รูปต่อมาเป็นชายนักรบใส่เสื้อเกราะแบบเต็มยศหรูหรา แถมยังแกะเป็นลายนูนลวดลายสวยงาม จนงานนี้เหมือนซื้อ 1 แถม 1 (ใครที่หวังจะดูจักรพรรดิเปลือยก็เสียใจด้วย) เห็นแล้วใครอาจเดาว่าใครคนนี้คงเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ผิดแต่ประการใด นี่คือจอมจักรพรรดิ ซีซาร์ ออกุสตุส (Caesar Augustus) ที่มีชีวิตอยู่ประมาณช่วงคริสกาล เกิดก่อนพระเยซู 63 ปี ซึ่งถ้าดู timeline กันแล้วจะเห็นว่าพระเยซูกับพระองค์อยู่ร่วมสมัยกัน และกษัตริย์โรมันที่ถูกกล่าวถึงในไบเบิ้ลก็คือพระองค์นี่แหละ
ถ้าอยากจะรู้จักเขามากกว่านี้ก็ขอแนะนำว่าพระองค์เป็นลูกของหลานของซีซาร์ หรือพูดง่ายๆหรือซีซาร์เป็นคุณลุงของคุณแม่ของออกุสตุสนั่นเอง (งงกว่าไหม?) หรือให้ง่ายไม่กว่านี้ก็คือ ซีซาร์เป็นคุณลุงของคุณแม่ ออกุสตุสหรือเป็นพี่ชายของคุณยายออกุสตุสนั่นแหละ นั่นเอง แต่ไงก็แล้วแต่ พูดให้ง่ายที่สุดก็คือเป็นญาติกัน ช่างมันเถอะ
แล้วซีซาร์ก็นำออกุสตุสมาเป็นลูกเลี้ยง โดยมีเจตนาจะให้ออกุสตุส ส่งอำนาจต่อรองตนนั่นเอง เมื่อซีซาร์ตาย เขาก็เลยได้เป็นผู้ครองกรุงโรมคนต่อมา อย่างไรก็ตามในช่วงนั้นดันมีผู้มีอำนาจอีกคนมาร่วมปกครองด้วย เขาผู้นั้นก็คือมาร์คแอนโทนี่ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็แข่งขันกันเป็นผู้ปกครองหนึ่งเดียว ก็เลยมารับกันในที่สุด โดยแอนโทนี่มีความได้เปรียบตนที่เอาอียิปต์มาเป็นพวกของตนซึ่งก็คือพระนางคลีโอพัตรานั่นเอง แต่ใช้เวลาแย่งชิงกันไปหลายปีจนในที่สุดออกุสตุสก็เป็นฝ่ายชนะ ปกครองโรมเพียงหนึ่งเดียว
อ้อ ชื่อเดิมของพระองค์คือออกตาเวียน (Octavian) บางคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อนี้มากกว่านะ
ในช่วงรัชสมัยของออกุสตุส โรมันได้ขยายเขตแดนไปกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ได้ดินแดนในพื้นที่ก็เลยสามารถสถาปนาเป็นจักรพรรดิได้ เพราะสามารถพิชิตอาณาจักรต่างๆ มาไว้ภายใต้โรมันได้ เกิดจักรวรรดิโรมันขึ้นมา เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ จดหมดครบทั้ง 3 ทวีป ตั้งแต่พื้นที่ของอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส อียิปต์ กรีก ตุรกี และโดยรอบๆ ทะเลเมดิเตอเรเนียนได้เลยทีเดียว ไม่มีใครกล้ามาต่อกรอีกนาน ช่วงยุคนั้นจึงถูกเรียกว่า Pose Romana หรือยุคสันติภาพของโรมัน กินเวลา 200 ปี
