อย่างที่เป็นข่าวฮือฮานั่นแหละครับ ว่า
พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา
ถูกผู้บังคับบัญชาย้ายไปอยู่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ได้ยื่นเรื่องลาออกจากราชการแล้ว (มีผล 6 ธ.ค. 58) เพราะรู้ตัวว่าโดน "
ล็อคเป้า"
อยู่ต่อไปได้เป็น "จ่าเพียร 2" แน่นอน
มาดูคำสัมภาษณ์กันครับ
"มีนายตำรวจระดับสูงเรียกผมไปบอกว่า
ทหารเขาไม่พอใจที่ไปจับทหาร ให้ผมแจ้งท่านเอก รีบไปเคลียร์กับฝ่ายนั้น ต่อมาวันที่ 4 ต.ค. ผมเดินทางมาร่วมฟังการแถลงนโยบายของท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มีนายตำรวจเข้ามาเตือนอีกว่าพวกผมไปจับทหารได้ไง
ทหารเขาโกรธนะ คุณไปกลั่นแกล้งเขาหรือเปล่า
นายตำรวจคนเดียวกันบอกผมด้วยว่ามีนายทหารระดับสูงเตือนมา มันอันตราย ต้องระวังตัวนะ อย่าทำต่อเลย ผมไม่ได้พูดอะไร รวมทั้งไม่โต้แย้ง
แต่ก็กลับมาคิดเพราะช่วงหนึ่งที่สอบสวน พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ท่านบอกว่าคุณตำรวจ ผมไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน ผมมีพรรคมีพวก ซึ่งท่านเป็นเตรียมทหารรุ่น 16 มีเพื่อนฝูงมากมายรวมทั้งท่านแม่ทัพ ภาค 4 ด้วย"
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000124180
“ตลอดเวลากว่า 5 เดือนของผมและตำรวจทุกคนในคณะทำงานที่ร่วมกันสืบสวนสอบสวนคดี จนทำสำนวนคดีเป็นเอกสาร 2 แสนกว่าแผ่น ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องไป 153 ราย ทุกคนทำงานอย่างยากลำบาก ไม่ได้กินนอนอย่างสบาย
จริงๆ ทุกคนควรจะได้รับบำเหน็จ แต่สิ่งที่ผมได้รับคือถูกย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ซึ่งตลอดอายุการรับราชการตำรวจของผมจนขณะนี้อายุ 57 ปีแล้ว ยังไม่เคยทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อนเลย ไม่มีข้อมูลและไม่เคยทำคดีในพื้นที่นี้เลย การส่งผมลงไปทำงานในพื้นที่สามจังหวัดจึงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับพื้นที่ตรงนั้น ตรงกันข้ามเหมือนกับส่งผมไปเสี่ยงอันตรายด้วยซ้ำ ผมเคยขออยู่ที่เดิม แต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย”
"เริ่มรู้ว่าเกิดความไม่พอใจจากกลุ่มผู้ถูกออกหมายจับ สัญญาณที่เห็นได้ชัด คือมีการข่มขู่พยานสำคัญจากลูกน้องของคนมีสีที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งได้มีการแจ้งความเอาไว้และเป็นคดีแล้ว
รวมไปถึงการถูกข่มขู่ของทหารนายหนึ่งซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากลุ่มหลังที่ถูกออกหมายจับ โดยคนสนิทของคนมีสีอีกคนหนึ่งส่งข้อความข่มขู่ไม่ให้เข้ามอบตัว และหลังจากมีการโอนคดีไปศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ จนถึงขณะนี้
นายทหารอีก 3 นายที่ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้ามามอบตัวเลย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B2/item/42319-safe.html
ผบ.คร. ยันสั่งย้าย "ปวีณ" เหมาะสม ไม่ได้กลั่นแกล้ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ยืนยันว่าการปรับย้าย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งและเป็นไปตามคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่เห็นว่ามีความเชี่ยวชาญด้านงานสอบสวนคดีความมั่นคง ส่วนที่ พล.ต.ต.ปวีณ อ้างว่าในพื้นที่มีความเสี่ยงและเคยทำคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลเนื่องจากเป็นตำรวจต้องสามารถทำงานได้ทุกพื้นที่
โดยส่วนตัวเห็นว่า พล.ต.ต.ปวีณ เป็นคนมีความสามารถ แต่เรื่องระเบียบวินัย ไม่สามารถรับรองได้ว่ามีหรือไม่
(แนะ มีขู่)
http://www.dailynews.co.th/crime/358344
เฮ้อออ...
