เปิด 14 หุ้น SET50 กำไรปี 2566 ทะลุเกินหมื่นล้านบาท บวกสูงสุด 42%

เปิด 14 หุ้น SET50 กำไรปี 2566 ทะลุเกินหมื่นล้านบาท BBL บวกสูงสุด 42% มีกำไรสุทธิ 41,636 ล้านบาท ด้าน CPALL มีกำไร 18,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.3%
 
ห้วงนี้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศงบไตรมาส 4/2566 และงบปี 2566 กันไปเกือบจะครบทุกบริษัทแล้ว ซึ่งถ้าโฟกัสไปที่ดัชนี SET50 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นที่เชื่อกันว่า ดีที่สุดในตลาดหุ้น ผ่านการคัดกรอง คัดสรร มาในระดับหนึ่งแล้ว ฉะนั้นจึงเหมือนเป็นทางลัดที่นักลงทุนใช้เลือกกลุ่มหุ้นนี้ เพื่อไปทำการบ้านต่อ และเมื่อ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำรวจหุ้นผลประกอบการในปี 2566 ของหุ้น SET50 พบว่า มีบริษัทที่ทำกำไรทะลุเกินหมื่นล้านบาทอยู่ 14 บริษัท โดยใช้ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.พ.2567
 
1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL
ผลการดำเนินงานในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 41,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 28.0% โดยอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ย สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่ทยอยเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมตั้งแต่ต้นปี 2566 ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.02%  
อยู่ในหมวด BANK 
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 142.00 บาท
มาร์เก็ตแคป 272,010.11 ล้านบาท
P/E 6.53 เท่า

2.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) CPALL 
ผลประกอบการปี 2566 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 18,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.3% จากปีก่อน เนื่องจากการดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งธุรกิจโลตัสส์ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ได้มีการบันทึกส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 746 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 26,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% จากปีก่อน 
อยู่ในหมวด COMM  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 58.50 บาท
มาร์เก็ตแคป 514,282.55 ล้านบาท
P/E 31.90 เท่า

3.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  GULF 
ผลประกอบการปี 66 มีกำไร 14,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 65 ที่มีกำไร 11,418 ล้านบาท โดยปี 66 มีรายได้รวม (Total Revenue) อยู่ที่ 116,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จาก 95,076 ล้านบาทในปี 65 และมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) อยู่ที่ 15,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จาก 12,098 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
อยู่ในหมวด ENERG  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 44.50 บาท
มาร์เก็ตแคป 527,991.75 ล้านบาท
P/E 35.54 เท่า

4.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) TTB 
ผลดำเนินงานปี 66 มีกำไรสุทธิ 18,462.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.06% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,195.19 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานหลักและคุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้ ทั้งนี้ รายได้รวมจากการดำเนินงาน สำหรับ 12 เดือน ปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 YoY มาอยู่ที่ 70,961 ล้านบาท
อยู่ในหมวด BANK  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 1.87 บาท
มาร์เก็ตแคป 182,554.64 ล้านบาท
P/E 9.89 เท่า

5.บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) INTUCH 
ผลประกอบการปี 66 มีกำไร 13,138.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปี 65 ที่มีกำไร 10,533.09 ล้านบาท โดยผลการดําเนินงานเฉพาะบริษัทในปี 66 อินทัชมีส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวม 12,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 65 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผลกําไรของไอทีวีและเอไอเอส โดยอินทัชมีค่าใชจ่ายในการดําเนินงานสําหรับปี 66 อยู่ที่ 176 ล้านบาทใกล้เคียงกับปี 65
อยู่ในหมวด ICT  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 69.50 บาท
มาร์เก็ตแคป 224,468.14 ล้านบาท
P/E 17.08 เท่า

6.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT 
โดยผลการดำเนินงาน ปตท. และบริษัทย่อย ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 112,024 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.87% สูงกว่าปี 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของกลุ่ม ปตท. ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 13,000 ล้านบาท
หมวด ENERG 
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 35.75 บาท
มาร์เก็ตแคป 1,028,268 ล้านบาท
P/E 9.18 เท่า 

