เกมล่ามโซ่ “ทักษิณ-ก้าวไกล” พักโทษลุงโทนี่แน่ล้าน% แต่มีมีด 112 ปักหลัง อย่าหือ!
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4414636
รศ.ดร.
ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ข่าวบ้าน การเมือง วิเคราะห์เกมล่ามโซ่
ทักษิณ ชินวัตร และพรรค
ก้าวไกล พักโทษลุงโทนี่แน่ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่มีมีด 112 ปักหลัง อย่าหือ!
‘เด็กลุงป้อม’ โดนแล้ว ใบแดง-ใบดำ ‘พรวิศิษฐ์’ ปมแจกเงิน-เสื้อซื้อเสียง แลกไม่ร้องทุจริต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4415091
‘เด็กลุงป้อม’ โดนแล้ว กกต.แจกใบแดง-ใบดำ ‘พรวิศิษฐ์’ ผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์ พปชร. ปมแจกเงิน -เสื้อซื้อเสียง แลกไม่ร้องทุจริต
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนาย
พรวิศิษฐ์ แจ่มใส ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.
ณฐณณฑ์ เบญจภิญโญ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 โดยให้ดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้งสอง ตามมาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งให้กันผู้แจ้งเหตุ สามีของผู้แจ้งเหตุ พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 2 ถึงคนที่ 4 คนที่ 6 และคนที่ 8 ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี
จากกรณีไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วฟังได้ว่า น.ส.
ณฐณณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของนาย
พรวิศิษฐ์ ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาทให้แก่ผู้แจ้งเหตุในวันที่ 4 พฤษภาคม 66 เวลา 11.30 น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ตามที่ผู้แจ้งเหตุเดินทางไปทวงเงินค่าจ้างในการไปเข้าร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ของนาย
พรวิศิษฐ์เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 โดยน.ส.
ณฐณณฑ์ บอกให้ผู้แจ้งเหตุนำเงินนี้ไปมอบให้กับให้บุคคลในครอบครัวของผู้แจ้งเหตุ ได้แก่ ผู้แจ้งเหตุ ตาและยายของสามี ผู้แจ้งเหตุ และสามีของผู้แจ้งเหตุ คนละ 500 บาท พร้อมทั้งขอให้ลงคะแนนให้แก่นาย
พรวิศิษฐ์ และที่เหลืออีก 4,000 บาทเป็นค่าจ้างเพื่อไม่ให้ ผู้แจ้งเหตุไปร้องเรียนต่อสำนักงานกกต.ตามที่ผู้แจ้งเหตุพูดตอนมาทวงเงินก่อนว่า “
จะไปดำเนินการ ร้องเรียน ต่อ กกต.” เหตุการณ์ดังกล่าว ผู้แจ้งเหตุได้รับเสื้อสีขาว ที่พิมพ์ชื่อของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 2 ตัว
ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 20.00 น.ผู้แจ้งเหตุ และสามีของผู้แจ้งเหตุได้เดินทางไปรวบรวมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในชุมชนตาคลี และนอกชุมชนตาคลีได้จำนวน 31 บัตร โดยนำไปส่งมอบให้น.ส.
ณฐณณฑ์ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ซึ่งมีการคัดถ่ายเป็นสำเนาเอกสารก่อนนำบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวมาคืนให้แก่ผู้แจ้งเหตุ โดยน.ส.
ณฐณณฑ์ให้ผู้แจ้งเหตุเขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชน ลงในกระดาษเรียงตามลำดับรายชื่อเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับเตรียมแจกเงินคนละ 500 บาท ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวของผู้แจ้งเหตุสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในบทสนทนาผ่านทางแอพพลิเคชันไลน์ระหว่างน.ส.
ณฐณณฑ์ กับผู้แจ้งเหตุ ที่มีการชักชวนกัน ไปเดินหาเสียงเลือกตั้งให้นาย
พรวิศิษฐ์ แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่น.ส.
ณฐณณฑ์ยินยอมให้ ผู้แจ้งเหตุเข้ามาช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่นาย
พรวิศิษฐ์
อีกทั้งเมื่อผู้แจ้งเหตุส่งข้อความว่า “
เจ๊หงส์คะได้บัตรมาหมดแล้วค่ะ 34 คน” “
ชัวร์ทุกคน” “
เย็นนี้จะส่ง LINE ส่งงานให้ค่ะ” “
เจ๊หงส์จะให้เขียนรายชื่อ หรือเอาบัตรประชาชนไปปริ้นออฟฟิศคะ” “
พอดีว่าได้บัตรประชาชนมาหมดแล้ว” และได้ส่งภาพถ่ายรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวที่ผู้แจ้งเหตุรวบรวมมา ให้แก่ผู้น.ส.
