เล่าประสบการณ์ ปัจจุบันทำงานแบบไม่มีวันหยุด และ พยายามออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ รักษาจิตใจให้ดีเสมอด้วยธรรมะ

ผมอายุ 32ปี วุฒิ กศน. ม.6 โสด-ซิง ไม่มีภาระหนี้สิน ไม่ผ่อนบ้าน-ไม่ผ่อนรถ และ ปัจจุบัน ผมทำงานออฟฟิศมาแบบไม่หยุดงานมาจะ 2 ปีแล้ว
ทำงานวันละ 12ชม. กะกลางคืน 19:00-7:00 สถานที่ ที่ผมทำงานนั้น ไม่มีที่สำหรับออกกำลังกาย ไม่มีที่ให้สามารถวิ่งได้ ไม่มีสวนสาธารณะ ไม่มีฟิตเนส
ทำงาน ตจว. พื้นที่ ที่ไม่เจริญ จะวิ่งหรือทำเสียงดังในห้องก็ไม่ได้ครับ เพราะอยู่กับรูมเมทในห้องนอนเกรงใจครับ จะวิ่งออกกำลังกายข้างนอกก็ไม่ได้ด้วยครับ สุนัขเยอะ มันเตรียมจ้องจะกัดขาคนวิ่งเสมอครับ

** เรื่องของตัวผม **
- เรื่องอาหาร เมื่อทำงานออฟฟิศที่นั่งทั้งวัน ทำให้ผมมีความอยากอาหารมากๆ แต่ทุกๆครั้งก่อนซื้ออะไรมาทาน ผมพยายามนึกถึงเรื่อง ธรรมมะดับกิเลส ต้องมีสติในการซื้อของใช้และอาหาร เสมอครับ นึกในใจว่าหากตามใจปากจะไม่ดีต่อสุขภาพครับ ซึ่งทุกๆวันคือการต่อสู้กับจิตใจตัวเองครับ พยายามทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และ ไม่ทานของทอด ของมัน
- กิจกรรม หลังเลิกงานของผมก่อนนอน คือ ลุกนั่ง วิดพื้น ซิดอัพ (เดือนหน้าจะซื้อดัมเบล 5kg มายก อีก 2 อันครับ) และ จบด้วยการนั่งสมาธิ นอนครับ
- เงินเดือนผมน้อยสุดในออฟฟิศครับ ผมให้แม่ผมเดือนละ 3-5k โดยที่ทุกเดือนผมจะเหลือเงินเก็บเพื่ออนาคตเสมอครับ
โดยการใช้เงินของผมนั้นจะเน้น ประหยัด + สุขภาพดี ไปพร้อมๆกันเสมอ
เมื่อทำสมาธิ ฟังธรรมมะ สามารถดับความอยากในรสชาติอาหาร ไปได้มากจริงๆครับ
- ผมอยากเก็บเงินเพื่อเอาไปต่อยอดในชีวิตเพิ่มเติมครับ เช่น ไปเรียนตัดผมเสริมสวย ไปเปิดร้านตัดผม ร้านเสริมสวย หรือ ไปเรียนมหาลัย สายภาษาญี่ปุ่นต่อ เพื่อนำเงินเก็บนี้ไปลงทุน ต่อยอดอาชีพ และ ต่อยอดเงินเดือน เพื่อความมั่นคงของชีวิตครับ
- เมื่อความอยาก ในรสชาติมีน้อยลง ความอยากได้ในวัตถุมีน้อยลง เงินที่ใช้ก็ใช้น้อยลง อาหารก็ทานน้อยลง
ทำให้ผมมีเงินเก็บมากขึ้น ซื้อและกินเฉพาะจำเป็น แต่ไม่ได้ถึงขั้น อด นะครับ มีบ้างครั้งที่ผม ซื้อของตามใจตัวเอง
แต่ต้องเป็นของที่ทำให้เราสุขภาพดีด้วยนะครับ เช่น ซื้อนํ้ายาสระผม แบบธรรมชาติที่ไม่ใส่ซิลิโคน เป็นต้น
- ผมทำงานนั่งโต๊ะแบบไม่หยุดเกือบ 2ปี แต่หุ่นก็ไม่อ้วนขึ้น แถมได้หุ่นที่มีกล้าม ลํ่าขึ้น สุขภาพดีขึ้นด้วย โดยที่ไม่เคยอ้างว่า "ไม่มีเวลาออกกำลังกาย" ผมพยายามรักษาระเบียบการใช้ชีวิต การกิน การนอน การออกกำลังการให้สมํ่าเสมอตลอดเวลา เวลาที่ท้อแท้ หรือ รู้สึกเหนื่อย ก็ใช้ธรรมะเป็นคํ้าจุนจิตใจเอาไว้เสมอ

** มุมมองที่ผมเห็นต่อเพื่อนร่วมงาน **
- คนในออฟฟิศผม เงินเดือนเยอะกว่าผมครับ แต่ละเดือนพวกเขาจะเหลือเก็บ 1-10k (บางเดือนหมด) พวกเขาจะนำเงินเก็บทั้งปี เอาไปซื้อ เครื่องเกม ซื้อคอม โทรศัพท์ ซื้อของราคาแพงๆ จนหมดตัว เสมอ แล้วก็เริ่มเก็บเงินใหม่ ไม่มีใครคิดจะประหยัดเงิน และ รักษาสุขภาพ
ทุกคนใช้ชีวิตออกไปแนวทาง ใช้ชีวิตเพื่อวันนี้เท่านั้น ไม่คิดถึงเรื่องอนาคตเลยว่าถ้าป่วยเป็นอะไรขึ้นมา อาจจะตกงาน อาจจะไม่เหลือเงินเก็บนะ
- คนในออฟฟิศผม มีแต่คนอ้วนที่สุขภาพไม่ดี และ เสพแต่ข่าวตามกระแสที่ไม่ดี เช่น ข่าวสังหารกัน ข่าวดราม่ากัน แล้วเอามาเมาส์มอยกันในออฟฟิศครับ
- คนในออฟฟิศผม พวกเขาตามใจไปกับความอยากของตัวเองมากจนเกินไป ทั้งเรื่องการกิน และ การซื้อของเพื่อเพิ่มความสุขให้ตัวเองตลอดเวลา ถ้าชวนไปกินข้าว หรือ ร้านอาหาร จะไปกินแบบแน่นอน แต่ถ้าชวนรักสุภาพด้วยความหวังดีนั้น จะไม่มีใครตามผมเลยครับ

** สุดท้าย **
สำหรับผม ธรรมะ ศาสนาพุทธ นั้นทำให้ผมไม่ตามกระแสไปกับคนอื่น
ทำให้ผมดูแลตัวเองดี สุขภาพจิตใจดี มีสติ คิดในแง่บวกเสมอ และ ทำให้ผมรู้สึกรักตัวเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่