คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/Borchardt_C-93
ออกแบบโดย Hugo Borchardt ชาวเยอรมันแต่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐพร้อมกับครอบครัวประวัติของเขามีไม่มากนักแต่ เชื่อกันว่าในวัยหนุ่มก่อนจะทำงานเกี่ยวกับอาวุธปืนเขาเป็นโฟร์แมนให้กับบริษัท Singer Sewing Machine company. หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปทำงานด้านปืนไรเฟิลในบริษัท Sharps ก่อนจะย้ายมาทำงานกับวินเชสเตอร์เริ่มแรกเขาออกแบบปืนไรเฟิลให้กับบริษัทนี้ก่อนที่ทางบริษัทจะมอบหมายงานออกแบบปืนลูกโม่ให้กับเขาเพื่อนำไปแข่งขันในตลาดกับของ Colt แต่ตอนมาภายหลังทั้ง วินเชสเตอร์ และ Colt สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะไม่แข่งขันกันระหว่างสินค้าชิ้นโบว์แดงของกันและกันได้เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเขาก็ตัดสินใจย้ายกลับไปยุโรปโดยทำงานกับ Ludwig Loewe & Company ซึ่งต่อมาจะเปลี่ยนชื่อเป็น Deutsche Waffen und Munitionsfabrike (DWM) ผู้ผลิตปืนพก Luger อันโด่งดังนั่นเอง Hugo Borchardt ได้แนวคิดในการออกแบบปืนพกอัตโนมัติมาจากระบบการทำงานของปืนกลแม็กซิมซึ่งตัวของ Sir Hiram Stevens Maxim เองก็เอาแรงบันดาลใจจากการออกแบบระบบกลไกปืนกลของเขามาจากการทำงานของหัวเข่ามนุษย์
ปืนพกของเค้าออกแบบและทำการทดสอบจนเสร็จสิ้นในปี 1893 จากนั้นบริษัท DWM ก็เริ่มออกวางจำหน่ายไปหลายประเทศโดยการให้เซลแมนมือ 1 ของบริษัทนั่นก็คือ Georg Luger นั่นเอง Luger นำปืนของ Borchardt ไปให้กองทัพสวิตเซอร์แลนด์ทำการทดสอบกองทัพสวิสพอใจในปืนพกชนิดนี้เป็นอย่างมากส่วนในสหรัฐร้อยโทโรเบิร์ตอีแวนแห่ง 12th US Infantry กองทัพสหรัฐกล่าวว่ามันเป็นปืนพกที่น่าเชื่อถือและมีความแม่นยำมาก แต่อย่างไรก็ตามกองทัพสวิสมีข้อเรียกร้องใหม่ให้กับบริษัท DWM เพราะปืนพก C-93 นั้นมีขนาดที่เทอะทะและไม่สะดวกในการพกพาเอาเสียเลย
ทางบริษัทจึงขอให้ Hugo Borchardt แก้ไขแบบปืนพกของเขาแต่เขาปฏิเสธพร้อมกับพูดเป็นเชิงว่าจะไม่เปลี่ยนแบบของปืนชนิดนี้โดยเด็ดขาดทำให้ DWM ตัดสินใจปลดเค้าออกจากโครงการทุกโครงการที่เกี่ยวกับการขายปืนพกอัตโนมัติให้กับกองทัพสวิตเซอร์แลนด์และให้ Georg Luger เข้ามาสานต่องานนี้แทนผลที่ได้ก็คือ Luger ปืนพกสุดคลาสสิคแห่งศตวรรษที่ 20 นั่นเอง
จากตรงจุดนี้ทำให้ Hugo Borchardt รู้สึกหมดกำลังใจในหน้าที่การงานเป็นอย่างมากพร้อมกับพูดบ่อยๆว่าเขาควรจะได้รับเครดิตในการสร้าง Luger มากกว่านี้
เหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงเป็นบิดาแห่งปืนพกออโตเมติกยุคใหม่น่ะหรือ?
