#ถ้าคุณอ่านจบคุณจะเข้าใจผมมากขึ้น😊🎉
ความรัก" เราควรใช้ "สมอง" หรือ "ความรู้สึก" ตัดสินกันนะ?
คุณเคยมีความรักไหม ความรักที่สมหวัง
แล้วคุณใช้อะไรตัดสินใจในการเลือกคบใครซักคน
ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ จังๆ กับเขาซักที อาจจะเรียกได้ว่าวิ่งหนีมันหรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่ยอมรับมันเข้ามาในส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลยก็ได้มั้ง ถ้ามีใครมาชอบหรือมาแสดงความสนใจในตัวผม ผมมักจะแสดงพฤติกรรมแย่ๆ กับพวกเขาเหล่านั้น ทั้งหน้าบึ้ง เดินหนี คุยด้วยเท่าที่จำเป็น ความเป็นคนอัธยาศัยดีจะไม่ถูกนำมาใช้กับคนกลุ่มนี้ เพื่อให้พวกเขาออกไปจากชีวิตผมให้เร็วที่สุด (กลับมามองดูตัวเองแล้ว นิสัยแย่พอดูเลย จริงๆ)
แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยรักใครนะ ความรักของผมจะมาในรูปของการแอบชอบมากกว่า ชอบรุ่นพี่ ชอบเพื่อนร่วมชั้นเรียน หรือเพื่อนร่วมคลาส โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นบ่อยมาตั้งแต่สมัยประถมจนถึงมหาลัยเลยทีเดียว
(แต่ก่อนนะ) แต่ผมไม่เคยบอกความรู้สึกที่มีให้พวกเขาเหล่านั้นได้รู้เลย ผมยังเก็บพวกเขาไว้ในสถานะเพื่อน พูดคุย หยอกล้อ ทำงานด้วยกันเรื่อยมา และเห็นผู้คนเหล่านั้นมีแฟนเป็นของตัวเอง
เอาจริงๆ ณ ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากนัก เพราะรอบกายผมมีเพื่อนสนิทที่เราทำอะไรๆด้วยกันบ่อยๆ และมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง จนผมแทบจะไม่มีเวลาเศร้าใจ อีกอย่างผมก็ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาเหล่านั้นมาเป็นแฟนผม และผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะมีแฟนมากนัก ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่จากความทรงจำที่มีในตอนนี้ ผมคิดว่าตัวผมในตอนนั้นน่าจะรู้สึกว่า
บทสรุปสุดท้ายของความรัก ก็คือ "ความเจ็บปวด"
แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเราจะมีความรักไปทำไม เพราะสุดท้ายเราก็มานั่งเสียใจอยู่ดี
เวลาผ่านไปหลายปี ผมเคยรู้สึกอยากจะมีความรักซักครั้ง แต่เอาเข้าจริงผมเองก็ยังคงมีกำแพงไม่กล้าเปิดใจให้ใครได้เต็มที่ ในปีที่ผ่านมาผมเริ่มแชทออนไลน์เพื่อฝึกภาษาและหาเพื่อนไปด้วย ก็มีคนเข้ามาให้พูดคุย (เจอทั้งประสบการณ์ที่ดีและแย่ปะปนกันไป) บางคนก็มีทีท่าที่สนใจเราแต่ผมกลับกลัวและไม่กล้าที่จะพูดคุยด้วยต่อ เพราะผมรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นฉันมากเกินไป และก็มีบางคนที่ผมรู้สึกดีด้วยที่ได้พูดคุยกับเขา รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายทุกครั้งที่คุยกัน เราไม่ได้คุยกันบ่อยนัก แต่ช่วงเวลาที่รู้จักกันมันกินเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว
แต่เพราะโลกออนไลน์มันมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันอยู่ ผมไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่คุยอยู่กับเรานั้นจริงใจกับเรามากแค่ไหน ถึงแม้จะรู้สึกดีแต่ผมก็พยายามหักห้ามใจไม่ให้มันมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จนวันหนึ่งที่ผมกับเขาได้ยุติบทสนทนานั้นลง เพราะความต้องการของเราไม่ตรงกัน ในวันนั้นผมค่อนข้างรู้สึกแย่พอดู ถึงขนาด นั่งร้องไห้ให้กับผู้หญิงคนนึ่ง(พยาบาล)แต่ฉันก็รู้สึกแย่ไม่นานนักหรอกร้องไห้ไม่กี่วัน ถึงแม้จะคิดถึงช่วงเวลาที่คุยกันอยู่บ้าง อยากทักไปหาแต่ก็พยายามหักห้ามใจเอาไว้ หากิจกรรมอื่นๆทำที่ทำให้สมองไม่ว่างมันก็ทำให้ผมผ่านช่วงเวลาแย่ๆ นั้นมาได้
