เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thansettakij.com/finance/589210
หุ้น MGI เข้าตลาด 70 วัน ราคาพุ่งขึ้นถึง 910% จากราคา IPO ส่งผลให้ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" รวยขึ้นกว่า 4,000 ล้านบาท อีก 2 นางงาม อิงฟ้า วราหะ ,ชาล็อต ออสติน มูลค่าหุ้นเฉียด 100 ล้านบาท
“หุ้น MGI” หรือหลายคนเรียกว่าหุ้นนางงาม บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นตัวแรกที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "P" หรือ "Pause" ตามมาตรการกำกับการซื้อขาย 3 ระดับ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งส่งผลให้ ห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567
เมื่อ “หุ้น MGI” ได้กลับมาซื้อขายอีกครั้ง ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีเงื่อนไขให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ ห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlementปรากฏว่าความร้อนแรงยังทำให้ หุ้น MGI ปิดบวกถึง 21.01% ราคาอยู่ที่ 41.75 บาท และในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ปิดตลาดราคาพุ่งไปถึง 50 บาท ต่อหุ้น หรือ บวก 19.76%
ฐานเศรษฐกิจรวบรวมข้อมูลจากตลท. จากวันแรกที่หุ้น MGI เข้าสู่ตลาด ในราคา IPO ที่ 4.95 บาทต่อหุ้น ผ่านมาเพียง 70 วัน ราคาพุ่งขึ้นถึง 1,010.1% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 45.05 บาท
สำหรับหุ้น MGI มีนายณวัฒน์ อิศรไกลศีล ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI อันดับ 1 สัดส่วน 42.68% จำนวน 90 ล้านหุ้น หากคำนวณจาก ราคาหุ้น MGI ที่ปิด 50 บาท ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายณวัฒน์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4,054.5 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 445.5 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ถือหุ้น MGI อันดับที่ 2-10 มีรายละเอียดมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนี้
อันดับ 2 นาย รัชพล จันทรทิม จำนวน 59,999,800 หุ้น คิดเป็น 28.57% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายรัชพล มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 2,999.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,702.99 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 296.99 ล้านบาท
อันดับ 3 บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6,550,000 หุ้น คิดเป็น 3.12% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 327.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 295.077 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 32.422 ล้านบาท
อันดับ 4 นาย พีรเจต สุวรรณนภาศรี จำนวน 6,160,000 หุ้น คิดเป็น 2.93% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายพีรเจต มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.508 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 30.492 ล้านบาท
อันดับ 5 นาย เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ จำนวน 2,450,000 หุ้น คิดเป็น 1.17% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายเฉลิมเดช มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.372 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 12.127 ล้านบาท
อันดับ 6 นาย มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ จำนวน 2,409,300 หุ้น คิดเป็น 1.15% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายมานิตย์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 120,465,000 บาท เพิ่มขึ้น 108.538 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 11.926 ล้านบาท
อันดับ 7 นาย ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ จำนวน 2,400,000 หุ้น คิดเป็น 1.14% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายขันธ์พลร์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.12 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 11.88 ล้านบาท
อันดับ 8 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 1,969,137 หุ้น คิดเป็น 0.94% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 98.456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.709 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.747 ล้านบาท
อันดับ 9 น.ส. ชาล็อต ออสติน จำนวน 1,950,000 หุ้น คิดเป็น 0.93% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส. ชาล็อต มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 97.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.847 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.652 ล้านบาท
อันดับ 10 น.ส. อิงฟ้า วราหะ จำนวน 1,900,000 หุ้น คิดเป็น 0.90%ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส. อิงฟ้า มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.595 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.405 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ระบุถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น MGI ว่า อยากให้นักลงทุนไตร่ตรองตกผลึกความคิดให้ดีอีกครั้ง เพราะนี่อาจไม่ใช่ "เกม" ของเรา และ หากลงไปเล่นเกม ต้องจำให้ขึ้นใจว่าใครลุกช้า คนนั้นก็ "เจ็บ" ดังนั้น จะมาโอดครวญทีหลังไม่ได้ มองว่าการลงทุนนั้นไม่มีใครผิด หรือ ถูก มันขึ้นอยู่กับผลที่ตามมา เมื่อลงทุนและได้กำไร ก็แสดงว่ามาถูกทาง ในทางกลับกันหากลงทุนไปตามทฤษฎีแต่ยังขาดทุน นั้นก็หมายความว่าเรากำลังหลงทางแล้ว
22 ก.พ.67 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ประกาศขึ้นเครื่องหมาย Pause (P) หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน ) หรือหุ้น MGI หยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการ ในวันที่ 23 ก.พ.67 และจะปลดเครื่องหมาย P กลับมาซื้อขายได้ในวันที่ 27 ก.พ. 67
โดยยังคงมาตรการกำกับการซื้อขาย Level 3 กำหนดให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement ต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เนื่องจากมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
ด้านนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลง และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย
อนึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 67 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขึ้นเครื่องหมาย P พักซื้อขายหุ้น MGI เป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนปลดเครื่องหมาย P ออก ในวันที่ 21 ก.พ. 67 แต่ราคาหุ้น MGI ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า MGI จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 3 (T3) ตั้งแต่ 20 ก.พ.-11 มี.ค. 67 ก็ตาม
