ปืนพกกึ่งอัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มากในช่วงตอนปลายของศตวรรษที่ 19 และด้วยความที่ว่าพวกมันสามารถบรรจุกระสุนได้เยอะกว่า 6 นัดนั่นจึงทำให้นายทหารของแต่ละประเทศทั่วโลกต้องการปืนพกกึ่งอัตโนมัติมาใช้งานโดยที่ไม่รอให้กองทัพแจกให้แต่เลือกที่จะซื้อมาใช้ส่วนตัว Mauser C96 ที่คุณเห็นอยู่นี้เป็นสมบัติส่วนตัวของนายทหารสหรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในฟิลิปปินส์ในช่วงปี 1899-1902 บนซองหนังของปืนกระบอกนี้มีคำว่า "Maestranza de Manila" ซึ่งเป็นชื่อของคลังสรรพาวุธของกองทัพสหรัฐในกรุงมะนิลาและตรา "US" ซึ่งก็ย่อมาจากคำว่า United states นั่นแหละ



ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าของปืนกระบอกนี้จะต้องซื้อเองไม่เอาปืนหลวงแจกเหตุผลหลักๆที่ผมพอจะอนุมานได้มันมีอยู่ 2 ข้อ

1. ปืนรุ่นนี้มีความจุกระสุน10 นัดซึ่งสำหรับสมัยนั้นถือว่าลูกดกมากสำหรับปืนพก

2. กระสุนขนาด 7.63 เมาเซอร์ ที่ปืนรุ่นนี้ใช้มีอานุภาพที่รุนแรงมาก (เคยถูกจัดให้เป็นกระสุนปืนพกที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในโลกจนกระทั่งการมาถึงของ .357 Magnum) เชื่อถือได้มากกว่ากระสุนขนาด .38 ที่ใช้ในปืนลูกโม่ Double action ของ Colt กับ Smith & Wesson ที่เป็นปืนพกมาตรฐานของกองทัพสหรัฐในเวลานั้นอันที่จริงแล้วการปราบกบฏโมโรในฟิลิปปินส์ทำให้กองทัพสหรัฐพบว่ากระสุนขนาด .38 มันไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการหยุดยั้งพวกกบฏทำให้ต้องมีการนำปืนลูกโม่ขนาด .45 Long colt โมเดลเก่าๆที่ถูกปลดประจำการไปแล้วมาใช้ใหม่ (เหตุการณ์นี้แหละที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาปืนพกกึ่งอัตโนมัติที่ใช้กระสุนขนาด .45 จนได้เป็น M1911) ถึงแม้ว่ากระสุนขนาด 7.63 เมาเซอร์ จะไม่ได้มีอำนาจการหยุดยั้งที่รุนแรงเท่า .45 Long colt แต่ก็เชื่อถือได้มากกว่า .38 แน่นอน

จึงถือได้ว่านายทหารนายนี้ฉลาดเลือกเป็นอย่างมากในการหาอาวุธคู่กายที่ทันสมัยและน่าเชื่อถือมาใช้งานในงานราชการของกองทัพสหรัฐ.

https://www.reddit.com/r/ForgottenWeapons/comments/1c8lq23/early_flat_side_mauser_c96_and_us_stamped_leather/#lightbox