เรื่องผีในแบบฉบับ FurryJit

สวัสดีครับ ผมชื่อนาวัน มีประสบการณ์อันเหลือเชื่อมาเล่าให้ท่านผู้ฟังเพื่อความบันเทิง แต่ขอบอกไว้ก่อนล่วงหน้าว่าเรื่องของผมลงเอยด้วยคำถามมากกว่าคำตอบที่จะมีให้ ถ้าท่านพร้อม และรับได้กับความค้างคาที่จะคงอยู่ในใจ ก็โปรดฟังเรื่องราวของผมก่อนเป็นไร

ย้อนหลังกลับไปตอนนั้น ผมเป็นนักศึกษาภาควิชาเกษตรทำ ปฺโท ใกล้จบ ขาดแต่วิทยานิพนธ์ ซึ่งผมก็เลือกหัวข้อ“พืชพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า” ที่คนทั่วไป หรืออาจจะทั้งหมดไม่ค่อยรู้จัก

หัวข้อผมที่เสนออาจารย์ผ่าน เหมือนท่านจะเมตตาผมเป็นพิเศษ นอกเหนือจากอนุมัติเรื่องวิทยานิพนธ์แล้ว ยังใจดีถามไถ่ว่าจะไปหาข้อมูลที่ไหน

คำตอบตรงๆของผมคือยังไม่ได้หาสถานที่ อาจารย์ผมรื้อแฟ้มที่ยุ่งเหยิงอยู่พักหนึ่ง ก็ส่งกระดาษปึกหนึ่งมาให้ บอกว่าลองไปที่บ้านป่า”หว้าแดง”ดู มีข่าวเล่าลือว่า ยังหลงเหลือสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ให้เห็น หากแต่นักสัตววิทยายังเข้าไม่ถึง

ผมรับมาด้วยความยินดีอย่างล้นพ้น คนเรียนเกษตรต้องศึกษาชีวภาพของสัตว์ด้วย เพราะสัตว์และพืชนั้นสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก

หลังจากวางแผนการเดินทางและทำงานแล้ว ผมก็ไปแจ้งพ่อกับแม่ให้ทราบตามระเบียบ ท่านทั้งสองอวยชัยให้พรและอนุญาตให้ผมเอารถคันหนึ่งในบ้านไปใช้

ก่อนเดินทางสามวัน ผมใช้คอมพิวเตอร์โพสต์ข้อความในบอร์ดกลุ่มมหาวิทยาลัย บอกสถานที่ๆจะไป และเชิญชวนเพื่อนนักศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน หากว่าใครจะร่วมทางไปด้วยก็ยินดี

มีคนตอบรับมาเป็นผู้หญิงใช้ชื่อว่าชมพู่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีใครอีกที่จำนงค์จะไปด้วย ทำให้ผมยุ่งยากใจขึ้นมาระยะทางยาวไกลรวมถึงต้องค้างคืน ตัวผมนั้นไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่คนละเพศต้องอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาหนึ่ง อาจมีบางอย่างที่ไม่สะดวก

ผมส่งข้อความไปเพื่อขอการยืนยัน  เผื่อว่าเธอจะเลิกล้มความตั้งใจนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ ระบุเวลาและสถานที่ซึ่งเธอจะรอผมไปรับ

บางทีผมอาจจะคิดมากและคร่ำครึไปเอง นักศึกษาเกษตรสาวเท่าที่เห็นมีนิสัยลุยๆไม่ถือตัว กินง่ายอยู่ง่าย ร่วมวงกันได้ไม่แยกหญิงหรือชาย

ผมไปตามที่ได้นัดกันไว้  พบว่าเธอเป็นหญิงสาวผอมสูง ผิวสีอะไรบอกไม่ถูก เพราะไม่ขาวและไม่ดำ เปรียบเปรยว่าผิวน้ำผึ้งคงได้

