พิธา-ก้าวไกล ลุ้น กกต.จ่อถกคดี ล้มล้างการปกครอง-ยื่นยุบพรรค สัปดาห์หน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4456421
พิธา-ก้าวไกล ระทึก กกต.จ่อถกคดี ล้มล้างการปกครอง-ยื่นยุบพรรคสัปดาห์หน้า หลังวันนี้ต้องเลื่อนพิจารณา เหตุสำนักงาน ชงเป็นวาระจร กรรมการสั่งหาข้อมูลเพิ่ม
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เสนอผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง และกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระผู้ยื่นคำร้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นขอให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารตามมาตรา 92 (1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จากเหตุดังกล่าวให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาเป็นวาระจร แต่เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ กกต.ควรได้มีเวลาศึกษา ข้อมูลรายงานที่ทางสำนักงานฯเสนอมาให้ครบถ้วนก่อน จึงได้สั่งเลื่อนวาระพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน โดยคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าพิจารณาในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่า สำนักงานฯได้มีการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีการอ่านให้คู่กรณีฟังเมื่อวันที่ 31 มกราคม แต่ กกต.เห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนควรรอศึกษาคำวินิจฉัยกลางซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงยืนยันว่า กกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยไม่ชักช้า
แหล่งข่าวจาก กกต.ระบุว่า ที่ประชุม กกต.วันนี้สำนักงานฯเสนอผลการพิจารณาเพิ่มเติมหลังศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ออกเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งที่ประชุม กกต.มีประเด็นให้สำนักงานฯตรวจสอบและเสนอความเห็นเพิ่มเติมโดยให้นำเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
"ปารมี" ชี้ "เซ็กซ์เวิร์กเกอร์" ต้นตอ "กะเทยผ่านศึก" จ่อเสนอ ก.ม.เข้าสภา
https://www.thairath.co.th/news/politic/2768197
"ปารมี ไวจงเจริญ" สส.ก้าวไกล ชี้ "เซ็กซ์เวิร์กเกอร์" ต้นตอเหตุ ปรากฏการณ์ "กะเทยผ่านศึก" ยัน เข้าใจหัวอกกะเทยไทย แต่ไม่หนุนความรุนแรง จ่อเสนอร่าง กฎหมาย เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เข้าสภาฯ ขอรัฐบาล ชงร่างประกบ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นาย
ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ กะเทยผ่านศึก ว่า ตนยืนยันหลักการ ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งประเด็นนี้ ต้นตอปัญหา ใหญ่ๆ มีอาทิ เกิดจากมีแก๊งมาเฟีย เข้ามาเกี่ยวข้อง คือเคสนี้ มันเกิดต่อเนื่องมาจาก เมื่อ2-3 วันที่แล้ว ที่กะเทย เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ฟิลิปปินส์ มาตบตีกะเทยไทยก่อน ตนเข้าใจ และเห็นใจกะเทยไทย กลุ่มที่ก่อเหตุ แต่ความรุนแรงมันแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องกลับไปที่ต้นตอ ว่า แก๊งมาเฟีย เหล่านี้เข้าเมืองมาเป็นนักท่องเที่ยว มาเป็นเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย แล้วยังมาทำผิดกฎหมายด้วยการทำร้ายร่างกายอีก แต่เขาเป็นแก๊งมาเฟีย กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถปราบแก๊งมาเฟียนี้ได้ นี่คือต้นตอใหญ่ ใช่หรือไม่ มันจึงนำไปสู่แก๊งมาเฟีย ที่รุมตบกะเทยไทย เมื่อ 2 วันที่แล้ว
“
เรื่องการยุติความรุนแรงในสังคม ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะมีหลายรูปแบบมากในสังคมไทย ทั้งเรื่องช่างกล ตีกัน เด็กผู้หญิงตบกันแย่งแฟน และล่าสุดเป็นกะเทยเมื่อคืนเหตุการณ์น่ากลัวมาก เป็นม็อบย่อยๆ แล้วไม่มีกฎหมายเลย แต่ดิฉันเข้าใจเลยนะหัวอกกะเทย ว่า มันเกิดมาจากกะเทยฟิลิปปินส์ หาเรื่องก่อนอันนี้เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา มันแก้ไม่ได้ ดิฉันอยากย้ำให้สังคมตั้งสติ ” นาย
ปารมี กล่าว
นาย