พระองค์เองก็ปรากฏตัวในคัมภีร์ไบเบิลในฐานะจักรพรรดิโรมันมีปัญชาให้มีการจดทะเบียนรวมในประชากรทั้งของจักรวรรดิและที่ทำให้เกิดเรื่องราวอะไรต่ออะไรตามมา แม้ว่าในใบเบิลจะไม่ได้บอกชื่อของออกุสตุสไว้ แต่ก็หมายถึงออกุสตุสแน่นอนเพราะรัชสมัยของพระองค์ร่วมยุคกับพระเยซูพอดี
อิทธิพลของออกุสตุสนี้มีมากกว่าที่เราจะคิดได้ จักรพรรดิในยุค 2,000 ปีก่อนพระองค์นี้ได้มาเกี่ยวข้องกับชีวิตปัจจุบันของพวกเราด้วย มรดกตกทอดของออกุสตุสที่มีส่งผลมาก็คือชื่อของพระองค์ ได้กลายมาเป็นเดือน August หรือเดือนสิงหาคมนั่นเอง
ส่วนเหตุที่ชื่อพระองค์มาเป็นเดือนสิงหาคมไม่ใช่เพราะเป็นเดือนเกิดแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ออกุสตุสสามารถรบชนะได้ถึง 3 สนามในปีต่างๆกันก็เลยเป็นเดือนมงคลเหมาะที่จะเป็นเดือนของท่านจักรพรรดิไป
เอาละหลังจากเล่าเรื่องประวัติของบุคคลในประติมากรรมมาเสียยึดยาว คราวนี้ก็ขอกล่าวถึง ออกุสตุส ในพิพิธภัณธ์วาติกันเสียทีซึ่งก็มี
จักรพรรดิออกุสตุสที่เราเห็นที่แสดงภาพเป็นจักรพรรดิได้อย่างครบเครื่อง จนไม่มีจักรพรรดิโรมันใดๆ อีกที่จะครบเครื่องแบบนี้อีกแล้ว เพราะแสดงความเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งโดยการวางท่าชี้นิ้วบงการ มีใบหน้างดงามสมบูรณ์ราวเทพเจ้า และเสื้อเกราะของพระองค์ก็แพรวพราวไปด้วยลวดลายของเทพเจ้าโรมันอีก ว่าไปแล้วถ้าเป็นของซื้อขายก็เหมือนซื้อ 1 ได้ 2 เพราะมีประติมากรรมแสดงเรื่องราวอยู่บนประติมากรรมอีกที่หนึ่ง
เกราะของออกุสตุสนั้น มีคนคาดเดาว่าไปต่างๆ จะเห็นได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมี 2 ส่วน เรามาดูส่วนบนกันก่อน
ด้านบนเหนือราวนมของออกุสตุสคือภาพเทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ (Caelus) นำผ้าคลุมสยายออกปกคลุมแผ่นดินโรมัน (ผ้าคลุมนี้คือเมฆ)
ด้านซ้ายเป็นเทพอพอลโลควบม้าที่วิ่งนำหน้า ส่วนด้านขวาคือเทพีลูน่าทรงพระจันทร์ถือคบเพลิงเคียงข้างด้วยออโรร่าหรือเทพีแห่งรุ่งอรุณเหาะมาคู่กัน
ส่วนต่อมาด้านล่างของเสื้อเกราะเป็นภาพชายสองคนหันหน้ามาคุยกัน คนชราซึ่งคาดว่าเป็นกษัตริย์พาร์เธียนในชุดคนป่ายื่นนกอินทรีย์ให้กับชายอีกคนที่มีหมาป่าคู่ยืนอยู่แทบเท้า ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวโรมันซึ่งมีชัยชนะในการเจรจาทางการทูตกับพวกพาเธีย ส่วนบุคคลชาวช่างไกลออกไปอาจเป็นตัวแทนของแว่นแคว้นที่ถูกโรมันเข้าครอบครอง
และตรงด้านล่างลงมาอีก ประมาณเอวของพระองค์ ก็จะมีเทพเจ้าเอนกาย ชื่อ เทลลัส เป็นเทพแห่งความสมบูรณ์ ถือเขาสัตว์และอุ้มเด็กทารก ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อยู่ทั้งคู่