โครงหน้าเธอเล็กมาก คิ้ว ตา จมูก ปาก ที่รับกันพอดีจึงโดดเด่นออกมาเต็มที่ ผมมองค้างอย่างเสียมารยาท ก่อนจะรู้สึกตัวและเชิญเธอขึ้นรถ

ตลอดเส้นทาง ผมไม่รู้อะไรมากไปกว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อชมพู่ และมีความประสงค์จะกลับหมู่บ้าน”หว้าแดง” อันเป็นถิ่นฐานกำเนิดของเธอ

ใช่ว่าจะไม่พูดเลยก็หาไม่ เพราะมีอยู่ตอนหนึ่งเธอถามผมว่า ถ้าเห็นเต่าพันธุ์หายากขึ้นมาวางใข่แล้วกลบบนฝั่ง ผมคงเขียนลงในวิทยานิพนธ์ใช่ไหม

ผมใคุร่ครวญแล้วตอบว่า “ไม่” แม้นว่ามันอาจจะเป็นการค้นพบใหม่ที่ทำให้คะแนนผมดี แต่มันจะนำไปสู่การรบกวนวิถีธรรมชาติของสัตว์ถ้าคนรู้กันมากขึ้น ถึงผมจะไม่ระบุสถานที่ในเนื้อหาก็ตาม ที่สุดคนต้องรู้กันจนได้ เผลอๆใข่เต่าจะถูกคนเอามากินหมด

ชมพู่เงียบไป อ่านความรู้สึกไม่ออกว่าพอใจกับเหตุผลหรือไม่ ตอนนั้นผ่านปั้มน้ำมัน ผมแวะเข้าไปเติม ระหว่างนั้นผมต้องทำธุระส่วนตัวด้วย เพราะยังต้องขับต่ออีกไกล

ผมเห็นเธอนั่งเฉยในรถ จึงเตือนว่ายังต้องไปอีกไกล ถ้าจะใช้ห้องน้ำก็ควรเสียแต่เนิ่นๆ เพราะหลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะได้จอดแวะที่ไหน เอาเข้าจริงๆเธอน่าจะรู้ดีกว่าผม เพราะเป็นบ้านเกิดของเธอ

ชมพู่มองผมด้วยความหมายอย่างหนึ่งที่อ่านไม่ออก ก่อนบอกว่า ถ้ามีใครทักระหว่างใช้ห้องน้ำอย่าตอบทั้งสิ้น ให้ทำตัวเหมือนคนเป็นไบ้

ฟังแล้วงง ผมบอกเธออย่างหนึ่งแต่เธอกลับพูดอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้น ความต้องการใช้ห้องน้ำของผมมีมากเกินกว่าจะสงสัยอะไรต่อ จึงต้องทิ้งคำสนทนาไว้แค่นั้น รีบเดินเข้าไปถ่ายทุกข์ในห้องน้ำ ซึ่งแบ่งเป็นสี่ห้องย่อย

ระหว่างปลดเปลื้อง ผมใช้โทรศัพท์ส่งข้อความหาแม่ ที่ส่งหาแค่คนเดียวเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็ต้องเอาไปบอกพ่ออยู่แล้ว

ใจความที่ส่งบอกว่าหยุดแวะที่ปั้มระหว่างการเดินทาง และทุกอย่างราบรื่นดี ไม่มีอุปสรรคอะไร เพื่อนที่ร่วมทางกันมาก็เรียบง่าย ไม่จุกจิกแต่ประการใด

ผมไม่ได้บอกกับแม่ว่าที่นั่งรถมากับผมหกชั่วโมงนั้นเป็นผู้หญิง เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ นำไปสู่การซักไซ้ไล่เลียงไม่มีที่สิ้นสุด ตามประสาแม่ที่หวงลูกชายคนเดียว

การจะบอกแค่ว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ จุดมุ่งหมายของเราทั้งสองอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ผมแค่ต้องการมีคนนั่งรถเป็นเพื่อน คงไม่ใช่คำอธิบายที่แม่ผมพอใจ สู้ไม่บอกอะไรเลยเสียดีกว่า

ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงคนเข้าห้องน้ำข้างๆ ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเพราะกำลังใกล้จะเสร็จธุระตัวเอง

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงถามว่า จะไปไหนหรือน้องชาย นี่มันเย็นใกล้จะค่ำแล้ว

ผมไม่รู้เขาพูดกับใคร ใช้โทรศัพท์อยู่หรือปล่าวก็ไม่รู้ ถ้าตอบไปก็จะกลายเป็นเสร่อ จึงเงียบเอาดีกว่า ล้างมือถูสบู่แล้วเดินออกไป

เด็กปั้มเอาเงินทอนมาคืน ผมตั้งใจจะทิปเขาเสียหน่อยแต่แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะเงินที่ให้ไปครั้งแรกยังครบทุกบาททุกสตางค์

พี่ผู้หญิงคนนั้นจ่ายให้เรียบร้อยแล้วครับ ให้ทิปผมด้วย เด็กปั้มพูดอย่างนั้น

ผมซื้อขนม อาหารว่างและเครื่องดื่มกลับมาที่รถ ยื่นส่งให้เธอแต่ถูกปฏิเสธ ผมคาดเข็มขัดรถแล้วถามเธอเรื่องค่าน้ำมัน

ผมบอกเธอว่าประกาศหาคนมานั่งเป็นเพื่อนร่วมทางแก้เหงา ไม่ได้หาคนมาหารค่าใช้จ่าย

เธอไม่ตอบคำถามผมในเรื่องนี้ หากแต่เหลือบมองไปยังห้องน้ำชาย ถามว่าผมไม่ได้พูดอะไรกับใครใช่ไหม

ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอพะวงเรื่องนี้นัก อดหันไปมองห้องน้ำตามเธอไม่ได้ ไม่มีใครเดินออกมา ชายคนนั้นใช้ห้องน้ำนานไปแล้ว

ชมพู่พูดเปรยๆขึ้นว่า พร้อมแล้วก็ไปเถอะ คุณเห็นมีรถที่ไหนบ้างมาเติมน้ำมัน

จริงของเธอ ปั้มทางหลวงตอนนี้ไม่มีรถแม้แต่คันเดียว แล้วชายคนที่เข้าห้องน้ำไล่หลังผมมาจากไหน บางทีเป็นคนทำงานในปั้มละมั้ง

ผมขับรถต่อไปในอีกระยะทางหนึ่ง ม่านความมืดโรยตัวลงมาอย่างรวดเร็ว ชมพู่มองบรรยากาศนอกรถแล้วบอกผมว่า

หาที่พักค้างคืนได้แล้ว ขับรถกลางค่ำกลางคืนไม่ดี

การพูดการจาเธอเหมือนกับญาติผู้ใหญ่ผมก็ไม่ปาน ผมอดหัวเราะไม่ได้บอกกับเธอว่า เพิ่งจะโพล้เพล้เอง อย่างไรเสียก็ต้องเข้าตัวเมืองก่อนจะหาโรงแรมได้

แต่ชมพู่ชี้ไปยังถนำ(เพิงไม้ยกพื้นบังแดด) ข้างทางไร่สีทองแห่งหนึ่ง

พักที่นั้นเถอะ

ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมทำตามคำพูดเธอ เลี้ยวรถเข้าฟากทางที่ไม่เกะกะจราจร ผมมองอย่างฉงนใจว่ามันเป็นที่ของใครเราสองคนเข้าไปเป็นการรุกล้ำที่ของเขาหรือเปล่า

แต่ชมพู่บอกกับผมว่า

ที่นี่คือศาลาคนจร เจ้าของที่อุทิศเป็นทานให้ผู้ผ่านทางมาพัก ลองเข้าไปดูสิ ข้างในเพิงมุงจากมีข้าวสาร เกลือ น้ำปลาพริกแห้ง