นายเอาตัวรอด เอาใจผู้มีอำนาจไปวัน ๆ ส่วนลูกน้องเป็นตายช่างหัวเผือก
คดีอุยกูร์บึ้มราชประสงค์ ผบ.ตร. คนเก่า ก่อนเกษียณก็ปิดคดีอย่างเท่
สร้างตัวละคร "นายอ๊อด" ขึ้นมา เพื่อโยงใยทางการเมืองเรื่องทำลายเสื้อแดง แล้วปัดตูดไป
ผบ.ตร. คนใหม่รับงานปั๊บ บอกตั้งคณะทำงานสามสี่ชุดไล่ล่า "นายอ๊อด"
ถึงวันนี้ ไม่รู้นายอ๊อดอยู่ไหน อาจติดคุกเพราะ "ช่วยราชการ" ในคดีดมกาว ยาบ้า บ่อน อยู่ก็ได้ เลยยังไม่ปรากฎตัว
คดีหมอหยอง ก็บอกไม่มีทหารเกี่ยวข้อง
ทั้งที่มีหลักฐานเรื่องเงินทอง เรื่องหนีข้ามชายแดนไปพม่า
อีกหมื่นปี ตำรวจไทยก็ไม่เปลี่ยน
วังเวง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้งานนี้ ผมเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ 2 อย่าง
1. ไม่อนุมัติใบลาออก ใครบอกไม่ให้ ผบ.ตร.อนุมัติ คงไม่ต้องบอก ก็ขนาดบอกให้สั่งย้ายยังบอกได้
เพื่อล้างแค้นที่บังอาจมาทำคดี
2. อนุมัติใบลาออก เปลี่ยนชุดสอบสวนใหม่ รื้อคดีใหม่หมด
หึหึ ตำรวจด้วยกันยังขนาดนี้ ลูกน้องแท้ ๆ ยังขนาดนี้ แล้วประชาชีจะขนาดไหน
พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา
ถูกผู้บังคับบัญชาย้ายไปอยู่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ได้ยื่นเรื่องลาออกจากราชการแล้ว (มีผล 6 ธ.ค. 58) เพราะรู้ตัวว่าโดน "ล็อคเป้า"
อยู่ต่อไปได้เป็น "จ่าเพียร 2" แน่นอน
มาดูคำสัมภาษณ์กันครับ
"มีนายตำรวจระดับสูงเรียกผมไปบอกว่าทหารเขาไม่พอใจที่ไปจับทหาร ให้ผมแจ้งท่านเอก รีบไปเคลียร์กับฝ่ายนั้น ต่อมาวันที่ 4 ต.ค. ผมเดินทางมาร่วมฟังการแถลงนโยบายของท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มีนายตำรวจเข้ามาเตือนอีกว่าพวกผมไปจับทหารได้ไง ทหารเขาโกรธนะ คุณไปกลั่นแกล้งเขาหรือเปล่า นายตำรวจคนเดียวกันบอกผมด้วยว่ามีนายทหารระดับสูงเตือนมา มันอันตราย ต้องระวังตัวนะ อย่าทำต่อเลย ผมไม่ได้พูดอะไร รวมทั้งไม่โต้แย้ง แต่ก็กลับมาคิดเพราะช่วงหนึ่งที่สอบสวน พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ท่านบอกว่าคุณตำรวจ ผมไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน ผมมีพรรคมีพวก ซึ่งท่านเป็นเตรียมทหารรุ่น 16 มีเพื่อนฝูงมากมายรวมทั้งท่านแม่ทัพ ภาค 4 ด้วย"
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000124180