70 วัน "หุ้น MGI" ทำ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" รวยขึ้นกว่า 4 พันล้าน
https://www.thansettakij.com/finance/589210
หุ้น MGI เข้าตลาด 70 วัน ราคาพุ่งขึ้นถึง 910% จากราคา IPO ส่งผลให้ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" รวยขึ้นกว่า 4,000 ล้านบาท อีก 2 นางงาม อิงฟ้า วราหะ ,ชาล็อต ออสติน มูลค่าหุ้นเฉียด 100 ล้านบาท
“หุ้น MGI” หรือหลายคนเรียกว่าหุ้นนางงาม บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นตัวแรกที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "P" หรือ "Pause" ตามมาตรการกำกับการซื้อขาย 3 ระดับ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งส่งผลให้ ห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567
เมื่อ “หุ้น MGI” ได้กลับมาซื้อขายอีกครั้ง ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีเงื่อนไขให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ ห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlementปรากฏว่าความร้อนแรงยังทำให้ หุ้น MGI ปิดบวกถึง 21.01% ราคาอยู่ที่ 41.75 บาท และในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ปิดตลาดราคาพุ่งไปถึง 50 บาท ต่อหุ้น หรือ บวก 19.76%
ฐานเศรษฐกิจรวบรวมข้อมูลจากตลท. จากวันแรกที่หุ้น MGI เข้าสู่ตลาด ในราคา IPO ที่ 4.95 บาทต่อหุ้น ผ่านมาเพียง 70 วัน ราคาพุ่งขึ้นถึง 1,010.1% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 45.05 บาท
สำหรับหุ้น MGI มีนายณวัฒน์ อิศรไกลศีล ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI อันดับ 1 สัดส่วน 42.68% จำนวน 90 ล้านหุ้น หากคำนวณจาก ราคาหุ้น MGI ที่ปิด 50 บาท ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายณวัฒน์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4,054.5 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 445.5 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ถือหุ้น MGI อันดับที่ 2-10 มีรายละเอียดมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนี้
อันดับ 2 นาย รัชพล จันทรทิม จำนวน 59,999,800 หุ้น คิดเป็น 28.57% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายรัชพล มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 2,999.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,702.99 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 296.99 ล้านบาท
อันดับ 3 บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6,550,000 หุ้น คิดเป็น 3.12% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 327.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 295.077 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 32.422 ล้านบาท
อันดับ 4 นาย พีรเจต สุวรรณนภาศรี จำนวน 6,160,000 หุ้น คิดเป็น 2.93% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายพีรเจต มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.508 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 30.492 ล้านบาท
อันดับ 5 นาย เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ จำนวน 2,450,000 หุ้น คิดเป็น 1.17% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายเฉลิมเดช มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.372 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 12.127 ล้านบาท
อันดับ 6 นาย มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ จำนวน 2,409,300 หุ้น คิดเป็น 1.15% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายมานิตย์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 120,465,000 บาท เพิ่มขึ้น 108.538 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 11.926 ล้านบาท
อันดับ 7 นาย ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ จำนวน 2,400,000 หุ้น คิดเป็น 1.14% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายขันธ์พลร์ มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.12 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 11.88 ล้านบาท
อันดับ 8 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 1,969,137 หุ้น คิดเป็น 0.94% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 98.456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.709 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.747 ล้านบาท
อันดับ 9 น.ส. ชาล็อต ออสติน จำนวน 1,950,000 หุ้น คิดเป็น 0.93% ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส. ชาล็อต มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 97.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.847 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.652 ล้านบาท
อันดับ 10 น.ส. อิงฟ้า วราหะ จำนวน 1,900,000 หุ้น คิดเป็น 0.90%ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส. อิงฟ้า มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.595 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้น ณ IPO ที่ 9.405 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ระบุถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น MGI ว่า อยากให้นักลงทุนไตร่ตรองตกผลึกความคิดให้ดีอีกครั้ง เพราะนี่อาจไม่ใช่ "เกม" ของเรา และ หากลงไปเล่นเกม ต้องจำให้ขึ้นใจว่าใครลุกช้า คนนั้นก็ "เจ็บ" ดังนั้น จะมาโอดครวญทีหลังไม่ได้ มองว่าการลงทุนนั้นไม่มีใครผิด หรือ ถูก มันขึ้นอยู่กับผลที่ตามมา เมื่อลงทุนและได้กำไร ก็แสดงว่ามาถูกทาง ในทางกลับกันหากลงทุนไปตามทฤษฎีแต่ยังขาดทุน นั้นก็หมายความว่าเรากำลังหลงทางแล้ว
22 ก.พ.67 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ประกาศขึ้นเครื่องหมาย Pause (P) หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน ) หรือหุ้น MGI หยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการ ในวันที่ 23 ก.พ.67 และจะปลดเครื่องหมาย P กลับมาซื้อขายได้ในวันที่ 27 ก.พ. 67
โดยยังคงมาตรการกำกับการซื้อขาย Level 3 กำหนดให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement ต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เนื่องจากมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
ด้านนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลง และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย
อนึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 67 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขึ้นเครื่องหมาย P พักซื้อขายหุ้น MGI เป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนปลดเครื่องหมาย P ออก ในวันที่ 21 ก.พ. 67 แต่ราคาหุ้น MGI ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า MGI จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 3 (T3) ตั้งแต่ 20 ก.พ.-11 มี.ค. 67 ก็ตาม