที่เราและทุกคนที่ไปนั้นบอกน้ำเย็นมาก สดชื่นมาก เรายืนมองหน้ากับพี่ๆและหลาน เหว๋อไปเลย จนกระทั่งกลับมาบ้านเราก็ถามยายว่ายายโอเคไหม ยายบอกยายโอเค ได้กินน้ำมนต์ดีขึ้นแล้ว ทีนี้เราก็แยกย้ายกันไปนอน คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลับสบายมาก จนอาทิตย์ต่อมา เราเจออีก ซ้ำๆ เช่นเดิม จนเราไม่ไหว ปิดเทอมพอดี เราเลยกลางคืนไม่นอน นอนตอนเช้าจบ ทำแบบนั้นมาเกือบอาทิตย์ สุดท้ายไม่ไหว เพราะตาจะให้เราไปเก็บค่าน้ำค่าไฟ ตอนเช้ามืดก่อนที่คนแก่จะออกไปสวนไปไร่ เราก็เริ่มนอนตอนกลางคืนเราก็ฝันอีก เขาชี้หน้าเราบอกว่าให้เราระวังตัวดีๆ!!! และดูเหมือนจะไม่พอใจเรามาก จนเช้ามาเราแต่งตัวไปเก็บค่าน้ำค่าไฟต่อจากเมื่อวาน
พี่ชายลูกพี่ลูกน้องเราเดินทางกลับมาบ้าน เขาเป็นคนอุดมสมบูรณ์มาก ป้าคนที่ถูกมองว่าเป็นปอบเดินมาพร้อมเลียปากแลบลิ้น บอกว่า (หุ่นคือเป็นตะแซ่บแท้หล่า) หมายถึง ทำไมหุ่นอุดมสมบูรณ์น่ากินจัง ประมาณนี้ เราและพวกพี่ๆที่นั่งกินข้าวและดื่มอยู่ต่างพากันมองหน้ากันและยิ้มๆเหว๋อๆ ว่า (ฮ้วยยยย สิมาตะแซบหยังยาย หิวกะไปกินข้าวตั้วน้อ) ก็คือ เห้ยยาย จะมาพูดว่าน่ากินได้ยังไง หิวข้าวก็ไปกินข้าวสิ ก็หัวเราะแห้งๆกับพี่ๆ
เราก็อยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็มองเราด้วยสายตาแปลกๆ ปล.เขายังยืมร่างอยู่นะคะ
เรา เราก็ฝันเช่นเดิมจนสุขภาพจิตเราย่ำแย่มากๆ จนเราย้ายบ้านไปอยู่กับป้าอีกหมู่บ้านหนึ่ง ก็ดีขึ้นไม่ฝัน ไม่เจออะไรเลย จนกระทั่ง...
**เดี๋ยวมาต่อนะคะ**
********************
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่