7.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) SCC 
ผลการดำเนินงานประจำปี 2566 มีกำไรสำหรับปี 25,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่  528,531.42 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 582,292.21 ล้านบาท หรือ -9.23%
อยู่ในหมวด CONMAT  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 270.00 บาท
มาร์เก็ตแคป 325,200 ล้านบาท
P/E 12.55 เท่า

8.บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) DELTA 
ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18,422.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.06% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15,344.5 ล้านบาท และมียอดขายอยู่ที่ 146,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% จากปีก่อน ที่มียอดขายอยู่ที่ 118,558 ล้านบาท 
อยู่ในหมวด ETRON  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 73.75 บาท
มาร์เก็ตแคป 919,943.94 ล้านบาท
P/E 49.94 เท่า

9.บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) SCB 
ผลประกอบการปี 66 มีกำไรสุทธิของปี 2566 จำนวน 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากปีก่อน ส่วนกําไรสุทธิของไตรมาสที่ 4/2566 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.9% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
อยู่ในหมวด BANK  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 113.50 บาท
มาร์เก็ตแคป 378,799.57 ล้านบาท
P/E 8.70 เท่า

10.บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) BDMS 
ผลประกอบการปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 14,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2565 ส่วนรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 102,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,143 ล้านบาท หรือ 10% จาก ปี 2565 ขณะที่บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 24,740 ล้านบาท ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 8%
อยู่ในหมวด  HELTH 
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 29.25 บาท
มาร์เก็ตแคป 468,814.06 ล้านบาท
P/E 32.61 เท่า 

11.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC 
ผลประกอบการประจำปี 66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,086.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.82% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 26,011.28 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 188,873 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อน การเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากการให้บริการ ซึ่งมีผลจากการรับรู้รายได้ของTTTBB การเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ต การฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ การเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ชดเชยกับรายได้จากการขาย อุปกรณ์ที่ลดลงเล็กน้อย
หมวด ICT 
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 205.00 บาท
มาร์เก็ตแคป 612,687.21 ล้านบาท
P/E 21.06 เท่า 

12.บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP
ผลประกอบการปี 66 ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิในปี 66 จำนวน 76,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70,901 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.19% ส่วนรายได้รวม 315,216 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน 
อยู่ในหมวด ENERG  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 153.00 บาท
มาร์เก็ตแคป 611,377.75 ล้านบาท
P/E 7.97 เท่า

13.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) OR 
ผลประกอบการปี 66 มีกำไร 11,094 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปี 65 ที่มีกำไร 10,370.40 ล้านบาทซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น 598 ล้านบาท จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยหลักในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เบนซินมีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ขายและบริการลดลง 20,561 ล้านบาท โดยหลักเป็นผลมาจากราคาจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีระดับต่ำ 
อยู่ในหมวด ENERG  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 18.20 บาท
มาร์เก็ตแคป 220,800.00 ล้านบาท
P/E 19.90 เท่า

14.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP 
กลุ่มไทยออยล์มีกําไรสุทธิ 19,443 ล้านบาท ลดลง 13,225 ล้านบาท หรือ -40.48% จากปีก่อนที่ทำได้ 32,668 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขาย 459,402 ล้านบาท ลดลง 46,301 ล้านบาท สาเหตุจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับ ลดลงตามราคาน้ํามันดิบ นอกจากนี้ ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับราคาน้ํามันดิบดูไบเกือบทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงและอุปทานที่เพิ่มขึ้น
อยู่ในหมวด ENERG  
ณ วันที่ 27 ก.พ.2567 ราคาปิดอยู่ที่ 55.00 บาท
มาร์เก็ตแคป 129,562.46 ล้านบาท
P/E 6.66 เท่า

Cr. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1115185

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่