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับระบบการทำงานของปืนพกชนิดนี้นะครับแต่มันเกี่ยวกับสามสิ่งที่ Hugo Borchardt ออกแบบไว้ต่างหาก
1. กระสุนแบบไร้ขอบ กระสุนชนิดนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีขอบที่ท้ายกระสุนเพราะกลไกของปืนเป็นแบบอัตโนมัติจึงไม่จำเป็นต้องมีขอบเอาไว้สำหรับยึดติดใน ช่องบรรจุกระสุนเหมือนปืนลูกโม่
2. Magazine เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในปืนพกสมัยนั้นเพราะยังไม่มีใครคิดเรื่องการบรรจุกระสุนได้ดีไปกว่าแบบลูกโม่หรือแบบคลิปหนีบกระสุนที่ใช้ในปืนไรเฟิลเลย
3. กระสุนขนาด 7.65X25mm Borchard กระสุนชนิดนี้เป็นพื้นฐานในการพัฒนากระสุนที่โด่งดังในยุคต่อมาไม่ว่าจะเป็น 7.65 Parabellum 7.63 Mauser,7.62 Tokarev และสุดท้ายแน่นอน 9X19 Luger นั่นเอง
มันน่าเศร้าเเถมตลกร้ายตรงที่ว่าในปี 1909 Hugo Borchardt ได้จดสิทธิบัตรปืนที่ปรับปรุงเเล้วของเขาเเต่ไม่ได้รับความสนใจใดๆทั้งสิ้น
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 77 Borchardt C-93 บิดาแห่งปืนพกออโตเมติกยุคใหม่
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออกแบบโดย Hugo Borchardt ชาวเยอรมันแต่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐพร้อมกับครอบครัวประวัติของเขามีไม่มากนักแต่ เชื่อกันว่าในวัยหนุ่มก่อนจะทำงานเกี่ยวกับอาวุธปืนเขาเป็นโฟร์แมนให้กับบริษัท Singer Sewing Machine company. หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปทำงานด้านปืนไรเฟิลในบริษัท Sharps ก่อนจะย้ายมาทำงานกับวินเชสเตอร์เริ่มแรกเขาออกแบบปืนไรเฟิลให้กับบริษัทนี้ก่อนที่ทางบริษัทจะมอบหมายงานออกแบบปืนลูกโม่ให้กับเขาเพื่อนำไปแข่งขันในตลาดกับของ Colt แต่ตอนมาภายหลังทั้ง วินเชสเตอร์ และ Colt สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะไม่แข่งขันกันระหว่างสินค้าชิ้นโบว์แดงของกันและกันได้เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเขาก็ตัดสินใจย้ายกลับไปยุโรปโดยทำงานกับ Ludwig Loewe & Company ซึ่งต่อมาจะเปลี่ยนชื่อเป็น Deutsche Waffen und Munitionsfabrike (DWM) ผู้ผลิตปืนพก Luger อันโด่งดังนั่นเอง Hugo Borchardt ได้แนวคิดในการออกแบบปืนพกอัตโนมัติมาจากระบบการทำงานของปืนกลแม็กซิมซึ่งตัวของ Sir Hiram Stevens Maxim เองก็เอาแรงบันดาลใจจากการออกแบบระบบกลไกปืนกลของเขามาจากการทำงานของหัวเข่ามนุษย์
ปืนพกของเค้าออกแบบและทำการทดสอบจนเสร็จสิ้นในปี 1893 จากนั้นบริษัท DWM ก็เริ่มออกวางจำหน่ายไปหลายประเทศโดยการให้เซลแมนมือ 1 ของบริษัทนั่นก็คือ Georg Luger นั่นเอง Luger นำปืนของ Borchardt ไปให้กองทัพสวิตเซอร์แลนด์ทำการทดสอบกองทัพสวิสพอใจในปืนพกชนิดนี้เป็นอย่างมากส่วนในสหรัฐร้อยโทโรเบิร์ตอีแวนแห่ง 12th US Infantry กองทัพสหรัฐกล่าวว่ามันเป็นปืนพกที่น่าเชื่อถือและมีความแม่นยำมาก แต่อย่างไรก็ตามกองทัพสวิสมีข้อเรียกร้องใหม่ให้กับบริษัท DWM เพราะปืนพก C-93 นั้นมีขนาดที่เทอะทะและไม่สะดวกในการพกพาเอาเสียเลย
ทางบริษัทจึงขอให้ Hugo Borchardt แก้ไขแบบปืนพกของเขาแต่เขาปฏิเสธพร้อมกับพูดเป็นเชิงว่าจะไม่เปลี่ยนแบบของปืนชนิดนี้โดยเด็ดขาดทำให้ DWM ตัดสินใจปลดเค้าออกจากโครงการทุกโครงการที่เกี่ยวกับการขายปืนพกอัตโนมัติให้กับกองทัพสวิตเซอร์แลนด์และให้ Georg Luger เข้ามาสานต่องานนี้แทนผลที่ได้ก็คือ Luger ปืนพกสุดคลาสสิคแห่งศตวรรษที่ 20 นั่นเอง
จากตรงจุดนี้ทำให้ Hugo Borchardt รู้สึกหมดกำลังใจในหน้าที่การงานเป็นอย่างมากพร้อมกับพูดบ่อยๆว่าเขาควรจะได้รับเครดิตในการสร้าง Luger มากกว่านี้
เหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงเป็นบิดาแห่งปืนพกออโตเมติกยุคใหม่น่ะหรือ?
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับระบบการทำงานของปืนพกชนิดนี้นะครับแต่มันเกี่ยวกับสามสิ่งที่ Hugo Borchardt ออกแบบไว้ต่างหาก
1. กระสุนแบบไร้ขอบ กระสุนชนิดนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีขอบที่ท้ายกระสุนเพราะกลไกของปืนเป็นแบบอัตโนมัติจึงไม่จำเป็นต้องมีขอบเอาไว้สำหรับยึดติดใน ช่องบรรจุกระสุนเหมือนปืนลูกโม่
2. Magazine เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในปืนพกสมัยนั้นเพราะยังไม่มีใครคิดเรื่องการบรรจุกระสุนได้ดีไปกว่าแบบลูกโม่หรือแบบคลิปหนีบกระสุนที่ใช้ในปืนไรเฟิลเลย
3. กระสุนขนาด 7.65X25mm Borchard กระสุนชนิดนี้เป็นพื้นฐานในการพัฒนากระสุนที่โด่งดังในยุคต่อมาไม่ว่าจะเป็น 7.65 Parabellum 7.63 Mauser,7.62 Tokarev และสุดท้ายแน่นอน 9X19 Luger นั่นเอง
มันน่าเศร้าเเถมตลกร้ายตรงที่ว่าในปี 1909 Hugo Borchardt ได้จดสิทธิบัตรปืนที่ปรับปรุงเเล้วของเขาเเต่ไม่ได้รับความสนใจใดๆทั้งสิ้น