วุ้นเส้น🍜🫕 เป็นโปรตีนหรือแป้ง

กระทู้สนทนา
วุ้นเส้น🍜🫕 เป็นโปรตีนหรือแป้ง

วุ้นเส้น (cellophane noodle) ทำมาจากถั่วเขียวซึ่งเป็นถั่วที่มีโปรตีนสูง แต่ในกระบวนการผลิต จะเอาถั่วเขียวมาโม่จนเป็นผง ทิ้งให้ตกตะกอนในสารละลาย กระบวนการนี้จะแยกแป้งออกจากโปรตีน ส่วนที่เป็นแป้ง เอามาทำวุ้นเส้น จึงแทบไม่มีโปรตีนเลย
แต่เดิมจะนิยมเอาให้คนไข้โรคไตเรื้อรังที่ต้องจำกัดปริมาณโปรตีนกิน เพราะหากเทียบกับเส้นด้วยกัน วุ้นเส้นมีโปรตีนน้อยที่สุด
ส่วนที่ตกตะกอนเป็นโปรตีนเอาไปทำอาหารสัตว์ ดังนั้นวุ้นเส้นคือแป้ง ไม่ใช่โปรตีน
ทำไมจึงนิยมกินวุ้นเส้นเพื่อการลดน้ำหนัก
เนื่องจากวุ้นเส้น น้ำหนัก 100 กรัมให้แคลอรี่ 80 แคลอรี่ ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 220 แคลอรี่ เส้นใหญ่ 160 แคลอรี่
แต่หากต้องการลดคาร์โบไฮเดรต ก็ควรลดเส้นทุกชนิดรวมถึงวุ้นเส้นด้วย

ถึงแม้ว่าวุ้นเส้นจะเป็นคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงานต่ำกว่าเส้นประเภทอื่นๆ แต่ก็ยังต้องควบคุมปริมาณในการบริโภคเช่นกัน

วุ้นเส้นเป็นอาหารที่แพร่หลายเข้ามาในเมืองไทย  โดยชนชาติจีนเป็นผู้นำเข้ามา
 และปัจจุบันนิยมใช้วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป เพราะเก็บได้นาน 

กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการกำหนดมาตรฐานการผลิตและให้ความหมายของวุ้นเส้นไว้ว่า  หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งถั่วเขียวอย่างเดียว  หรือแป้งถั่วเขียวผสมกับแป้งบริโภคอื่น ๆ นำมาทำเป็นเส้นให้สุกแล้วทำให้แห้ง
การผลิตวุ้นเส้นเมื่อได้แป้งออกมาและทำให้เป็นเส้น  จะมีการใช้ไอกำมะถันเช่น  แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์  โซเดียมหรือโปแตสเซียมซัลไฟต์ (เป็นสารกันเสียและทำให้วุ้นเส้นมีสีขาว)
วุ้นเส้นที่มีความชื้นสูงจะดูดซับเอาไอกำมะถันไว้ได้มากกว่าวุ้นเส้นที่มีความชื้นต่ำ  ถ้ากินวุ้นเส้นที่มีกำมะถันไปนาน ๆ จะเป็นโรคกระเพาะอาหาร  ปวดท้อง  จุกเสียด  แน่นเฟ้อ  ประสิทธิภาพการย่อยอาหารจะลดลง
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม  มีกำหนดมาตรฐานไว้ว่า  ในวุ้นเส้นมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไม่เกิน 45 มิลิกรัมต่อกิโลกรัม  ส่วนวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป  มีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

และจากการเก็บตัวอย่างในท้องตลาดพบว่าวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างอยู่เกินกำหนดมาตรฐานค่อนข้างมาก
จึงมีข้อแนะนำว่าก่อนกิน ควรนำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ 15 นาที  ต้มให้เดือดเป็นเวลา 3 นาที  ก็จะลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้ค่อนข้างมาก และควรเลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐาน
และสิ่งที่สำคัญคือการกินอาหารที่หลากหลาย หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่กินซ้ำๆ เป็นการช่วยให้ร่างกายมีเวลากำจัดของเสียตกค้างจากอาหารที่เรากินได้มากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่