ตลอด 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับผมมากมาย
-ทั้งประสบอุบัติเหตุ
-เพื่อนที่คุ้นเคยกันย้ายไปเรียนใกล้บ้าน
-ทำงานช่วยงานมหาลัย
-เปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่
-เขียนบันทึกวาดรูปตามสถานที่ต่างๆ
- และสุดท้ายก็คงจะเป็นอาการอกหัก
ช่วงเวลาแย่ๆ ทั้งเหนื่อยจากการเรียนทำงานและท้อใจกับการเจ็บป่วยที่อาการทรงๆทรุดๆ จนผมไม่รู้ว่าจะมีวันหายจากที่เป็นอยู่นี้ไหม มันทำให้ผมรู้สึกว่า ในวันที่รู้สึกแบบนั้น นาทีนั้นผมก็อยากจะมีใครซักคนเอาไว้ข้างกายคอยปลอบ คอยให้กำลังใจ คอยอยู่ดูแลกันและกัน ซึ่งตลอดชีวิตผม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เป็นสิ่งที่แทบจะไม่มีปรากฏอยู่ในหัวของผม และความอ่อนแอก็เป็นสิ่งที่ผมแทบจะไม่แสดงออกให้ใครเห็น แม้แต่กับพ่อแม่ของผมเอง ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงเป็นคนแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะผมชินกับการคิดเอง แก้ปัญหาเองมาแต่ไหนแต่ไร
ทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมอ่อนแอไม่ได้"
แต่ใครๆก็ย่อมมีวันอ่อนแอด้วยกันทั้งนั้น และในวันที่อ่อนแอเราก็คงต้องการใครซักคนที่เราสามารถเปิดเผยความอ่อนแอกับเขาได้ ซึ่งคนอื่นๆที่อยู่รอบกายคงให้ไม่ได้เหมือนคนรักของเรา
และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมตั้งคำถามนี้ขึ้นมาในใจของผม
เราจะใช้ความรู้สึก หรือ สมอง ในการที่จะเลือกรักและคบกับใครซักคน
เพราะถ้าใช้สมอง : ผมเคยคุยกับคนๆ หนึ่ง ที่ผมรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง หน้าที่การงานดี การศึกษาดี นิสัยดี เหมาะที่จะเป็นคนรัก แต่...ทำไมหัวใจผมไม่รู้สึกว่ามันต้องการคนๆนี้ ทั้งๆที่สมองก็วิเคราะห์หมดแล้วว่าดี
แต่ถ้าใช้แต่หัวใจ คนที่ผมคุยด้วยแล้วรู้สึกดี หัวใจมันรู้สึกอิ่มที่ได้คุยกับเขา ถ้าไม่ใช้สมองเลย ผมอาจจะตัดสินใจคุยกับเขาในสถานะที่เขาต้องการ เพราะผมอยากให้เขายังอยู่ในชีวิตของผม แต่ที่ผมไม่ตัดสินใจทำตามเสียงของความต้องการ เพราะมันมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งคอยร้องเตือนขึ้นมาว่า ความสัมพันธ์แบบนี้สุดท้ายก็ต้องเจ็บรึเปล่าว่ะ
สุดท้ายผมจึงคิดว่า อาการรู้สึกรัก รู้สึกชอบมันเกิดได้ง่าย (และผมก็เป็นบ่อยๆ) ถ้าเราเลือกทำตามแต่หัวใจของเราอย่างเดียวในวันหนึ่งมันก็ต้องสร้างปัญหาให้เรา
ดังนั้นการจะมีความรักเราน่าจะใช้ส่วนผสมของ
"สมอง" และ "ความรู้สึก"
(ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกมันคืออันเดียวกันกับหัวใจไหม)
ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อที่เราจะเลือกว่าเราควรจะรักใครซักคน
แต่ความยากของมันคือ
"อัตราส่วนที่เหมาะสม คืออะไร"
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรเราถึงจะตัดสินใจคบกับใครซักคน
ไว้มาหาคำตอบกัน
#ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านจนจบ ^^
#ไม่มีความรักครั้งไหนที่สูญเปล่า"
#แล้วมาแชร์ประสบการณ์ด้วยกันคับ
#ธิน์
ความรัก “เราควรใช้ สมอง หรือ ความรู้สึก ตัดสินกันนะ?