ณฐณณฑ์ ซึ่งน.ส.
ณฐณณฑ์ก็ส่งข้อความสนทนากับผู้แจ้งเหตุต่อไปโดยมิได้ปฏิเสธการกระทำดังกล่าวของผู้แจ้งเหตุ
ประกอบกับจากการตรวจสอบคลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างผู้แจ้งเหตุ กับน.ส.
ณฐณณฑ์ ยังปรากฏข้อความตอนหนึ่งว่า “
..แล้วคิวของทุกคนมันรออยู่ คืออยากให้แจ้งชาวบ้านว่า เดี๋ยวพี่หงส์รีบจัดการให้ หรือว่าแจ้งชาวบ้านว่าเดี๋ยวจะจัดการให้ อย่าเพิ่งกรูเข้ามา” สอดคล้องกับถ้อยคำของผู้แจ้งเหตุที่ว่า ได้ไปที่ศูนย์ประสานงาน พรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี เพื่อทวงถามเรื่องเงินที่จะนำไปจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่รวบรวมรายชื่อและบัตรประจำตัวประชาชนส่งให้แก่น.ส.
ณฐณณฑ์
และสอดคล้องกับถ้อยคำของพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 1 -8 ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชนที่ผู้แจ้งเหตุกล่าวอ้าง ซึ่งให้ถ้อยคำว่าได้มีผู้แจ้งเหตุและบุคคลอื่นขอเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของพวกตนโดยพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 2-4 คนที่ 5 และคนที่ 8 ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่าบุคคลที่ขอเก็บบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวได้สัญญาว่าจะให้เงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครหมายเลข 9 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของนายพรวิศิษฐ์ พยานหลักฐานจึงน่าเชื่อว่าน.ส.
ณฐณณฑ์ กระทำการ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นาย
พรวิศิษฐ์ตามที่มีการกล่าวหา
นอกจากนี้ที่น.ส.
ณฐณณฑ์ มอบเสื้อที่ตนได้รับจัดสรรให้แก่ผู้แจ้งเหตุจำนวน 4 ตัว ได้แก่ เสื้อยืดสีน้ำเงินที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และด้านหลังเสื้อมีข้อความว่า พรรคพลังประชารัฐ จำนวน1 ตัว และเสื้อสีขาวที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และด้านหลังเสื้อมีข้อความว่า “
รับใช้ใกล้ชิดต้องพรวิศิษฐ์ แจ่มใส” จำนวน 3 ตัว โดยไม่พบว่าผู้แจ้งเหตุ พยานคนที่ 1 และคนที่ 2ของผู้แจ้งเหตุ เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ การให้เสื้อดังกล่าวแก่ผู้แจ้งเหตุจึงมีลักษณะเป็นการให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่นาย
พรวิศิษฐ์
เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ที่นาย
พรวิศิษฐ์ ได้แจ้งชื่อน.ส.
ณฐณณฑ์ เป็นผู้ช่วยหาเสียงทำหน้าที่ประสานงานและหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่เทศบาลเมืองตาคลีซึ่งปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ภาพถ่ายน.ส.
ณฐณณฑ์ไปร่วมหาเสียงเลือกตั้งกับนาย
พรวิศิษฐ์ แสดงให้เห็นว่าน.ส.
ณฐณณฑ์ มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งของนาย
พรวิศิษฐ์ จึงน่าเชื่อว่านาย
พรวิศิษฐ์ รู้เห็นเป็นใจให้น.ส.
ณฐณณฑ์ กระทำการดังกล่าว กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านาย
พรวิศิษฐ์ ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้น.ส.
