เมื่อผมไปอยู่กับเขมรแดง (๒)

กระทู้สนทนา
6 ซรอเวิงแปลว่าเมา

เสียงเครื่องยนต์จากเหมืองพลอยดังกระหึ่ม ห่างออกไปนั้น รถแบ็กโฮกำลังตักดินใส่เครื่องโม่ บางเหมืองยังคงใช้แย็กเป็นอุปกรณ์ แต่หลุมที่ผมกวาดตาไปก็มองเห็นนี้ใช้เครื่องโม่ เครื่องโม่เป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ซึ่งทำงานได้รวดเร็วกว่า เพราะใช้แบ็กโฮตักดินใส่โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาใช้น้ำฉีดละลายดินก่อนใช้เครื่องดูดน้ำดูดขึ้นแย็กเหมือนก่อน นับว่าร่นระยะเวลาเพิ่มการกอบโกยได้อีกไม่น้อย

หลายวันแล้วที่ผมมาใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยที่นี่ ความตั้งใจนั้นคือการมาหาประสบการณ์ โดยมีงานรับจ้างแบกไม้เพื่อนำมาสร้างบ้านของหัวหน้าพรเป็นข้ออ้าง ซึ่งงานนี้ลูกน้องของเสี่ยวิเป็นฅนติดต่อเรามาอีกที เพียงแต่มือเลื่อยเกิดปัญหาจึงยังเข้าป่ากันไม่ได้ ผมเลยต้องเป็นลูกน้องช่างสร้างบ้านทำงานค่าเวลาไปก่อน การใช้ชีวิตที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรมาก กลางวันช่วยช่างเทพื้นขัดพื้น กลางคืนข้ามฟากไปดูพวกฅนงานเหมืองเล่นดัมมี่หรือไม่ก็อยู่กับบ้านนอนดูทีวี นานวันเข้าก็สร้างความเบื่อหน่ายได้เหมือนกัน หากการได้แวะเวียนกลับลงมายังฝั่งไทยก็พอช่วยแก้อาการนี้ได้บ้าง

ผมไม่ทราบว่าเป็นวันอะไรหรือเนื่องในโอกาสไหนเหมือนกัน เมื่อหัวหน้าพรให้ชัยขับรถพาแกลงมาบ่อไร่โดยมีผมกับเพื่อนติดรถมาด้วย ลูกน้องฅนหนึ่งของแกที่ติดรถมาเช่นกันนั้นยังใส่ชุดทหารเต็มยศอยู่เลย เมื่อถึงบ่อไร่จึงต้องรีบหาซื้อเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยน เพราะแม้ว่าทางฝ่ายทหารไทยจะอนุญาตให้ผ่านเข้าออกได้อย่างไม่มีปัญหาใดก็ตาม แต่ตำรวจคงไม่รับรู้เรื่องนี้ด้วย 

หัวหน้าพรซื้อเหล้าเบียร์และอาหารกลับมา แล้วก็มีการเลี้ยงฉลอง ที่ผมไม่ทราบว่าเนื่องในโอกาสอะไรนั่นแหละ

คืนนี้หัวหน้าพรแสดงความเป็นฅนใจกว้างออกมาให้ได้เห็น ผมนั้นความจริงเป็นเพียงผู้ที่ได้ติดตามคณะของเสี่ยวิมาหาประสบการณ์โดยเอางานมาอ้างอย่างที่บอก แทบไม่รู้จักใครในนี้เลยด้วยซ้ำ หากแต่หัวหน้าพรกลับแสดงท่าทีคุ้นเคยได้สนิทใจ ทั้งที่ผ่านมาเราแทบไม่ได้ทักทายกันเลยก็ว่าได้ แต่นั่นคงเป็นเพราะความไม่กล้าของผมเอง และทั้งที่ผ่านมาผมอาจไม่ค่อยกล้าสู้หน้าแกสักเท่าไรนัก แต่คืนนี้ผมถึงกับต้อง ซรอเวิง หรือเมาพับไปกับการคะยั้นคะยอให้ดื่มของแกได้เลยเหมือนกัน

.
7 กลับไทย

หลายวันแล้วผมไม่ได้เห็นหน้าเสี่ยวิเลย ทั้งที่เรากำลังจะกลับไทยอยู่แล้ว ด้วยมือเลื่อยไม้ยังไม่สามารถขึ้นเขาได้เราจึงคิดกลับบ้านกันก่อน ผมเริ่มเบื่อที่นี่แล้วด้วยนั่นแหละ แต่ถ้าเสี่ยวิยังไม่มาผมก็ต้องกลับไปโดยไม่ได้รับค่าแรงสร้างบ้านที่แกเป็นผู้รับเหมาแต่อย่างใด แม้จุดประสงค์ของผมจะแค่มาหาประสบการณ์ แต่ค่าแรงก็ถือเป็นรายได้พิเศษที่ผมควรได้รับเช่นกัน