ปารมี กล่าวว่า มีต้นตอที่ลึกลงไปอีก คือ ธุรกิจเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ในไทยมันเป็นสีเทา เจ้าหน้าที่รัฐเข้าแสวงหาผลประโยชน์ ปราบแก๊งมาเฟียแล้ว ต้องแก้ธุรกิจสีเทาด้วย นโยบายพรรคก้าวไกล ต้องการทำธุรกิจสีเทาเหล่านี้ให้ถูกกฎหมาย เราต้องมาพูดคุยรายละเอียด เรื่อง เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ และสถานบันเทิง หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน ในสภาฯ เพื่อทำธุรกิจสีเทาเหล่านี้ ให้ไม่เทาอีกต่อไป เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องเขาจะได้ไม่มามีผลประโยชน์ ฉะนั้น การที่ธุรกิจสีเทาเป็นที่มาของแก๊งมาเฟีย ต้องแก้หลายๆ มิติ พรรคก้าวไกล กำลังจะยื่นร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เป็นต้น เข้าสู่ สภาฯ อีกไม่นานนี้ อยากส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาล อย่ามองที่เกมการเมือง มาร่วมมือกันเถอะ อย่ามองว่า ร่างกฎหมายเป็นของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก่อนหน้านี้กฎหมายเรื่องการรับรองเพศและคำนำหน้านาม ก็เสียใจที่มันต้องตกไปในสภาฯ ดังนั้น เรียกร้องไปยังรัฐบาลเลย กรณีนี้ หากรัฐบาลเห็นด้วยกับเรา หากมีรายละเอียดที่ต่างกันบ้าง ก็ให้รีบร่างกฎหมายขึ้นมาประกบ แล้วเดี๋ยวมาพูดคุยกันในชั้น กมธ.ก็ได้
ครูธัญ ชี้ศึกกะเทย สะท้อนถูกกดทับ ทวงถามนายกฯ ความคืบหน้า กม.sex worker
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8125330
‘ครูธัญ’ ชี้ ศึกกะเทยไทย ปะทะ กะเทยปินส์ สะท้อนความโกรธเกรี้ยว-ถูกกดทับ-ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทวงถาม นายกฯ หารือกม. sex worker คืบหน้าถึงไหนแล้ว
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 นาย
ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีกะเทยชาวไทย ถูกกะเทยชาวฟิลิปปินส์รุมทำร้ายร่างกาย บริเวณซอยสุขุมวิท 11 จนเกิดศึกวันกะเทยไทย ว่า เรื่องนี้มีการกล่าวถึงชาติเข้ามาเกี่ยวข้องในการตอบโต้กันของทั้ง 2 ฝั่ง
เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่า กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ ไม่ได้เป็นตัวแทนภาพรวมของกะเทยฟิลิปปินส์ทั้งหมด ซึ่งเราไม่ได้ว่ากะเทยฟิลิปปินส์ แต่เราต้องว่าบุคคลที่มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ซึ่งเมื่อกะเทยชาวไทยถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามคำกล่าวอ้างของกะเทยฟิลิปปินส์ จึงเกิดการรวมตัวกันของกะเทยไทยขึ้น
ซึ่งสาเหตุมาจาก ข้อแรก ความเป็นกะเทยนั้นถูกกดทับในสังคมอยู่แล้ว ข้อสอง ด้วยอาชีพที่ทำอยู่นั้นก็ไม่ถูกกฎหมาย ไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมจากด้านใดได้เลย ไม่ว่าจะถูกเอาเปรียบจากผู้ใช้บริการ นายจ้าง
รวมทั้งมีการปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพดังกล่าว ทั้งที่ได้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา จึงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม รู้สึกว่ารัฐไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน จึงเป็นความโกรธเกรี้ยวที่เกิดขึ้นจากการซุกเรื่องไว้ใต้ดิน และไม่ยอมแก้ปัญหา ตนอยากให้รัฐแก้ไขเรื่องนี้
นาย
ธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล มีร่างกฎหมายเรื่องนี้พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งทางเรายังไม่ยื่น เนื่องจากในช่วงที่เรายื่นร่างกฎหมายคำนำหน้าตามความสมัครใจเข้าสภาฯ แต่ถูกปัดตก ตนจึงพิจารณาว่าจะรอยื่นร่างกฎหมายประกบพร้อมกับร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ซึ่งนาย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่าจะสนับสนุนสมรสเท่าเทียม อัตลักษณ์ทางเพศของชาว LGBTQ+ รวมทั้งการยกเลิกการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ตนก็ขอเรียกร้องให้นาย
เศรษฐา ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที ซึ่งพรรคก้าวไกลก็พร้อมเข้าไปร่วมทำงานด้วย
อีกสิ่งสำคัญ คือ เราอยากทราบความคืบหน้าในเรื่องนี้ นาย
เศรษฐา รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องอย่าง นาย
วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนาย
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ปรึกษาหารือในเรื่องกฎหมายรับรองอาชีพเหล่านี้ถึงไหนแล้ว เราไม่อยากเห็นนักการเมืองให้สัญญากับประชาชน แต่สุดท้ายกลับยังไม่ขับเคลื่อนอะไรเท่าที่ควร
นาย
ธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางกลุ่มกะเทยไทยก็ได้ปักหมุดหมาย ให้วันนี้เป็นวันกะเทยไทยผ่านศึก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหมุดสำคัญของการต่อสู้ที่กลุ่มกะเทยได้ออกมาเรียกร้องความไม่เป็นธรรม เราต้องเข้าไปดูให้ทุกครบทุกมิติ และผลักดันกฎหมายให้เกิดขึ้นจริง
เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว คาดว่าทางรัฐบาลจะเร่งพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อรองรับเหล่า sex worker ให้เร็วขึ้นหรือไม่ นาย
ธัญวัจน์ กล่าวว่า เราก็อยากให้การพิจารณากระเตื้องขึ้น แต่ตนในฐานะที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นาย
ธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า เพราะหากยื่นร่างกฎหมาย ก่อนร่างของครม.จะเข้าสภาฯ ก็ถูกปัดตก ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐพร้อมจริงๆ หรือพร้อมเล่นๆ หรือกำลังดำเนินการแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตนขอเรียกร้องให้รัฐออกมาดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“เบสท์ ไทยสร้างไทย” เข้าใจพี่น้อง LGBTQ ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรี
https://www.dailynews.co.th/news/3233073/
"เบสท์ ไทยสร้างไทย" เข้าใจพี่น้อง LGBTQ ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรี จากการถูกทำร้าย หลังเหตุการณ์บานปลาย แนะเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระงับเหตุทันท่วงที พร้อมจี้ให้ตรวจสอบการหนีเข้าเมืองมาค้าบริการอย่างเปิดเผย.
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.
เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ พี่น้องกะเทยและชาว LGBTQ+ชาวไทย ทะเลาะวิวาทกับกะเทยชาวฟิลิปปินส์ โดยยืนยันว่าเข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้อง LGBTQ+ชาวไทย ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง โดยได้ช่วยเหลือกันจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง โดยได้แสดงพลังทวงคืนศักดิ์ศรี หลังถูกกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายก่อน ทั้งนี้ตนขอแสดงความห่วงใย และเข้าใจในสถานการณ์ โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แม้พี่น้องกะเทยชาวไทย จะถูกทำร้ายจากชาวต่างชาติก่อนก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันว่า ในประเทศไทยไม่ควรมีใครถูกทำร้าย โดยเฉพาะพี่น้องคนไทย ซึ่งมาจากการกระทำของชาวต่างชาติ ที่อาศัยประเทศไทยหากินแต่ยังกระทำผิดกฎหมาย
เบสท์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดและเป็นทางออกของเรื่องนี้ได้ คือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะตำรวจ ต้องเข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที และบังคับใช้มาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมาย หรือมีการบังคับใช้กฎหมายที่ล่าช้า อาจเป็นเหตุให้สถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อ จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาท ของพี่น้องชาว LGBTQ+ได้
“
ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นบทเรียนกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นธรรมรวดเร็ว เพื่อสร้างความยุติธรรมกับประชาชนพร้อมๆกับการทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่ขาดตกบกพร่อง เพื่อให้ตำรวจนั้นเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง และทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ถูกตั้งคำถามจากประชาชน ว่าต้องการปกป้องผู้กระทำความผิด หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำความผิดหรือไม่” เบสท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีการค้าบริการของกระเทยชาวฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า เมืองไทยมีการค้าบริการ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่จริง ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง ฝ่ายบริหารบ้านเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพิจารณาการผลักดันให้ Sex Worker หรือพนักงานบริการถูกกฎหมาย ให้พนักงานบริการเหล่านี้ มีสิทธิศักดิ์ศรีและการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างถูกต้องไม่ต่างจากอาชีพอื่น
เบสท์ กล่าวย้ำว่า ตนในฐานะที่ทำงานด้านความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมทางสังคม และรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ขอแสดงความเป็นห่วงต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายและฝากข้อพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวเราทุกคน ที่กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความเท่าเทียมทางเพศ