ณฐณณฑ์ให้เงิน เสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงิน รวมทั้งให้เสื้อดังกล่าวซึ่งเป็นทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 และเป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขตเลือกตั้งที่ 5 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนาย
พรวิศิษฐ์มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ต่างอำเภอโคราชเทศกาลตรุษจีนเงียบเหงา
https://www.innnews.co.th/news/local/news_674063/
ต่างอำเภอโคราช ตรุษจีนเงียบเหงา แม่ค้าโอดเศรษฐกิจไม่ดี แถมสินค้าราคาขึ้น ปชช.ไม่มีกำลังจับจ่าย
เช้าวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2567) บรรยากาศวันจ่าย เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ที่ตลาดจอแจ เขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พบว่า ไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยนางเสมา ภู่คำ อายุ 59 ปี เป็นแม่ค้าขายดอกไม้และพวงมาลัยชาว อ.พิมาย บอกว่า ตลาดจอแจเช้าวันจ่ายตรุษจีนปีนี้เงียบเหงามาก ขายไม่ค่อยได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ไม่ค่อยมีใครออกมาจับจ่าย สินค้าที่เตรียมเอาไว้ยังเหลืออยู่เพียบ
ในขณะที่ตลาดสดพิมายเมืองใหม่ ต.ในเมือง อ.พิมาย ก็เงียบเหงาเช่นกัน โดยนายณรงค์ จรัสเอี่ยม อายุ 63 ปี พ่อค้าขายผลไม้ในตลาดสดพิมายเมืองใหม่ บอกว่า วันจ่ายตรุษจีนปีนี้ตลาดสดพิมายเมืองใหม่เงียบเหงา ประชาชนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายหาซื้อของไหว้ แต่ก็ยังมีลูกค้าขาประจำมาซื้ออยู่บ้าง เพื่อเตรียมเอาไว้ไหว้เจ้า เทพยดา และบรรพบุรุษ เพื่อขอพรในการประกอบธุรกิจ-กิจการงานต่างๆให้มีความราบรื่นตลอดทั้งปี
ส่วนแม่ค้าขายเนื้อหมู บอกว่า เศรษฐกิจแย่ ทำให้ขายไม่ดี และยังมีปัญหาสินค้าแพงอีก โดยเฉพาะเนื้อหมู ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ออกมาซื้อของไปไหว้เจ้ามากนัก จะมีแต่ขาประจำ ส่วนร้านศิลปชัยอาภรณ์ ร้านขายเสื้อผ้าในตลาดพิมายเมืองใหม่ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตรุษจีนปีนี้ขายเสื้อผ้าได้น้อยมาก ประชาชนไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋าเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี อีกทั้งเสื้อผ้าแต่งกายในช่วงเทศกาล คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในปีนี้จึงไม่ค่อยมีคนซื้อไปสวมใส่ แต่จะเลือกซื้อเป็นของกินมากกว่า
JJNY : เกมล่ามโซ่“ทักษิณ-ก้าวไกล”│‘เด็กป้อม’โดนแล้วใบแดง-ใบดำ│ต่างอำเภอโคราช ตรุษจีนเงียบเหงา│อิสราเอลปฏิเสธสงบศึกฮามาส
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4414636
รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ข่าวบ้าน การเมือง วิเคราะห์เกมล่ามโซ่ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคก้าวไกล พักโทษลุงโทนี่แน่ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่มีมีด 112 ปักหลัง อย่าหือ!
‘เด็กลุงป้อม’ โดนแล้ว ใบแดง-ใบดำ ‘พรวิศิษฐ์’ ปมแจกเงิน-เสื้อซื้อเสียง แลกไม่ร้องทุจริต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4415091
‘เด็กลุงป้อม’ โดนแล้ว กกต.แจกใบแดง-ใบดำ ‘พรวิศิษฐ์’ ผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์ พปชร. ปมแจกเงิน -เสื้อซื้อเสียง แลกไม่ร้องทุจริต
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายพรวิศิษฐ์ แจ่มใส ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ณฐณณฑ์ เบญจภิญโญ ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 โดยให้ดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้งสอง ตามมาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน รวมทั้งให้กันผู้แจ้งเหตุ สามีของผู้แจ้งเหตุ พยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 2 ถึงคนที่ 4 คนที่ 6 และคนที่ 8 ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี
จากกรณีไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วฟังได้ว่า น.ส.ณฐณณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของนายพรวิศิษฐ์ ได้มอบเงินจำนวน 10,000 บาทให้แก่ผู้แจ้งเหตุในวันที่ 4 พฤษภาคม 66 เวลา 11.30 น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ตามที่ผู้แจ้งเหตุเดินทางไปทวงเงินค่าจ้างในการไปเข้าร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ของนายพรวิศิษฐ์เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 โดยน.ส.ณฐณณฑ์ บอกให้ผู้แจ้งเหตุนำเงินนี้ไปมอบให้กับให้บุคคลในครอบครัวของผู้แจ้งเหตุ ได้แก่ ผู้แจ้งเหตุ ตาและยายของสามี ผู้แจ้งเหตุ และสามีของผู้แจ้งเหตุ คนละ 500 บาท พร้อมทั้งขอให้ลงคะแนนให้แก่นายพรวิศิษฐ์ และที่เหลืออีก 4,000 บาทเป็นค่าจ้างเพื่อไม่ให้ ผู้แจ้งเหตุไปร้องเรียนต่อสำนักงานกกต.ตามที่ผู้แจ้งเหตุพูดตอนมาทวงเงินก่อนว่า “จะไปดำเนินการ ร้องเรียน ต่อ กกต.” เหตุการณ์ดังกล่าว ผู้แจ้งเหตุได้รับเสื้อสีขาว ที่พิมพ์ชื่อของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 2 ตัว
ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 20.00 น.ผู้แจ้งเหตุ และสามีของผู้แจ้งเหตุได้เดินทางไปรวบรวมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในชุมชนตาคลี และนอกชุมชนตาคลีได้จำนวน 31 บัตร โดยนำไปส่งมอบให้น.ส.ณฐณณฑ์ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ซึ่งมีการคัดถ่ายเป็นสำเนาเอกสารก่อนนำบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวมาคืนให้แก่ผู้แจ้งเหตุ โดยน.ส.ณฐณณฑ์ให้ผู้แจ้งเหตุเขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชน ลงในกระดาษเรียงตามลำดับรายชื่อเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับเตรียมแจกเงินคนละ 500 บาท ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวของผู้แจ้งเหตุสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในบทสนทนาผ่านทางแอพพลิเคชันไลน์ระหว่างน.ส.ณฐณณฑ์ กับผู้แจ้งเหตุ ที่มีการชักชวนกัน ไปเดินหาเสียงเลือกตั้งให้นายพรวิศิษฐ์ แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่น.ส.ณฐณณฑ์ยินยอมให้ ผู้แจ้งเหตุเข้ามาช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่นายพรวิศิษฐ์
อีกทั้งเมื่อผู้แจ้งเหตุส่งข้อความว่า “เจ๊หงส์คะได้บัตรมาหมดแล้วค่ะ 34 คน” “ชัวร์ทุกคน” “เย็นนี้จะส่ง LINE ส่งงานให้ค่ะ” “เจ๊หงส์จะให้เขียนรายชื่อ หรือเอาบัตรประชาชนไปปริ้นออฟฟิศคะ” “พอดีว่าได้บัตรประชาชนมาหมดแล้ว” และได้ส่งภาพถ่ายรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวที่ผู้แจ้งเหตุรวบรวมมา ให้แก่ผู้น.ส.ณฐณณฑ์ ซึ่งน.ส.ณฐณณฑ์ก็ส่งข้อความสนทนากับผู้แจ้งเหตุต่อไปโดยมิได้ปฏิเสธการกระทำดังกล่าวของผู้แจ้งเหตุ
ประกอบกับจากการตรวจสอบคลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างผู้แจ้งเหตุ กับน.ส.ณฐณณฑ์ ยังปรากฏข้อความตอนหนึ่งว่า “..แล้วคิวของทุกคนมันรออยู่ คืออยากให้แจ้งชาวบ้านว่า เดี๋ยวพี่หงส์รีบจัดการให้ หรือว่าแจ้งชาวบ้านว่าเดี๋ยวจะจัดการให้ อย่าเพิ่งกรูเข้ามา” สอดคล้องกับถ้อยคำของผู้แจ้งเหตุที่ว่า ได้ไปที่ศูนย์ประสานงาน พรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี เพื่อทวงถามเรื่องเงินที่จะนำไปจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่รวบรวมรายชื่อและบัตรประจำตัวประชาชนส่งให้แก่น.ส.ณฐณณฑ์
และสอดคล้องกับถ้อยคำของพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 1 -8 ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชนที่ผู้แจ้งเหตุกล่าวอ้าง ซึ่งให้ถ้อยคำว่าได้มีผู้แจ้งเหตุและบุคคลอื่นขอเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของพวกตนโดยพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 2-4 คนที่ 5 และคนที่ 8 ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่าบุคคลที่ขอเก็บบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวได้สัญญาว่าจะให้เงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครหมายเลข 9 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของนายพรวิศิษฐ์ พยานหลักฐานจึงน่าเชื่อว่าน.ส.ณฐณณฑ์ กระทำการ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายพรวิศิษฐ์ตามที่มีการกล่าวหา