นี่คือจารีตประเพณีของคนบ้านแถวนี้ คนเดินทางผ่านมา หิวข้าวก็จะหุงหาอาหารกินที่นี่ มีคนใจบุญจะเตรียมข้าวของไว้ให้ แต่ก่อนที่คนเดินทางจะจากไปก็ต้องทิ้งข้าวของไว้ทดแทน

ผมมีข้าวผัดกระเพรา และข้าวแกงเขียวหวาน น้ำพริกกากหมูที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ แต่ทว่าตอนนี้มันเย็นชืดเสียแล้ว

ชมพู่ชี้มือไปยังเตาอิฐมอญ ที่อยู่ข้างๆเพิงแห่งนั้น เธอหาเชื้อไฟและจุดเตาอย่างชำนิชำนาญ อุ่นอาหาร ก่อนจะกินกันเธอตักอย่างละนิดละหน่อยวางใส่ใบไม้ไปวางตรงโคนต้นแห่งหนึ่ง พึมพำภาวนาอะไร

อาหารมื้อค่ำนั้น เอร็ดอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากอิ่มหน่ำแล้ว ผมเอาถุงหมูหยองและปลาแห้งกระป๋องแบบมีแหวนเปิดฝาได้ทิ้งไว้ตามธรรมเนียม เผื่อไว้ให้คนข้างหลังที่มาพักกิน แขวนไว้ที่ฟาก

ไม่รู้ทำไม ตอนจัดที่หลับที่นอนผมมีความรู้สึกเนียมอายเสียเอง ชมพู่เสียอีกนิสัยเด็ดเดี่ยวเธอบอกนอนคือล้มตัวลงพื้นแล้วหลับเลย กรนเบาๆแบบผู้หญิงพอประมาณ

ผมพยายามหลับตา แต่เข้าภวังค์ยากเพราะแปลกสถานที่ คิดโน้นคิดนี้จนสมองล้า เกือบจะเคลิ้มๆไป ก็ได้ยินเสียงหนึ่ง

เป็นเสียงย่ำเท้าบนใบไม้แห้ง สวบสาบรอบๆเพิงคล้ายมีคนเดินหาอะไร ตัวผมซึ่งหลับยากอยู่แล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นทันที  มองทะลุแสงอันเรืองลางในความมืดไปรอบๆอยู่เป็นนาน ก็เห็นร่างตะคุ่มๆดำร่างหนึ่ง

ร่างนั้นขยับมองไปมองมาเหมือนหาอะไรสักอย่าง มีเสียงบ่นพึมพำมาจากลำคอ

เอ หายไปไหนนะ อุตส่าห์ตามมาจากปั้ม

ผมได้ยินแล้วร่างสะท้านขนลุกซู่อย่างไร้สาเหตุ เสียงนั้นบ่งบอกถึงความหงุดหงิดที่หาสิ่งซึ่งตนเองต้องการไม่เจอ

ผมพยายามโงหัวเพ่งมองในท่านอนหงาย ก็เห็นร่างดำทะมึนของชายคนหนึ่ง เดินผ่านไปผ่านมาอย่างงุ่นง่าน ทั้งๆที่มองมาทางผมนอนหลายรอบแล้ว แต่ก็เหมือนว่าเขาไม่เห็นอะไรเลย

เจ้าประคุณ ผมคงตาฝาดเป็นแน่ ท่ามกลางแสงริบหรี่ของเดือนมีนาคมนั้น ผมเห็นมีดสับเนื้อเล่มโต วางจมในลักษณะผ่ากลางกระโหลกเขาพอดิบพอดี

มืออันหอมกรุ่นพุ่งมาอุดปากผมทันที พร้อมเสียงกระซิบผ่านรูหู

อย่าส่งเสียง นาวัน มันตามคุณมา

เป็นเสียงของชมพู่นั่นเอง หล่อนตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ย้ายร่างมาแนบชิดกับผม ไออุ่นของกายสาวเต็มรูจมูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่