และถ้าสังเกตให้ดี เราจะได้เห็นของแถมขึ้นมาอีก มองลงไปที่ปลายขาของออกุสตุสจะเห็นเด็กน้อยเกาะขาพระองค์ไว้ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเด็กน้อยคนนี้มีปีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าพ่อหนูน้อยนี้คือคิวปิดนั่นเอง
และถ้าสังเกตอีกใกล้ๆ (แต่คงต้องเดินทางไปวาติกันแล้วจ้องดูแล้วละ) ก็จะพบว่าหนูน้อยกำลังขี่ปลาโลมา ซึ่งก็มีคนคิดว่าเป็นการแสดงถึงเทพีวีนัส คุณแม่ของคิวปิด อันนี้มีนัยยะว่าออกุสตุสสืบเชื้อสายจากเทพเจ้า นอกจากนี้ปลาโลมายังแสดงถึงชัยชนะของกองทัพเรือแห่งจักรพรรดิ์ด้วย
ข้าพเจ้าคิดว่าจุดประสงค์หลักคือการทำรูปอะไรไว้เพื่อจะค้ำจุนขาของออกุสตุสไว้ไม่ให้หักง่ายเพราะส่วนนี้เป็นจุดส่งน้ำหนักที่บอบบาง ก็เลยต้องเพิ่มอะไรลงไปให้มันมีฐานที่มันแข็งแรงมากขึ้น แบบที่เรามักเจอในประติมากรรมรูปคนยืนของโรมบ่อยๆ ดีไม่ดีคนทำอาจคิดอะไรเล่นๆไม่เป็นสาระอย่างที่เราตีความกันมาก็ได้
สุดท้ายนี้ขอสรุปรายงานการประชุมว่า ออกุสตุสองค์นี้เป็นประติมากรรมโรมันที่โด่งดังมาก และแสดงทั้งความเป็นสุดแสนจะจักรพรรดิด้วยเครื่องเคราต่างๆ ที่ดูล้นๆ รวยๆ แล้วก็โพสต์ท่าชี้นิ้วบัญชาการ แสดงอำนาจคุ้มเกล้าประชากรโรมันอย่างที่เห็น นี่แสดงความเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ และพระองค์ก็ยิ่งใหญ่จริงๆ ตามที่บอกไว้
ออกุสตุส จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และใหญ่มากมาก
ถ้าอยากจะรู้จักเขามากกว่านี้ก็ขอแนะนำว่าพระองค์เป็นลูกของหลานของซีซาร์ หรือพูดง่ายๆหรือซีซาร์เป็นคุณลุงของคุณแม่ของออกุสตุสนั่นเอง (งงกว่าไหม?) หรือให้ง่ายไม่กว่านี้ก็คือ ซีซาร์เป็นคุณลุงของคุณแม่ ออกุสตุสหรือเป็นพี่ชายของคุณยายออกุสตุสนั่นแหละ นั่นเอง แต่ไงก็แล้วแต่ พูดให้ง่ายที่สุดก็คือเป็นญาติกัน ช่างมันเถอะ
แล้วซีซาร์ก็นำออกุสตุสมาเป็นลูกเลี้ยง โดยมีเจตนาจะให้ออกุสตุส ส่งอำนาจต่อรองตนนั่นเอง เมื่อซีซาร์ตาย เขาก็เลยได้เป็นผู้ครองกรุงโรมคนต่อมา อย่างไรก็ตามในช่วงนั้นดันมีผู้มีอำนาจอีกคนมาร่วมปกครองด้วย เขาผู้นั้นก็คือมาร์คแอนโทนี่ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็แข่งขันกันเป็นผู้ปกครองหนึ่งเดียว ก็เลยมารับกันในที่สุด โดยแอนโทนี่มีความได้เปรียบตนที่เอาอียิปต์มาเป็นพวกของตนซึ่งก็คือพระนางคลีโอพัตรานั่นเอง แต่ใช้เวลาแย่งชิงกันไปหลายปีจนในที่สุดออกุสตุสก็เป็นฝ่ายชนะ ปกครองโรมเพียงหนึ่งเดียว