“ตลอดเวลากว่า 5 เดือนของผมและตำรวจทุกคนในคณะทำงานที่ร่วมกันสืบสวนสอบสวนคดี จนทำสำนวนคดีเป็นเอกสาร 2 แสนกว่าแผ่น ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องไป 153 ราย ทุกคนทำงานอย่างยากลำบาก ไม่ได้กินนอนอย่างสบาย จริงๆ ทุกคนควรจะได้รับบำเหน็จ แต่สิ่งที่ผมได้รับคือถูกย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ซึ่งตลอดอายุการรับราชการตำรวจของผมจนขณะนี้อายุ 57 ปีแล้ว ยังไม่เคยทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อนเลย ไม่มีข้อมูลและไม่เคยทำคดีในพื้นที่นี้เลย การส่งผมลงไปทำงานในพื้นที่สามจังหวัดจึงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับพื้นที่ตรงนั้น ตรงกันข้ามเหมือนกับส่งผมไปเสี่ยงอันตรายด้วยซ้ำ ผมเคยขออยู่ที่เดิม แต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย”
"เริ่มรู้ว่าเกิดความไม่พอใจจากกลุ่มผู้ถูกออกหมายจับ สัญญาณที่เห็นได้ชัด คือมีการข่มขู่พยานสำคัญจากลูกน้องของคนมีสีที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งได้มีการแจ้งความเอาไว้และเป็นคดีแล้ว รวมไปถึงการถูกข่มขู่ของทหารนายหนึ่งซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากลุ่มหลังที่ถูกออกหมายจับ โดยคนสนิทของคนมีสีอีกคนหนึ่งส่งข้อความข่มขู่ไม่ให้เข้ามอบตัว และหลังจากมีการโอนคดีไปศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ จนถึงขณะนี้ นายทหารอีก 3 นายที่ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้ามามอบตัวเลย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผบ.คร. ยันสั่งย้าย "ปวีณ" เหมาะสม ไม่ได้กลั่นแกล้ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ยืนยันว่าการปรับย้าย พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งและเป็นไปตามคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่เห็นว่ามีความเชี่ยวชาญด้านงานสอบสวนคดีความมั่นคง ส่วนที่ พล.ต.ต.ปวีณ อ้างว่าในพื้นที่มีความเสี่ยงและเคยทำคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลเนื่องจากเป็นตำรวจต้องสามารถทำงานได้ทุกพื้นที่
โดยส่วนตัวเห็นว่า พล.ต.ต.ปวีณ เป็นคนมีความสามารถ แต่เรื่องระเบียบวินัย ไม่สามารถรับรองได้ว่ามีหรือไม่
(แนะ มีขู่)
http://www.dailynews.co.th/crime/358344
เฮ้อออ...
นายเอาตัวรอด เอาใจผู้มีอำนาจไปวัน ๆ ส่วนลูกน้องเป็นตายช่างหัวเผือก
คดีอุยกูร์บึ้มราชประสงค์ ผบ.ตร. คนเก่า ก่อนเกษียณก็ปิดคดีอย่างเท่
สร้างตัวละคร "นายอ๊อด" ขึ้นมา เพื่อโยงใยทางการเมืองเรื่องทำลายเสื้อแดง แล้วปัดตูดไป
ผบ.ตร. คนใหม่รับงานปั๊บ บอกตั้งคณะทำงานสามสี่ชุดไล่ล่า "นายอ๊อด"
ถึงวันนี้ ไม่รู้นายอ๊อดอยู่ไหน อาจติดคุกเพราะ "ช่วยราชการ" ในคดีดมกาว ยาบ้า บ่อน อยู่ก็ได้ เลยยังไม่ปรากฎตัว
คดีหมอหยอง ก็บอกไม่มีทหารเกี่ยวข้อง
ทั้งที่มีหลักฐานเรื่องเงินทอง เรื่องหนีข้ามชายแดนไปพม่า
อีกหมื่นปี ตำรวจไทยก็ไม่เปลี่ยน
วังเวง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้