รีวิวหุ้น CPF เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
ข้อดี:
1. ธุรกิจหลักมีความหลากหลาย:
- CPF มีธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed), ธุรกิจเลี้ยงสัตว์-แปรรูป (Farm-Processing), และธุรกิจอาหาร (Food) ซึ่งทำให้การลงทุนมีความหลากหลายและลดความเสี่ยง.
2. ขนาดธุรกิจใหญ่:
- มี Market Cap. สูงถึง 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งแสดงถึงขนาดและความมั่นคงของบริษัท.
3. การลงทุนในอนาคต:
- บริษัทมีการลงทุนมากกว่า 50% ของเงินสดที่รับในแต่ละปี เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต.
4. การฟื้นตัวของราคาหุ้น:
- ราคาหุ้น CPF ได้ดีดตัวแรงจนกลับมายืนเหนือ 20 บาท หลังจากการฟื้นตัวครั้งนี้.
5. การปรับโครงสร้างธุรกิจ:
- บริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ชะลอแผนการลงทุน เน้นบริหารประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และขายกิจการที่ไม่กำไรกำไรออกไป ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น.
ข้อเสีย:
1. ผลประกอบการขาดทุนในอดีต:
- CPF ขาดทุนหนักในปี 2566 เนื่องจากปัญหาเนื้อสัตว์ราคาตกต่ำ และปัญหาหมูเถื่อนล้นตลาด ซึ่งทำให้ผลประกอบการลดลงอย่างมาก.
2. อัตรากำไรขั้นต้นลดลง:
- อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 9.2% จากเดิมที่ทำได้ราวๆ 10-11% ซึ่งบ่งบอกว่ายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่ดี.
3. ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น:
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ SG&A ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งบ่งบอกว่ายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่ดี.
4. ส่วนแบ่งกำไรบริษัทรวมลดลง:
- ส่วนแบ่งกำไรบริษัทรวมลดลง โดยเฉพาะในประเทศจีน (CPI) ที่ขาดทุนค่อนข้างหนัก.
การลงทุน:
- การลงทุนในระยะยาว:
- การลงทุนใน CPF อาจเหมาะสมในระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคต และมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อดีขึ้น.
- การตรวจสอบผลประกอบการ:
- นักลงทุนควรตรวจสอบผลประกอบการของ CPF อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าบริษัทกำลังฟื้นตัวหรือไม่ และมีแนวโน้มกำไรในอนาคตหรือไม่.
- การประเมินความเสี่ยง:
- นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงของการลงทุนใน CPF โดยพิจารณาจากผลประกอบการในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ.
โดยรวมแล้ว การลงทุนใน CPF อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในระยะยาว แต่ต้องมีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ.
------
References:
-
https://www.youtube.com/watch?v=QY4KpeDnWSs
-
https://www.stock2morrow.com/article/5943
-
https://aio.panphol.com/stock/CPF
รีวิวหุ้น CPF เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
ข้อดี:
1. ธุรกิจหลักมีความหลากหลาย:
- CPF มีธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed), ธุรกิจเลี้ยงสัตว์-แปรรูป (Farm-Processing), และธุรกิจอาหาร (Food) ซึ่งทำให้การลงทุนมีความหลากหลายและลดความเสี่ยง.
2. ขนาดธุรกิจใหญ่:
- มี Market Cap. สูงถึง 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งแสดงถึงขนาดและความมั่นคงของบริษัท.
3. การลงทุนในอนาคต:
- บริษัทมีการลงทุนมากกว่า 50% ของเงินสดที่รับในแต่ละปี เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต.
4. การฟื้นตัวของราคาหุ้น:
- ราคาหุ้น CPF ได้ดีดตัวแรงจนกลับมายืนเหนือ 20 บาท หลังจากการฟื้นตัวครั้งนี้.
5. การปรับโครงสร้างธุรกิจ:
- บริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ชะลอแผนการลงทุน เน้นบริหารประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และขายกิจการที่ไม่กำไรกำไรออกไป ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น.
ข้อเสีย:
1. ผลประกอบการขาดทุนในอดีต:
- CPF ขาดทุนหนักในปี 2566 เนื่องจากปัญหาเนื้อสัตว์ราคาตกต่ำ และปัญหาหมูเถื่อนล้นตลาด ซึ่งทำให้ผลประกอบการลดลงอย่างมาก.
2. อัตรากำไรขั้นต้นลดลง:
- อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 9.2% จากเดิมที่ทำได้ราวๆ 10-11% ซึ่งบ่งบอกว่ายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่ดี.
3. ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น:
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ SG&A ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งบ่งบอกว่ายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่ดี.
4. ส่วนแบ่งกำไรบริษัทรวมลดลง:
- ส่วนแบ่งกำไรบริษัทรวมลดลง โดยเฉพาะในประเทศจีน (CPI) ที่ขาดทุนค่อนข้างหนัก.
การลงทุน:
- การลงทุนในระยะยาว:
- การลงทุนใน CPF อาจเหมาะสมในระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีแผนการเติบโตในอนาคต และมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อดีขึ้น.
- การตรวจสอบผลประกอบการ:
- นักลงทุนควรตรวจสอบผลประกอบการของ CPF อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าบริษัทกำลังฟื้นตัวหรือไม่ และมีแนวโน้มกำไรในอนาคตหรือไม่.
- การประเมินความเสี่ยง:
- นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงของการลงทุนใน CPF โดยพิจารณาจากผลประกอบการในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ.
โดยรวมแล้ว การลงทุนใน CPF อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในระยะยาว แต่ต้องมีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ.
------
References:
- https://www.youtube.com/watch?v=QY4KpeDnWSs
- https://www.stock2morrow.com/article/5943
- https://aio.panphol.com/stock/CPF