ปืนลูกโม่ดับเบิลแอคชั่น (Double-Action) รุ่นเดียวที่บริษัท Marlin Firearms Co. ผลิตขึ้น และถือเป็นปืนพกรุ่นเดียวและรุ่นสุดท้ายที่มาร์ลินทำขายก่อนจะหันไปเน้นการผลิตปืนไรเฟิลเป็นหลักโดยปืนรุ่นนี้ถูกออกแบบและผลิตในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ระหว่างปี 1887 ถึง 1899 ที่เมืองนิวเฮเวน รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่มาร์ลินยังคงทดลองขยายสายผลิตภัณฑ์ไปนอกเหนือจากปืนยาวที่พวกเขาเริ่มมีชื่อเสียง (Marlin Firearms Co. ก่อตั้งในปี 1870 โดย John Mahlon Marlin หลังจากสิทธิบัตรปืนลูกโม่ของ Rollin White หมดอายุในปีเดียวกันเขาจึงเห็นโอกาสในตลาดปืนลูกโม่)







ปืนรุ่นนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1887 (ตามที่ระบุบนตัวปืน: "Patented August 9, 1887") การผลิตดำเนินไปเพียง 3 ปี (1887-1889) ในบางแหล่งข้อมูลระบุยาวถึงปี 1899 โดยมีการผลิตทั้งหมดประมาณ 15,000 กระบอกซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับปืนรุ่นอื่นๆ ในยุคนั้น

Marlin 1887 เป็นปืนพกแบบ Top-Break ที่มีระบบ Auto-Ejector (เมื่อหักลำกล้อง ปลอกกระสุนจะถูกดีดออกอัตโนมัติ) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทันสมัยในสมัยนั้น

มีสองรุ่นย่อยตามขนาดกระสุน

.32 Centerfire (6 นัด)

.38 S&W (5 นัด)

โครงปืนทำจากเหล็กกล้า (Steel Frame)

น้ำหนักประมาณ 17 ออนซ์ (482 กรัม) ขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับพกพาในกระเป๋า (Pocket Revolver)

ความยาวรวม 7 นิ้ว (17.78 ซม.)

ปืนรุ่นนี้มีสองเวอร์ชัน

รุ่นแรกสุด (ประมาณ 2,000 กระบอก) ใช้บานพับแบบเดียวกับ Smith & Wesson

รุ่นปรับปรุงมีสกรูพิเศษข้างบานพับซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ D.H. Rice ที่พัฒนาระบบดีดปลอกกระสุนให้ดีขึ้น




Marlin 1887 ขนาด .38 S&W

Marlin 1887 ถูกออกแบบมาให้เป็นปืนพกสำหรับพลเรือนโดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการปืนขนาดเล็กสำหรับป้องกันตัวเช่น คนงานรถไฟ (ตามที่บางแหล่งระบุว่าเคยเป็นของพนักงานรถไฟในฟอร์ตเวิร์ธ รัฐเท็กซัส) หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งอย่าง U.S. Express Co. (พบตราประทับ "U.S. Ex. Co." บนบางกระบอก) ในแคตตาล็อกของมาร์ลินปี 1887 ระบุว่า "เหมือนปืน Smith & Wesson และไม่ด้อยกว่าในทุกด้าน" แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพ
อย่างไรก็ตามปืนรุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับคู่แข่งอาจเพราะมาร์ลินมีชื่อเสียงด้านปืนยาวมากกว่าและหลังจากปี 1889 (หรือ 1899 ในบางข้อมูล) บริษัทตัดสินใจยุติการผลิตปืนพกทั้งหมดหันไปโฟกัสที่ปืนไรเฟิลระบบคานเหวี่ยง (Lever-Action) เช่น Model 1881 และ Model 1894 ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของมาร์ลินในเวลาต่อมา


https://www.americanrifleman.org/content/rifleman-q-a-marlin-model-1887-revolvers/

https://www.bidsquare.com/online-auctions/north-american-auction/marlin-model-1887-double-action-38-revolver-1792742

https://www.rockislandauction.com/detail/63/1107/marlin-firearms-co-1887-revolver-38-cf