ความรัก" เราควรใช้ "สมอง" หรือ "ความรู้สึก" ตัดสินกันนะ?
คุณเคยมีความรักไหม ความรักที่สมหวัง
แล้วคุณใช้อะไรตัดสินใจในการเลือกคบใครซักคน
ผมไม่เคยมีความรักจริงๆ จังๆ กับเขาซักที อาจจะเรียกได้ว่าวิ่งหนีมันหรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่ยอมรับมันเข้ามาในส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลยก็ได้มั้ง ถ้ามีใครมาชอบหรือมาแสดงความสนใจในตัวผม ผมมักจะแสดงพฤติกรรมแย่ๆ กับพวกเขาเหล่านั้น ทั้งหน้าบึ้ง เดินหนี คุยด้วยเท่าที่จำเป็น ความเป็นคนอัธยาศัยดีจะไม่ถูกนำมาใช้กับคนกลุ่มนี้ เพื่อให้พวกเขาออกไปจากชีวิตผมให้เร็วที่สุด (กลับมามองดูตัวเองแล้ว นิสัยแย่พอดูเลย จริงๆ)
แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยรักใครนะ ความรักของผมจะมาในรูปของการแอบชอบมากกว่า ชอบรุ่นพี่ ชอบเพื่อนร่วมชั้นเรียน หรือเพื่อนร่วมคลาส โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นบ่อยมาตั้งแต่สมัยประถมจนถึงมหาลัยเลยทีเดียว
(แต่ก่อนนะ) แต่ผมไม่เคยบอกความรู้สึกที่มีให้พวกเขาเหล่านั้นได้รู้เลย ผมยังเก็บพวกเขาไว้ในสถานะเพื่อน พูดคุย หยอกล้อ ทำงานด้วยกันเรื่อยมา และเห็นผู้คนเหล่านั้นมีแฟนเป็นของตัวเอง
เอาจริงๆ ณ ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากนัก เพราะรอบกายผมมีเพื่อนสนิทที่เราทำอะไรๆด้วยกันบ่อยๆ และมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง จนผมแทบจะไม่มีเวลาเศร้าใจ อีกอย่างผมก็ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาเหล่านั้นมาเป็นแฟนผม และผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะมีแฟนมากนัก ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่จากความทรงจำที่มีในตอนนี้ ผมคิดว่าตัวผมในตอนนั้นน่าจะรู้สึกว่า
บทสรุปสุดท้ายของความรัก ก็คือ "ความเจ็บปวด"
แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเราจะมีความรักไปทำไม เพราะสุดท้ายเราก็มานั่งเสียใจอยู่ดี
เวลาผ่านไปหลายปี ผมเคยรู้สึกอยากจะมีความรักซักครั้ง แต่เอาเข้าจริงผมเองก็ยังคงมีกำแพงไม่กล้าเปิดใจให้ใครได้เต็มที่ ในปีที่ผ่านมาผมเริ่มแชทออนไลน์เพื่อฝึกภาษาและหาเพื่อนไปด้วย ก็มีคนเข้ามาให้พูดคุย (เจอทั้งประสบการณ์ที่ดีและแย่ปะปนกันไป) บางคนก็มีทีท่าที่สนใจเราแต่ผมกลับกลัวและไม่กล้าที่จะพูดคุยด้วยต่อ เพราะผมรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นฉันมากเกินไป และก็มีบางคนที่ผมรู้สึกดีด้วยที่ได้พูดคุยกับเขา รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายทุกครั้งที่คุยกัน เราไม่ได้คุยกันบ่อยนัก แต่ช่วงเวลาที่รู้จักกันมันกินเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว
แต่เพราะโลกออนไลน์มันมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันอยู่ ผมไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่คุยอยู่กับเรานั้นจริงใจกับเรามากแค่ไหน ถึงแม้จะรู้สึกดีแต่ผมก็พยายามหักห้ามใจไม่ให้มันมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จนวันหนึ่งที่ผมกับเขาได้ยุติบทสนทนานั้นลง เพราะความต้องการของเราไม่ตรงกัน ในวันนั้นผมค่อนข้างรู้สึกแย่พอดู ถึงขนาด นั่งร้องไห้ให้กับผู้หญิงคนนึ่ง(พยาบาล)แต่ฉันก็รู้สึกแย่ไม่นานนักหรอกร้องไห้ไม่กี่วัน ถึงแม้จะคิดถึงช่วงเวลาที่คุยกันอยู่บ้าง อยากทักไปหาแต่ก็พยายามหักห้ามใจเอาไว้ หากิจกรรมอื่นๆทำที่ทำให้สมองไม่ว่างมันก็ทำให้ผมผ่านช่วงเวลาแย่ๆ นั้นมาได้