JJNY : 5in1 พิธา-ก้าวไกล ลุ้นจ่อถกคดี│"ปารมี" ชี้ต้นตอ│ครูธัญ ทวงถามนายกฯ│“เบสท์ ทสท.”เข้าใจพี่น้อง│โดรนยูเครนโจมตีเรือ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4456421
พิธา-ก้าวไกล ระทึก กกต.จ่อถกคดี ล้มล้างการปกครอง-ยื่นยุบพรรคสัปดาห์หน้า หลังวันนี้ต้องเลื่อนพิจารณา เหตุสำนักงาน ชงเป็นวาระจร กรรมการสั่งหาข้อมูลเพิ่ม
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เสนอผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง และกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระผู้ยื่นคำร้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นขอให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารตามมาตรา 92 (1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จากเหตุดังกล่าวให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาเป็นวาระจร แต่เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ กกต.ควรได้มีเวลาศึกษา ข้อมูลรายงานที่ทางสำนักงานฯเสนอมาให้ครบถ้วนก่อน จึงได้สั่งเลื่อนวาระพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน โดยคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าพิจารณาในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่า สำนักงานฯได้มีการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีการอ่านให้คู่กรณีฟังเมื่อวันที่ 31 มกราคม แต่ กกต.เห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนควรรอศึกษาคำวินิจฉัยกลางซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงยืนยันว่า กกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยไม่ชักช้า
แหล่งข่าวจาก กกต.ระบุว่า ที่ประชุม กกต.วันนี้สำนักงานฯเสนอผลการพิจารณาเพิ่มเติมหลังศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ออกเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งที่ประชุม กกต.มีประเด็นให้สำนักงานฯตรวจสอบและเสนอความเห็นเพิ่มเติมโดยให้นำเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
"ปารมี" ชี้ "เซ็กซ์เวิร์กเกอร์" ต้นตอ "กะเทยผ่านศึก" จ่อเสนอ ก.ม.เข้าสภา
https://www.thairath.co.th/news/politic/2768197
"ปารมี ไวจงเจริญ" สส.ก้าวไกล ชี้ "เซ็กซ์เวิร์กเกอร์" ต้นตอเหตุ ปรากฏการณ์ "กะเทยผ่านศึก" ยัน เข้าใจหัวอกกะเทยไทย แต่ไม่หนุนความรุนแรง จ่อเสนอร่าง กฎหมาย เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เข้าสภาฯ ขอรัฐบาล ชงร่างประกบ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ กะเทยผ่านศึก ว่า ตนยืนยันหลักการ ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งประเด็นนี้ ต้นตอปัญหา ใหญ่ๆ มีอาทิ เกิดจากมีแก๊งมาเฟีย เข้ามาเกี่ยวข้อง คือเคสนี้ มันเกิดต่อเนื่องมาจาก เมื่อ2-3 วันที่แล้ว ที่กะเทย เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ฟิลิปปินส์ มาตบตีกะเทยไทยก่อน ตนเข้าใจ และเห็นใจกะเทยไทย กลุ่มที่ก่อเหตุ แต่ความรุนแรงมันแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องกลับไปที่ต้นตอ ว่า แก๊งมาเฟีย เหล่านี้เข้าเมืองมาเป็นนักท่องเที่ยว มาเป็นเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย แล้วยังมาทำผิดกฎหมายด้วยการทำร้ายร่างกายอีก แต่เขาเป็นแก๊งมาเฟีย กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถปราบแก๊งมาเฟียนี้ได้ นี่คือต้นตอใหญ่ ใช่หรือไม่ มันจึงนำไปสู่แก๊งมาเฟีย ที่รุมตบกะเทยไทย เมื่อ 2 วันที่แล้ว
“เรื่องการยุติความรุนแรงในสังคม ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะมีหลายรูปแบบมากในสังคมไทย ทั้งเรื่องช่างกล ตีกัน เด็กผู้หญิงตบกันแย่งแฟน และล่าสุดเป็นกะเทยเมื่อคืนเหตุการณ์น่ากลัวมาก เป็นม็อบย่อยๆ แล้วไม่มีกฎหมายเลย แต่ดิฉันเข้าใจเลยนะหัวอกกะเทย ว่า มันเกิดมาจากกะเทยฟิลิปปินส์ หาเรื่องก่อนอันนี้เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา มันแก้ไม่ได้ ดิฉันอยากย้ำให้สังคมตั้งสติ ” นายปารมี กล่าว
