รบกวนสอบถามผู้รู้ผู้มีประสบการค่ะ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 02/01/2567 เราจอดติดไฟแดงอยู่แล้วมีกะบะพุ่งมาชนท้ายแรงมาก รถยับไปเกือบครึ่งคันโชคดีที่ไม่มีใครนั่งหลังมาด้วย เราไม่เจ็บหนักอะไรแค่ฟกช้ำเพราะหน้ากระแทกพวงมาลัย วันนี้ 02/02/2567 นัดคุยกับประกันคู่กรณีพร้อมคู่กรณี ต่อหน้าตำรวจบอกจะรับผิดชอบทุกอย่างโน้นนี่นั้นคุยเสร็จออกมาประกันจะให้เซ็นเอกสารบอกว่าเป็นค่ารถสไลด์ที่เราจ่ายไปก่อน แต่ท้ายเอกสารระยุข้อความเหมือนเรายอมความว่าจะไม่ฟ้องร้องอะไรในอนาคต เราเลยถามเขาว่า
เรา : เรื่องยังไม่จบเลยนะยังไม่ตกลงค่าเสียหายใดๆกันเลย ถ้าเกิดตกลงกันไม่ได้หรือมีปัญหาในอนาคตเราจะทำยังไง
ประกันเขา : แค่เรื่องค่าลากรถอย่างเดียว
เรา : งั้นสลักข้อความเพิ่มได้มั้ยว่าแค่ค่ารถสไล์
ประกันเขา : ไม่ได้
เรา: งั้นให้ตำรวจเป็นพยานได้มั้ย
ประกันเขา : งั้นก็ไม่ต้องเซ็นรอเอาทีเดียวพร้อมค่ารถแล้วกัน
เราเลยไม่เซ็น พอออกจากโรงพักไม่ถึงชั่วโมงอู่โทรมาบอกจะซ่อมมั้ยแล้วหัวเราะ เราเลยบอกพี่เห็นรถพี่ก็น่าจะรู้แล้วว่าซ้อมไม่ได้แล้วเรียกเราไปคุยที่อู่ พาเดินไปดูรถคันที่ใหม่กว่าแล้วบอกคันนี้ได้230,000กับ รถน้องราคาตลาดตอนนี้100,000 แล้วบอกพี่ทำเรื่องให้ได้เลยถ้าน้องจะเอา 120,000 พูดแบบเข้าข้างประกันเหมือนจะรีบอยากให้เราจบ หว่านล้อมมากว่าได้มากสุดก็เท่านี้ทั้งค่ารถค่าทำขวัญค่าเสียเวลาหรือเสียหายขาดผบประโยชน์ใดๆ เราเลยคิดว่าที่จริงน่าจะได้มากกว่านี้ หมายถึงเรียกได้มากกว่านี้ เพราะเราไม่ผิด แล้วก็ไม่ได้มีความจำเป็นจะเปลี่ยนรถหรือซื้อรถตอนนี้จะตีให้แค่ค่ารถ100,000กับค่าขาดผลประโยชน์20,000 แล้วจบกันเลย ส่วนค่าทำขวัญค่าขาดงานหรือใดๆไม่มีพูดถึงเลย อยู่ๆทำไมเราต้องมาดาวรถ 250,0000 ผ่อน6ปี ปีละ 11,000 ทั้งที่5-6ปีเราอยู่แบบไม่มีภาระ มีรถขับสบายไม่ต้องจ่ายอะไร 6ปีกับเงินเกือบล้านเป็นเงินเก็บหรือเอาไปลงทุนอย่างอื่นได้เยอะเลยนะ เลยอยากทราบว่าความจริงแล้วเราต้องได้เท่าไหร่ สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างตามความเหมาะสม เพราะเราจอดอยู่เฉยๆไม่ได้อยากจะเปลี่ยนรถหรือมีภาระระยะยาวเพิ่ม
รบกวนขอคำแนะนำหน่อยค่ะ?
