คําพิพากษาฎีกาที่ 6083/2546 “ความรัก” เป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริงคือความ ปรารถนาดีต่อคนที่ตนรัก ความยินดีที่คนที่รักมีความสุข การให้อภัย เมื่อคนที่ตนรักทําผิด และการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก...การอ้างว่าถูกผู้ตายข่มเหงจิตใจอย่างร้าย แรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเพราะจําเลยกับผู้ตายมีความสัมพันธ์ฉันคนรัก แต่ผู้ตายต้องการเลิกความสัมพันธ์กับจําเลยไปมีรักกับผู้ชายคนใหม่ จําเลยจึงบันดาลโทสะฆ่าผู้ตายนั้น...ศาลเห็นว่าจําเลยปรารถนาจะยึดครองผู้ตายเพื่อความสุขของจําเลยเอง เมื่อไม่สมหวังจําเลยก็ฆ่าผู้ตาย เป็นความคิดและการกระทําที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของจําเลยโดยฝ่ายเดียวมิได้คํานึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ตายหาใช่ความรักไม่...
ประวัติของวันวาเลนไทน์ กำเนิดขึ้นในสมัยจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ในสมัยนั้นกรุงโรมมักตกอยู่ในภาวะสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิทรงชื่นชอบการทำสงคราม จึงสั่งเกณฑ์ผู้ชายไปออกรบ แต่ขณะเดียวกัน ผู้ชายหลายๆ คนก็มีครอบครัว และคนรักที่ต้องดูแล ล้วนไม่อยากจากครอบครัวเพื่อไปเสี่ยงชีวิตในสนามรบ จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ทรงสั่งยกเลิกพิธีหมั้น และการแต่งงานในกรุงโรมทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนไปออกรบ แต่นักบุญผู้มีชื่อว่า "วาเลนตินัส" หรือที่รู้จักกันในนาม "นักบุญวาเลนไทน์" ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จึงชักชวนคู่รักในกรุงโรมให้เข้าพิธีแต่งงาน ทำให้จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ไม่พอพระทัย สั่งจับตัวนักบุญวาเลนไทน์ มากักขังไว้ และมีคำสั่งประหารชีวิต ทว่า นักบุญได้ตกหลุมรักลูกสาวของผู้คุม ซึ่งเป็นหญิงสาวตาบอดสนิททั้งสองข้าง ก่อนจะถึงเวลาประหาร เขาได้ส่งจดหมายถึงหญิงตาบอด โดยลงท้ายข้อความในจดหมายฉบับนั้นว่า "From your Valentine" เรื่องราวสุดเศร้านี้เผยแพร่ออกไปทั่วกรุงโรม ส่วนนักบุญวาเลนไทน์ ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 นับตั้งแต่นั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงถือเป็น "วันวาเลนไทน์" เพื่อระลึก และยกย่องความรักอันบริสุทธิ์ของนักบุญวาเลนไทน์ผู้ล่วงลับ
"เทพเจ้าคิวปิด" สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์
เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ หลายคนอาจนึกถึงดอกกุหลาบสีแดง แต่จริงๆ แล้ว สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ก็คือ "เทพเจ้าคิวปิด" เทพปกรณัมกรีกเชื่อว่าเทพเจ้าคิวปิด เป็นบุตรชายของเทพวีนัส มีลักษณะเป็นเด็กหนุ่ม มีปีก และถือคันศร ชาวยุโรปเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้ สามารถบันดาลให้คนตกหลุมรักกันได้ ด้วยการแผงศรประจำตัว เทพเจ้าคิวปิดจึงถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์
ได้ข้อมูลเกี่ยวกับความรักแล้ว วันนี้ตั้งใจจะหาดอกไม้ให้คนรักกันหรือยัง
ความรักในมุมมองของศาล และประวัติวันวาเลนไทน์ และเทพเจ้าคิวปิด
ประวัติของวันวาเลนไทน์ กำเนิดขึ้นในสมัยจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ในสมัยนั้นกรุงโรมมักตกอยู่ในภาวะสงครามอยู่บ่อยครั้ง องค์จักรพรรดิทรงชื่นชอบการทำสงคราม จึงสั่งเกณฑ์ผู้ชายไปออกรบ แต่ขณะเดียวกัน ผู้ชายหลายๆ คนก็มีครอบครัว และคนรักที่ต้องดูแล ล้วนไม่อยากจากครอบครัวเพื่อไปเสี่ยงชีวิตในสนามรบ จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ทรงสั่งยกเลิกพิธีหมั้น และการแต่งงานในกรุงโรมทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนไปออกรบ แต่นักบุญผู้มีชื่อว่า "วาเลนตินัส" หรือที่รู้จักกันในนาม "นักบุญวาเลนไทน์" ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จึงชักชวนคู่รักในกรุงโรมให้เข้าพิธีแต่งงาน ทำให้จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ไม่พอพระทัย สั่งจับตัวนักบุญวาเลนไทน์ มากักขังไว้ และมีคำสั่งประหารชีวิต ทว่า นักบุญได้ตกหลุมรักลูกสาวของผู้คุม ซึ่งเป็นหญิงสาวตาบอดสนิททั้งสองข้าง ก่อนจะถึงเวลาประหาร เขาได้ส่งจดหมายถึงหญิงตาบอด โดยลงท้ายข้อความในจดหมายฉบับนั้นว่า "From your Valentine" เรื่องราวสุดเศร้านี้เผยแพร่ออกไปทั่วกรุงโรม ส่วนนักบุญวาเลนไทน์ ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 นับตั้งแต่นั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงถือเป็น "วันวาเลนไทน์" เพื่อระลึก และยกย่องความรักอันบริสุทธิ์ของนักบุญวาเลนไทน์ผู้ล่วงลับ
"เทพเจ้าคิวปิด" สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์
เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ หลายคนอาจนึกถึงดอกกุหลาบสีแดง แต่จริงๆ แล้ว สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ก็คือ "เทพเจ้าคิวปิด" เทพปกรณัมกรีกเชื่อว่าเทพเจ้าคิวปิด เป็นบุตรชายของเทพวีนัส มีลักษณะเป็นเด็กหนุ่ม มีปีก และถือคันศร ชาวยุโรปเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้ สามารถบันดาลให้คนตกหลุมรักกันได้ ด้วยการแผงศรประจำตัว เทพเจ้าคิวปิดจึงถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์
ได้ข้อมูลเกี่ยวกับความรักแล้ว วันนี้ตั้งใจจะหาดอกไม้ให้คนรักกันหรือยัง