“หัวหน้าพรเขาช่วยเสี่ยวิมาเท่าไรแล้ว”  เพื่อนผู้รู้อะไรมากกว่าผมเอ่ยขึ้นขณะเรานั่งคุยกัน ผมเพิ่งทราบว่าแม้แต่เหียระเองก็ค่อนข้างลำบากในการขอเบิกค่าแรงจากเสี่ยวิ ดีที่ว่าเหียระเป็นฅนไม่ค่อยคิดอะไรมาก ปล่อยชีวิตตามสบายในแต่ละวัน แกจึงดูเหมือนจะไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรกับเรื่องนี้นัก

การพูดคุยกับเพื่อนทำให้ผมได้รับรู้ถึงความตกต่ำของเสี่ยวิ ยามนี้แกมีแต่หนี้สิน แม้แต่เหมืองพลอยที่เห็นอยู่นี้ถ้าไม่ได้หัวหน้าพรหุ้นส่วนของแกช่วยไว้ก็คงไม่มีอะไรเหลือแล้วเช่นกัน ภาพเสี่ยวิยามที่แกยังคงมีอิทธิพลกับภาพที่ผมเห็นในปัจจุบันถูกนำมาเปรียบกันอย่างช่วยไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฅนงานแขมร์จึงกล้าแสดงกิริยาอาการเช่นนั้นกับแก

และในที่สุดผมก็ต้องกลับไทยโดยได้รับเพียงประสบการณ์ติดตัวมาเท่านั้นจริง ๆ

.
8 ส่งท้าย

พ.ศ. 2548

โตโยต้าขับเคลื่อนสี่ล้อเก่า ๆ คันนั้นอัดแน่นไปด้วยจำนวนผู้โดยสารในส่วนของกระบะท้าย ช่องทางเนินสี่ร้อยหรือเส้นทางบ้านมะม่วงเพิ่งได้รับการเปิดเป็นจุดผ่อนผันให้ผ่านแดนได้ชั่วคราว บรรดาชาวแขมร์จากอำเภอซ็อมโลต จังหวัดบัตด็อมบอง หรือพระตะบอง จึงคึกคักกับการเข้ามาหาซื้อของที่อำเภอบ่อไร่ฝั่งไทย ขณะที่ผมกำลังต้องการผ่านด่านชายแดนเข้าไปยังฝั่งแขมร์เช่นกัน

วันนี้สงครามสงบแล้ว เมืองแขมร์ยังบริสุทธิ์ต่อการเข้าไปสัมผัสหาประสบการณ์เป็นอย่างมาก นั่นคือเป้าหมายของผม 

ระหว่างรอรับการตรวจตราจากเจ้าหน้าที่ ผมอดสำรวจโตโยต้าขับเคลื่อนสี่ล้อตรงหน้าไปด้วยไม่ได้ จะว่าไปมันก็เป็นสิ่งคุ้นตาอยู่เหมือนกัน หากผู้ซึ่งกำลังส่งเสียงกับผู้โดยสารก่อนเข้าประจำที่นั่งฅนขับนั้น กลับเป็นสิ่งคุ้นตามากกว่า 'หัวหน้าพร' ชายผู้เคยเป็นนายทหารเขมรแดง เคยใช้ชีวิตแบบเสี่ยเหมืองพลอย วันนี้แกเป็นฅนขับรถโดยสารรับจ้างเข้าออกตามช่องทางชายแดน อดคิดถึงบ้านของแกที่ผมมีส่วนสร้างด้วยไม่ได้ ไม่ทราบว่าวันนี้มันจะเป็นอย่างไร อาจถูกทิ้งร้างไปแล้วก็ได้ เพราะเท่าที่ทราบมาเส้นทางสายนั้นเมื่อหมดไม้หมดพลอยแล้ว ก็ดูจะไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนัก

ผมไม่ได้เข้าไปทักทายหัวหน้าพรด้วยไม่มีช่วงจังหวะให้ทำเช่นนั้นได้ และค่อนข้างแน่ใจว่าแกคงจำผมไม่ได้แล้ว 

อดคิดถึงเสี่ยวิไม่ได้เช่นกัน ชีวิตช่วงท้ายของแกดูจะล้มลุกคลุกคลานไม่ราบรื่นนัก

‘พลอยไม่เคยทำให้ในาน’

เป็นคำกล่าวของใครสักฅนที่ผมจำได้ดี

ความคิดยังพาผมย้อนไปถึงเหียระ จากตอนนั้นมาผมไม่เคยได้รับรู้ข่าวคราวจากแกเลย ไม่รู้ว่าวันนี้แกจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คิดว่าแกก็คงเหมือนเดิม ไม่รู้จักทุกข์ร้อนอะไร และคงใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่ต่างจากผม

โตโยต้าขับเคลื่อนสี่ล้อคันนั้นแล่นจากไปแล้ว ผมยังคงยืนคร่อมจักรยานยนต์มองตามหลังไป ทั้งรับรู้ได้ว่า อย่างน้อยการได้เจอฅนเคยรู้จัก ก็สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เราได้เช่นกัน.
-จบ-
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่