อ้อ ชื่อเดิมของพระองค์คือออกตาเวียน (Octavian) บางคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อนี้มากกว่านะ
ในช่วงรัชสมัยของออกุสตุส โรมันได้ขยายเขตแดนไปกว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ได้ดินแดนในพื้นที่ก็เลยสามารถสถาปนาเป็นจักรพรรดิได้ เพราะสามารถพิชิตอาณาจักรต่างๆ มาไว้ภายใต้โรมันได้ เกิดจักรวรรดิโรมันขึ้นมา เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ จดหมดครบทั้ง 3 ทวีป ตั้งแต่พื้นที่ของอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส อียิปต์ กรีก ตุรกี และโดยรอบๆ ทะเลเมดิเตอเรเนียนได้เลยทีเดียว ไม่มีใครกล้ามาต่อกรอีกนาน ช่วงยุคนั้นจึงถูกเรียกว่า Pose Romana หรือยุคสันติภาพของโรมัน กินเวลา 200 ปี
พระองค์เองก็ปรากฏตัวในคัมภีร์ไบเบิลในฐานะจักรพรรดิโรมันมีปัญชาให้มีการจดทะเบียนรวมในประชากรทั้งของจักรวรรดิและที่ทำให้เกิดเรื่องราวอะไรต่ออะไรตามมา แม้ว่าในใบเบิลจะไม่ได้บอกชื่อของออกุสตุสไว้ แต่ก็หมายถึงออกุสตุสแน่นอนเพราะรัชสมัยของพระองค์ร่วมยุคกับพระเยซูพอดี
อิทธิพลของออกุสตุสนี้มีมากกว่าที่เราจะคิดได้ จักรพรรดิในยุค 2,000 ปีก่อนพระองค์นี้ได้มาเกี่ยวข้องกับชีวิตปัจจุบันของพวกเราด้วย มรดกตกทอดของออกุสตุสที่มีส่งผลมาก็คือชื่อของพระองค์ ได้กลายมาเป็นเดือน August หรือเดือนสิงหาคมนั่นเอง
ส่วนเหตุที่ชื่อพระองค์มาเป็นเดือนสิงหาคมไม่ใช่เพราะเป็นเดือนเกิดแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ออกุสตุสสามารถรบชนะได้ถึง 3 สนามในปีต่างๆกันก็เลยเป็นเดือนมงคลเหมาะที่จะเป็นเดือนของท่านจักรพรรดิไป
เอาละหลังจากเล่าเรื่องประวัติของบุคคลในประติมากรรมมาเสียยึดยาว คราวนี้ก็ขอกล่าวถึง ออกุสตุส ในพิพิธภัณธ์วาติกันเสียทีซึ่งก็มี
จักรพรรดิออกุสตุสที่เราเห็นที่แสดงภาพเป็นจักรพรรดิได้อย่างครบเครื่อง จนไม่มีจักรพรรดิโรมันใดๆ อีกที่จะครบเครื่องแบบนี้อีกแล้ว เพราะแสดงความเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งโดยการวางท่าชี้นิ้วบงการ มีใบหน้างดงามสมบูรณ์ราวเทพเจ้า และเสื้อเกราะของพระองค์ก็แพรวพราวไปด้วยลวดลายของเทพเจ้าโรมันอีก ว่าไปแล้วถ้าเป็นของซื้อขายก็เหมือนซื้อ 1 ได้ 2 เพราะมีประติมากรรมแสดงเรื่องราวอยู่บนประติมากรรมอีกที่หนึ่ง