ตลอด 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับผมมากมาย
-ทั้งประสบอุบัติเหตุ
-เพื่อนที่คุ้นเคยกันย้ายไปเรียนใกล้บ้าน
-ทำงานช่วยงานมหาลัย
-เปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่
-เขียนบันทึกวาดรูปตามสถานที่ต่างๆ
- และสุดท้ายก็คงจะเป็นอาการอกหัก
ช่วงเวลาแย่ๆ ทั้งเหนื่อยจากการเรียนทำงานและท้อใจกับการเจ็บป่วยที่อาการทรงๆทรุดๆ จนผมไม่รู้ว่าจะมีวันหายจากที่เป็นอยู่นี้ไหม มันทำให้ผมรู้สึกว่า ในวันที่รู้สึกแบบนั้น นาทีนั้นผมก็อยากจะมีใครซักคนเอาไว้ข้างกายคอยปลอบ คอยให้กำลังใจ คอยอยู่ดูแลกันและกัน ซึ่งตลอดชีวิตผม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เป็นสิ่งที่แทบจะไม่มีปรากฏอยู่ในหัวของผม และความอ่อนแอก็เป็นสิ่งที่ผมแทบจะไม่แสดงออกให้ใครเห็น แม้แต่กับพ่อแม่ของผมเอง ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงเป็นคนแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะผมชินกับการคิดเอง แก้ปัญหาเองมาแต่ไหนแต่ไร
ทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมอ่อนแอไม่ได้"
แต่ใครๆก็ย่อมมีวันอ่อนแอด้วยกันทั้งนั้น และในวันที่อ่อนแอเราก็คงต้องการใครซักคนที่เราสามารถเปิดเผยความอ่อนแอกับเขาได้ ซึ่งคนอื่นๆที่อยู่รอบกายคงให้ไม่ได้เหมือนคนรักของเรา
และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมตั้งคำถามนี้ขึ้นมาในใจของผม
เราจะใช้ความรู้สึก หรือ สมอง ในการที่จะเลือกรักและคบกับใครซักคน
เพราะถ้าใช้สมอง : ผมเคยคุยกับคนๆ หนึ่ง ที่ผมรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง หน้าที่การงานดี การศึกษาดี นิสัยดี เหมาะที่จะเป็นคนรัก แต่...ทำไมหัวใจผมไม่รู้สึกว่ามันต้องการคนๆนี้ ทั้งๆที่สมองก็วิเคราะห์หมดแล้วว่าดี
แต่ถ้าใช้แต่หัวใจ คนที่ผมคุยด้วยแล้วรู้สึกดี หัวใจมันรู้สึกอิ่มที่ได้คุยกับเขา ถ้าไม่ใช้สมองเลย ผมอาจจะตัดสินใจคุยกับเขาในสถานะที่เขาต้องการ เพราะผมอยากให้เขายังอยู่ในชีวิตของผม แต่ที่ผมไม่ตัดสินใจทำตามเสียงของความต้องการ เพราะมันมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งคอยร้องเตือนขึ้นมาว่า ความสัมพันธ์แบบนี้สุดท้ายก็ต้องเจ็บรึเปล่าว่ะ
สุดท้ายผมจึงคิดว่า อาการรู้สึกรัก รู้สึกชอบมันเกิดได้ง่าย (และผมก็เป็นบ่อยๆ) ถ้าเราเลือกทำตามแต่หัวใจของเราอย่างเดียวในวันหนึ่งมันก็ต้องสร้างปัญหาให้เรา
ดังนั้นการจะมีความรักเราน่าจะใช้ส่วนผสมของ
"สมอง" และ "ความรู้สึก"
(ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกมันคืออันเดียวกันกับหัวใจไหม)
ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อที่เราจะเลือกว่าเราควรจะรักใครซักคน
แต่ความยากของมันคือ
"อัตราส่วนที่เหมาะสม คืออะไร"
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรเราถึงจะตัดสินใจคบกับใครซักคน
ไว้มาหาคำตอบกัน
#ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านจนจบ ^^
#ไม่มีความรักครั้งไหนที่สูญเปล่า"
#แล้วมาแชร์ประสบการณ์ด้วยกันคับ
#ธิน์