?? โดนกะบะชนท้าย เราเป็นฝ่ายถูกควรเรียกอะไรได้บ้าง??
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 02/01/2567 เราจอดติดไฟแดงอยู่แล้วมีกะบะพุ่งมาชนท้ายแรงมาก รถยับไปเกือบครึ่งคันโชคดีที่ไม่มีใครนั่งหลังมาด้วย เราไม่เจ็บหนักอะไรแค่ฟกช้ำเพราะหน้ากระแทกพวงมาลัย วันนี้ 02/02/2567 นัดคุยกับประกันคู่กรณีพร้อมคู่กรณี ต่อหน้าตำรวจบอกจะรับผิดชอบทุกอย่างโน้นนี่นั้นคุยเสร็จออกมาประกันจะให้เซ็นเอกสารบอกว่าเป็นค่ารถสไลด์ที่เราจ่ายไปก่อน แต่ท้ายเอกสารระยุข้อความเหมือนเรายอมความว่าจะไม่ฟ้องร้องอะไรในอนาคต เราเลยถามเขาว่า
เรา : เรื่องยังไม่จบเลยนะยังไม่ตกลงค่าเสียหายใดๆกันเลย ถ้าเกิดตกลงกันไม่ได้หรือมีปัญหาในอนาคตเราจะทำยังไง
ประกันเขา : แค่เรื่องค่าลากรถอย่างเดียว
เรา : งั้นสลักข้อความเพิ่มได้มั้ยว่าแค่ค่ารถสไล์
ประกันเขา : ไม่ได้
เรา: งั้นให้ตำรวจเป็นพยานได้มั้ย
ประกันเขา : งั้นก็ไม่ต้องเซ็นรอเอาทีเดียวพร้อมค่ารถแล้วกัน
เราเลยไม่เซ็น พอออกจากโรงพักไม่ถึงชั่วโมงอู่โทรมาบอกจะซ่อมมั้ยแล้วหัวเราะ เราเลยบอกพี่เห็นรถพี่ก็น่าจะรู้แล้วว่าซ้อมไม่ได้แล้วเรียกเราไปคุยที่อู่ พาเดินไปดูรถคันที่ใหม่กว่าแล้วบอกคันนี้ได้230,000กับ รถน้องราคาตลาดตอนนี้100,000 แล้วบอกพี่ทำเรื่องให้ได้เลยถ้าน้องจะเอา 120,000 พูดแบบเข้าข้างประกันเหมือนจะรีบอยากให้เราจบ หว่านล้อมมากว่าได้มากสุดก็เท่านี้ทั้งค่ารถค่าทำขวัญค่าเสียเวลาหรือเสียหายขาดผบประโยชน์ใดๆ เราเลยคิดว่าที่จริงน่าจะได้มากกว่านี้ หมายถึงเรียกได้มากกว่านี้ เพราะเราไม่ผิด แล้วก็ไม่ได้มีความจำเป็นจะเปลี่ยนรถหรือซื้อรถตอนนี้จะตีให้แค่ค่ารถ100,000กับค่าขาดผลประโยชน์20,000 แล้วจบกันเลย ส่วนค่าทำขวัญค่าขาดงานหรือใดๆไม่มีพูดถึงเลย อยู่ๆทำไมเราต้องมาดาวรถ 250,0000 ผ่อน6ปี ปีละ 11,000 ทั้งที่5-6ปีเราอยู่แบบไม่มีภาระ มีรถขับสบายไม่ต้องจ่ายอะไร 6ปีกับเงินเกือบล้านเป็นเงินเก็บหรือเอาไปลงทุนอย่างอื่นได้เยอะเลยนะ เลยอยากทราบว่าความจริงแล้วเราต้องได้เท่าไหร่ สามารถเรียกร้องอะไรได้บ้างตามความเหมาะสม เพราะเราจอดอยู่เฉยๆไม่ได้อยากจะเปลี่ยนรถหรือมีภาระระยะยาวเพิ่ม
รบกวนขอคำแนะนำหน่อยค่ะ?