เกราะของออกุสตุสนั้น มีคนคาดเดาว่าไปต่างๆ จะเห็นได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมี 2 ส่วน เรามาดูส่วนบนกันก่อน
ด้านบนเหนือราวนมของออกุสตุสคือภาพเทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ (Caelus) นำผ้าคลุมสยายออกปกคลุมแผ่นดินโรมัน (ผ้าคลุมนี้คือเมฆ)
ด้านซ้ายเป็นเทพอพอลโลควบม้าที่วิ่งนำหน้า ส่วนด้านขวาคือเทพีลูน่าทรงพระจันทร์ถือคบเพลิงเคียงข้างด้วยออโรร่าหรือเทพีแห่งรุ่งอรุณเหาะมาคู่กัน
ส่วนต่อมาด้านล่างของเสื้อเกราะเป็นภาพชายสองคนหันหน้ามาคุยกัน คนชราซึ่งคาดว่าเป็นกษัตริย์พาร์เธียนในชุดคนป่ายื่นนกอินทรีย์ให้กับชายอีกคนที่มีหมาป่าคู่ยืนอยู่แทบเท้า ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวโรมันซึ่งมีชัยชนะในการเจรจาทางการทูตกับพวกพาเธีย ส่วนบุคคลชาวช่างไกลออกไปอาจเป็นตัวแทนของแว่นแคว้นที่ถูกโรมันเข้าครอบครอง
และตรงด้านล่างลงมาอีก ประมาณเอวของพระองค์ ก็จะมีเทพเจ้าเอนกาย ชื่อ เทลลัส เป็นเทพแห่งความสมบูรณ์ ถือเขาสัตว์และอุ้มเด็กทารก ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อยู่ทั้งคู่
และถ้าสังเกตให้ดี เราจะได้เห็นของแถมขึ้นมาอีก มองลงไปที่ปลายขาของออกุสตุสจะเห็นเด็กน้อยเกาะขาพระองค์ไว้ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเด็กน้อยคนนี้มีปีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าพ่อหนูน้อยนี้คือคิวปิดนั่นเอง
และถ้าสังเกตอีกใกล้ๆ (แต่คงต้องเดินทางไปวาติกันแล้วจ้องดูแล้วละ) ก็จะพบว่าหนูน้อยกำลังขี่ปลาโลมา ซึ่งก็มีคนคิดว่าเป็นการแสดงถึงเทพีวีนัส คุณแม่ของคิวปิด อันนี้มีนัยยะว่าออกุสตุสสืบเชื้อสายจากเทพเจ้า นอกจากนี้ปลาโลมายังแสดงถึงชัยชนะของกองทัพเรือแห่งจักรพรรดิ์ด้วย
ข้าพเจ้าคิดว่าจุดประสงค์หลักคือการทำรูปอะไรไว้เพื่อจะค้ำจุนขาของออกุสตุสไว้ไม่ให้หักง่ายเพราะส่วนนี้เป็นจุดส่งน้ำหนักที่บอบบาง ก็เลยต้องเพิ่มอะไรลงไปให้มันมีฐานที่มันแข็งแรงมากขึ้น แบบที่เรามักเจอในประติมากรรมรูปคนยืนของโรมบ่อยๆ ดีไม่ดีคนทำอาจคิดอะไรเล่นๆไม่เป็นสาระอย่างที่เราตีความกันมาก็ได้
สุดท้ายนี้ขอสรุปรายงานการประชุมว่า ออกุสตุสองค์นี้เป็นประติมากรรมโรมันที่โด่งดังมาก และแสดงทั้งความเป็นสุดแสนจะจักรพรรดิด้วยเครื่องเคราต่างๆ ที่ดูล้นๆ รวยๆ แล้วก็โพสต์ท่าชี้นิ้วบัญชาการ แสดงอำนาจคุ้มเกล้าประชากรโรมันอย่างที่เห็น นี่แสดงความเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ และพระองค์ก็ยิ่งใหญ่จริงๆ ตามที่บอกไว้