นายปารมี กล่าวว่า มีต้นตอที่ลึกลงไปอีก คือ ธุรกิจเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ในไทยมันเป็นสีเทา เจ้าหน้าที่รัฐเข้าแสวงหาผลประโยชน์ ปราบแก๊งมาเฟียแล้ว ต้องแก้ธุรกิจสีเทาด้วย นโยบายพรรคก้าวไกล ต้องการทำธุรกิจสีเทาเหล่านี้ให้ถูกกฎหมาย เราต้องมาพูดคุยรายละเอียด เรื่อง เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ และสถานบันเทิง หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน ในสภาฯ เพื่อทำธุรกิจสีเทาเหล่านี้ ให้ไม่เทาอีกต่อไป เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องเขาจะได้ไม่มามีผลประโยชน์ ฉะนั้น การที่ธุรกิจสีเทาเป็นที่มาของแก๊งมาเฟีย ต้องแก้หลายๆ มิติ พรรคก้าวไกล กำลังจะยื่นร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เป็นต้น เข้าสู่ สภาฯ อีกไม่นานนี้ อยากส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาล อย่ามองที่เกมการเมือง มาร่วมมือกันเถอะ อย่ามองว่า ร่างกฎหมายเป็นของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก่อนหน้านี้กฎหมายเรื่องการรับรองเพศและคำนำหน้านาม ก็เสียใจที่มันต้องตกไปในสภาฯ ดังนั้น เรียกร้องไปยังรัฐบาลเลย กรณีนี้ หากรัฐบาลเห็นด้วยกับเรา หากมีรายละเอียดที่ต่างกันบ้าง ก็ให้รีบร่างกฎหมายขึ้นมาประกบ แล้วเดี๋ยวมาพูดคุยกันในชั้น กมธ.ก็ได้
ครูธัญ ชี้ศึกกะเทย สะท้อนถูกกดทับ ทวงถามนายกฯ ความคืบหน้า กม.sex worker
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8125330
‘ครูธัญ’ ชี้ ศึกกะเทยไทย ปะทะ กะเทยปินส์ สะท้อนความโกรธเกรี้ยว-ถูกกดทับ-ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทวงถาม นายกฯ หารือกม. sex worker คืบหน้าถึงไหนแล้ว
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีกะเทยชาวไทย ถูกกะเทยชาวฟิลิปปินส์รุมทำร้ายร่างกาย บริเวณซอยสุขุมวิท 11 จนเกิดศึกวันกะเทยไทย ว่า เรื่องนี้มีการกล่าวถึงชาติเข้ามาเกี่ยวข้องในการตอบโต้กันของทั้ง 2 ฝั่ง
เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่า กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ ไม่ได้เป็นตัวแทนภาพรวมของกะเทยฟิลิปปินส์ทั้งหมด ซึ่งเราไม่ได้ว่ากะเทยฟิลิปปินส์ แต่เราต้องว่าบุคคลที่มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ซึ่งเมื่อกะเทยชาวไทยถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามคำกล่าวอ้างของกะเทยฟิลิปปินส์ จึงเกิดการรวมตัวกันของกะเทยไทยขึ้น
ซึ่งสาเหตุมาจาก ข้อแรก ความเป็นกะเทยนั้นถูกกดทับในสังคมอยู่แล้ว ข้อสอง ด้วยอาชีพที่ทำอยู่นั้นก็ไม่ถูกกฎหมาย ไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมจากด้านใดได้เลย ไม่ว่าจะถูกเอาเปรียบจากผู้ใช้บริการ นายจ้าง
รวมทั้งมีการปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพดังกล่าว ทั้งที่ได้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา จึงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม รู้สึกว่ารัฐไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน จึงเป็นความโกรธเกรี้ยวที่เกิดขึ้นจากการซุกเรื่องไว้ใต้ดิน และไม่ยอมแก้ปัญหา ตนอยากให้รัฐแก้ไขเรื่องนี้
นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล มีร่างกฎหมายเรื่องนี้พร้อมอยู่แล้ว ซึ่งทางเรายังไม่ยื่น เนื่องจากในช่วงที่เรายื่นร่างกฎหมายคำนำหน้าตามความสมัครใจเข้าสภาฯ แต่ถูกปัดตก ตนจึงพิจารณาว่าจะรอยื่นร่างกฎหมายประกบพร้อมกับร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่าจะสนับสนุนสมรสเท่าเทียม อัตลักษณ์ทางเพศของชาว LGBTQ+ รวมทั้งการยกเลิกการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ตนก็ขอเรียกร้องให้นายเศรษฐา ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที ซึ่งพรรคก้าวไกลก็พร้อมเข้าไปร่วมทำงานด้วย
อีกสิ่งสำคัญ คือ เราอยากทราบความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายเศรษฐา รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องอย่าง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ปรึกษาหารือในเรื่องกฎหมายรับรองอาชีพเหล่านี้ถึงไหนแล้ว เราไม่อยากเห็นนักการเมืองให้สัญญากับประชาชน แต่สุดท้ายกลับยังไม่ขับเคลื่อนอะไรเท่าที่ควร
นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางกลุ่มกะเทยไทยก็ได้ปักหมุดหมาย ให้วันนี้เป็นวันกะเทยไทยผ่านศึก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหมุดสำคัญของการต่อสู้ที่กลุ่มกะเทยได้ออกมาเรียกร้องความไม่เป็นธรรม เราต้องเข้าไปดูให้ทุกครบทุกมิติ และผลักดันกฎหมายให้เกิดขึ้นจริง
เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว คาดว่าทางรัฐบาลจะเร่งพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อรองรับเหล่า sex worker ให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายธัญวัจน์ กล่าวว่า เราก็อยากให้การพิจารณากระเตื้องขึ้น แต่ตนในฐานะที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า เพราะหากยื่นร่างกฎหมาย ก่อนร่างของครม.จะเข้าสภาฯ ก็ถูกปัดตก ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐพร้อมจริงๆ หรือพร้อมเล่นๆ หรือกำลังดำเนินการแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตนขอเรียกร้องให้รัฐออกมาดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“เบสท์ ไทยสร้างไทย” เข้าใจพี่น้อง LGBTQ ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรี
https://www.dailynews.co.th/news/3233073/
"เบสท์ ไทยสร้างไทย" เข้าใจพี่น้อง LGBTQ ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรี จากการถูกทำร้าย หลังเหตุการณ์บานปลาย แนะเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระงับเหตุทันท่วงที พร้อมจี้ให้ตรวจสอบการหนีเข้าเมืองมาค้าบริการอย่างเปิดเผย.
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ พี่น้องกะเทยและชาว LGBTQ+ชาวไทย ทะเลาะวิวาทกับกะเทยชาวฟิลิปปินส์ โดยยืนยันว่าเข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้อง LGBTQ+ชาวไทย ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง โดยได้ช่วยเหลือกันจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง โดยได้แสดงพลังทวงคืนศักดิ์ศรี หลังถูกกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายก่อน ทั้งนี้ตนขอแสดงความห่วงใย และเข้าใจในสถานการณ์ โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แม้พี่น้องกะเทยชาวไทย จะถูกทำร้ายจากชาวต่างชาติก่อนก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันว่า ในประเทศไทยไม่ควรมีใครถูกทำร้าย โดยเฉพาะพี่น้องคนไทย ซึ่งมาจากการกระทำของชาวต่างชาติ ที่อาศัยประเทศไทยหากินแต่ยังกระทำผิดกฎหมาย
เบสท์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดและเป็นทางออกของเรื่องนี้ได้ คือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะตำรวจ ต้องเข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที และบังคับใช้มาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมาย หรือมีการบังคับใช้กฎหมายที่ล่าช้า อาจเป็นเหตุให้สถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อ จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาท ของพี่น้องชาว LGBTQ+ได้
“ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นบทเรียนกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นธรรมรวดเร็ว เพื่อสร้างความยุติธรรมกับประชาชนพร้อมๆกับการทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่ขาดตกบกพร่อง เพื่อให้ตำรวจนั้นเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง และทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ถูกตั้งคำถามจากประชาชน ว่าต้องการปกป้องผู้กระทำความผิด หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำความผิดหรือไม่” เบสท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีการค้าบริการของกระเทยชาวฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า เมืองไทยมีการค้าบริการ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่จริง ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง ฝ่ายบริหารบ้านเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพิจารณาการผลักดันให้ Sex Worker หรือพนักงานบริการถูกกฎหมาย ให้พนักงานบริการเหล่านี้ มีสิทธิศักดิ์ศรีและการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างถูกต้องไม่ต่างจากอาชีพอื่น
เบสท์ กล่าวย้ำว่า ตนในฐานะที่ทำงานด้านความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมทางสังคม และรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ขอแสดงความเป็นห่วงต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายและฝากข้อพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวเราทุกคน ที่กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความเท่าเทียมทางเพศ