นอกจากนี้ที่น.ส.ณฐณณฑ์ มอบเสื้อที่ตนได้รับจัดสรรให้แก่ผู้แจ้งเหตุจำนวน 4 ตัว ได้แก่ เสื้อยืดสีน้ำเงินที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และด้านหลังเสื้อมีข้อความว่า พรรคพลังประชารัฐ จำนวน1 ตัว และเสื้อสีขาวที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ และด้านหลังเสื้อมีข้อความว่า “รับใช้ใกล้ชิดต้องพรวิศิษฐ์ แจ่มใส” จำนวน 3 ตัว โดยไม่พบว่าผู้แจ้งเหตุ พยานคนที่ 1 และคนที่ 2ของผู้แจ้งเหตุ เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ การให้เสื้อดังกล่าวแก่ผู้แจ้งเหตุจึงมีลักษณะเป็นการให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่นายพรวิศิษฐ์
เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ที่นายพรวิศิษฐ์ ได้แจ้งชื่อน.ส.ณฐณณฑ์ เป็นผู้ช่วยหาเสียงทำหน้าที่ประสานงานและหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่เทศบาลเมืองตาคลีซึ่งปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ สาขาตาคลี ภาพถ่ายน.ส.ณฐณณฑ์ไปร่วมหาเสียงเลือกตั้งกับนายพรวิศิษฐ์ แสดงให้เห็นว่าน.ส.ณฐณณฑ์ มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งของนายพรวิศิษฐ์ จึงน่าเชื่อว่านายพรวิศิษฐ์ รู้เห็นเป็นใจให้น.ส.ณฐณณฑ์ กระทำการดังกล่าว กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านายพรวิศิษฐ์ ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้น.ส.ณฐณณฑ์ให้เงิน เสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงิน รวมทั้งให้เสื้อดังกล่าวซึ่งเป็นทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 และเป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขตเลือกตั้งที่ 5 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายพรวิศิษฐ์มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ต่างอำเภอโคราชเทศกาลตรุษจีนเงียบเหงา
https://www.innnews.co.th/news/local/news_674063/
ต่างอำเภอโคราช ตรุษจีนเงียบเหงา แม่ค้าโอดเศรษฐกิจไม่ดี แถมสินค้าราคาขึ้น ปชช.ไม่มีกำลังจับจ่าย
เช้าวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2567) บรรยากาศวันจ่าย เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ที่ตลาดจอแจ เขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พบว่า ไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยนางเสมา ภู่คำ อายุ 59 ปี เป็นแม่ค้าขายดอกไม้และพวงมาลัยชาว อ.พิมาย บอกว่า ตลาดจอแจเช้าวันจ่ายตรุษจีนปีนี้เงียบเหงามาก ขายไม่ค่อยได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ไม่ค่อยมีใครออกมาจับจ่าย สินค้าที่เตรียมเอาไว้ยังเหลืออยู่เพียบ
ในขณะที่ตลาดสดพิมายเมืองใหม่ ต.ในเมือง อ.พิมาย ก็เงียบเหงาเช่นกัน โดยนายณรงค์ จรัสเอี่ยม อายุ 63 ปี พ่อค้าขายผลไม้ในตลาดสดพิมายเมืองใหม่ บอกว่า วันจ่ายตรุษจีนปีนี้ตลาดสดพิมายเมืองใหม่เงียบเหงา ประชาชนไม่ค่อยออกมาจับจ่ายหาซื้อของไหว้ แต่ก็ยังมีลูกค้าขาประจำมาซื้ออยู่บ้าง เพื่อเตรียมเอาไว้ไหว้เจ้า เทพยดา และบรรพบุรุษ เพื่อขอพรในการประกอบธุรกิจ-กิจการงานต่างๆให้มีความราบรื่นตลอดทั้งปี
ส่วนแม่ค้าขายเนื้อหมู บอกว่า เศรษฐกิจแย่ ทำให้ขายไม่ดี และยังมีปัญหาสินค้าแพงอีก โดยเฉพาะเนื้อหมู ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ออกมาซื้อของไปไหว้เจ้ามากนัก จะมีแต่ขาประจำ ส่วนร้านศิลปชัยอาภรณ์ ร้านขายเสื้อผ้าในตลาดพิมายเมืองใหม่ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตรุษจีนปีนี้ขายเสื้อผ้าได้น้อยมาก ประชาชนไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋าเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี อีกทั้งเสื้อผ้าแต่งกายในช่วงเทศกาล คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในปีนี้จึงไม่ค่อยมีคนซื้อไปสวมใส่ แต่จะเลือกซื้อเป็นของกินมากกว่า