สวัสดีครับ ขอพระหรรษทานจากพระตรีเอกภาพจงมีแด่ท่านทุกคนครับ วันนี้จะมาเล่าเรื่องการค้นพบพระกางเขนที่ตรึงพระเยซูเจ้านะครับ
นักบุญ(จักรพรรดิ)คอนสแตนตินทรงมีดำริมานานแล้วที่จะค้นหาพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ได้ทรงส่งจักรพรรดินีเอเลนา (นักบุญเฮเลน) พระมารดาของพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อหาพระกางเขน เมื่อถึงกรุงเยรูซาเล็มพระนางทรงทราบว่า ความลับของพระกาางเขนแห่งพระคริสต์นั้นถูกเก็บรักษาเอาไว้กับผู้เฒ่าผู้แก่ชาวยิว เมื่อนั้นพระนางได้รับสั่งให้นำตัวผุ้อาวุโสมาคนหนึ่งนามยูดาห์ หลังจากที่พระนางทรงไต่สวนแล้ว ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดเผยว่าพวกเขาได้ทิ้งพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่บ่อน้ำเก่าไม่ไกลจากหุบเขากลโกธา
นักบุญจักรพรรดิคอนสแตนตินและนักบุญเฮเลน
ในบ่อน้ำนั้นเองพระนางได้พบกางเขนสามอัน พบตะปูและแผ่นจารึกสามภาษา ตามตำนานเรื่องเล่าศักดิ์สิทธิ์ เล่าว่าเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่ากางเขนนี้ใช่กางเขนแท้จริงที่พระเยซูถูกตรึงหรือเปล่า นักบุญมาคารีอุส พระอัครสังฆราชแห่งกรุงเยรูซาเล็ม จึงนำกางเขนไปสัมผัสกับร่างผู้ตาย เมื่อร่างผู้ตายได้สัมผัสกับกางเขน ร่างนั้นกลับมามีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งหลังจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ากางเขนนี้ทำให้ผู้ตายฟื้นขึ้นมาได้ ทุกคนที่นั่นจึงเชื่อว่ากางเขนผู้สร้างชีวิตนั้นได้ถูกค้นพบแล้ว
มีอีกเรื่องเล่าหนึ่งคือระหว่างช่วงที่พบกางเขนแท้นี้ ก็ได้เกิดอัศจรรย์ขึ้นอีก เมื่อมีสตรีที่ป่วยอย่างแสนสาหัสมาพักอยู่ที่ใต้เงาของกางเขนแท้นั้น สตรีผู้นั้นก็หายป่วยในทันที ทำให้ยูดาด์และชาวยิวคนอื่นๆหันมาเชื่อในพระคริสต์และรับศีลล้างบาปศักดิ์สิทธิ์ กล่าวกันว่ายูดาด์ได้นามว่าไซริอาคัส(Cyriacus) ซึ่งต่อมาคือนักบุญยูดาส ไซริอาคัส (St.Judas Cyriacus)นั่นเอง ในปัจจุบันพระกางเขนนี้ได้อยู่ที่กรุงโรม
การฉลองพระกางเขนเป็นหนึ่งใน 12 การฉลองใหญ่ที่สุดของคริสตจักรออร์โธด็อกซ์ ซึ่งจะมีในวันที่ 14 กันยายน (ตามปฏิทินจูเลี่ยน) หรือวันที่ 27 กันยายน
ซึ่งในตอนนี้ทางศาสนจักรออร์โธด็อกซ์ในประเทศไทยได้นำเศษของพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์มาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสวดภาวนาครับ
สุดท้ายนี้ขอพระมารดาเจ้าทรงคุ้มครองท่านทั้งหลายครับ
**หากใครมีข้อสงสัยหรือสนใจในศาสนจักรออร์โธด็อกซ์สามารถติดต่อผมได้ที่หลังไมค์ครับ
~Orthodox Church~ การค้นพบพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์
นักบุญ(จักรพรรดิ)คอนสแตนตินทรงมีดำริมานานแล้วที่จะค้นหาพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ได้ทรงส่งจักรพรรดินีเอเลนา (นักบุญเฮเลน) พระมารดาของพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อหาพระกางเขน เมื่อถึงกรุงเยรูซาเล็มพระนางทรงทราบว่า ความลับของพระกาางเขนแห่งพระคริสต์นั้นถูกเก็บรักษาเอาไว้กับผู้เฒ่าผู้แก่ชาวยิว เมื่อนั้นพระนางได้รับสั่งให้นำตัวผุ้อาวุโสมาคนหนึ่งนามยูดาห์ หลังจากที่พระนางทรงไต่สวนแล้ว ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดเผยว่าพวกเขาได้ทิ้งพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่บ่อน้ำเก่าไม่ไกลจากหุบเขากลโกธา
ในบ่อน้ำนั้นเองพระนางได้พบกางเขนสามอัน พบตะปูและแผ่นจารึกสามภาษา ตามตำนานเรื่องเล่าศักดิ์สิทธิ์ เล่าว่าเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่ากางเขนนี้ใช่กางเขนแท้จริงที่พระเยซูถูกตรึงหรือเปล่า นักบุญมาคารีอุส พระอัครสังฆราชแห่งกรุงเยรูซาเล็ม จึงนำกางเขนไปสัมผัสกับร่างผู้ตาย เมื่อร่างผู้ตายได้สัมผัสกับกางเขน ร่างนั้นกลับมามีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งหลังจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ากางเขนนี้ทำให้ผู้ตายฟื้นขึ้นมาได้ ทุกคนที่นั่นจึงเชื่อว่ากางเขนผู้สร้างชีวิตนั้นได้ถูกค้นพบแล้ว
มีอีกเรื่องเล่าหนึ่งคือระหว่างช่วงที่พบกางเขนแท้นี้ ก็ได้เกิดอัศจรรย์ขึ้นอีก เมื่อมีสตรีที่ป่วยอย่างแสนสาหัสมาพักอยู่ที่ใต้เงาของกางเขนแท้นั้น สตรีผู้นั้นก็หายป่วยในทันที ทำให้ยูดาด์และชาวยิวคนอื่นๆหันมาเชื่อในพระคริสต์และรับศีลล้างบาปศักดิ์สิทธิ์ กล่าวกันว่ายูดาด์ได้นามว่าไซริอาคัส(Cyriacus) ซึ่งต่อมาคือนักบุญยูดาส ไซริอาคัส (St.Judas Cyriacus)นั่นเอง ในปัจจุบันพระกางเขนนี้ได้อยู่ที่กรุงโรม
การฉลองพระกางเขนเป็นหนึ่งใน 12 การฉลองใหญ่ที่สุดของคริสตจักรออร์โธด็อกซ์ ซึ่งจะมีในวันที่ 14 กันยายน (ตามปฏิทินจูเลี่ยน) หรือวันที่ 27 กันยายน
ซึ่งในตอนนี้ทางศาสนจักรออร์โธด็อกซ์ในประเทศไทยได้นำเศษของพระกางเขนศักดิ์สิทธิ์มาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสวดภาวนาครับ
สุดท้ายนี้ขอพระมารดาเจ้าทรงคุ้มครองท่านทั้งหลายครับ
**หากใครมีข้อสงสัยหรือสนใจในศาสนจักรออร์โธด็อกซ์สามารถติดต่อผมได้ที่หลังไมค์ครับ