ทัพไทยสั่งขัง 21 วัน ทหารเรือ นทพ.ใจร้อน
ถือปืนขู่คู่กรณี เหตุขับรถปาดหน้า แถมงดบำเหน็จ
โดนฝึกวินัยทหาร 15 วัน
โดนทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนขอยกเลิกใบอนุญาตพกปืน เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เผย เจ้าตัวสำนึกผิดขาดความยับยั้งชั่งใจ ยอมรับความผิดทุกประการ และ กล่าวขอโทษต่อคู่กรณี
จากกรณีการปรากฏคลิปวีดิโอ ทหารใช้อาวุธปืนข่มขู่คู่กรณีบริเวณทางด่วน โดยเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 นั้น
พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ภายหลังปรากฏเหตุการณ์ดังกล่าวในสื่อออนไลน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยด่วนและรายงานผลให้ทราภายใน 48 ชั่วโมง
โดยการสอบสวนข้อเท็จจริงพิจารณาแล้วพบว่ากำลังพลดังกล่าว ไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารได้กระทำผิดวินัยทหาร ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 ประกอบด้วย
1. ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน
2. การไม่รักษามารยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร
3. ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร
4. ประพฤติไม่สมควรโดยการพูดจาข่มขู่บุคลภายนอกให้เกิดความหวาดกลัว
5. ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกองทัพ
คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาลงทัณฑ์ ดังนี้
1. ขังเป็นระยะเวลา 21 วัน
2. พิจารณางดบำเหน็จประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
3. ให้ฝึกทบทวนวินัยทหาร เป็นเวลา 15 วัน
4. ให้ผู้บังคับบัญชา ทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนเพื่อขอยกเลิกการครอบครองอาวุธเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
โดยกำลังพลผู้ก่อเหตุ รู้สึกสำนึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ และยอมรับความผิดทุกประการ รวมทั้งได้กล่าวคำขอโทษกับผู้ที่ตนเองได้ทำการข่มขู่ด้วย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากองบัญชาการกองทัพไทยในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของกำลังพลดังกล่าว ได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว และมีความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมกำชับผู้บังคับหน่วยให้เข้มงวดกวดขันวินัยกำลังพลทุกนาย เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
โชคดีที่ไม่ต่อความยาวสาวความยืด กลับตัวทัน ไม่ลั่นไก และกลัวกล้องมือถือ
ถือปืนขู่คู่กรณี เหตุขับรถปาดหน้า แถมงดบำเหน็จ
โดนฝึกวินัยทหาร 15 วัน
โดนทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนขอยกเลิกใบอนุญาตพกปืน เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เผย เจ้าตัวสำนึกผิดขาดความยับยั้งชั่งใจ ยอมรับความผิดทุกประการ และ กล่าวขอโทษต่อคู่กรณี
จากกรณีการปรากฏคลิปวีดิโอ ทหารใช้อาวุธปืนข่มขู่คู่กรณีบริเวณทางด่วน โดยเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 นั้น
พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ภายหลังปรากฏเหตุการณ์ดังกล่าวในสื่อออนไลน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยด่วนและรายงานผลให้ทราภายใน 48 ชั่วโมง
โดยการสอบสวนข้อเท็จจริงพิจารณาแล้วพบว่ากำลังพลดังกล่าว ไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารได้กระทำผิดวินัยทหาร ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 ประกอบด้วย
1. ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน
2. การไม่รักษามารยาทให้ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมของทหาร
3. ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร
4. ประพฤติไม่สมควรโดยการพูดจาข่มขู่บุคลภายนอกให้เกิดความหวาดกลัว
5. ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของกองทัพ
คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาลงทัณฑ์ ดังนี้
1. ขังเป็นระยะเวลา 21 วัน
2. พิจารณางดบำเหน็จประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
3. ให้ฝึกทบทวนวินัยทหาร เป็นเวลา 15 วัน
4. ให้ผู้บังคับบัญชา ทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนเพื่อขอยกเลิกการครอบครองอาวุธเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
โดยกำลังพลผู้ก่อเหตุ รู้สึกสำนึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ และยอมรับความผิดทุกประการ รวมทั้งได้กล่าวคำขอโทษกับผู้ที่ตนเองได้ทำการข่มขู่ด้วย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากองบัญชาการกองทัพไทยในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของกำลังพลดังกล่าว ได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว และมีความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมกำชับผู้บังคับหน่วยให้เข้มงวดกวดขันวินัยกำลังพลทุกนาย เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก