ม่อนจองฉบับเร่งด่วน



ทริปนี้เกิดจากความอยากไปม่อนจองอยู่แล้วแต่ไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก
ผมส่งข้อมูลจากเพจหนึ่งให้แฟนดูรายละเอียดการเดินทางไปม่อนจอง
(รูปแฟนเยอะหน่อยนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะมาเขียนลง pantip แต่แรกเลยไม่ค่อยได้ถ่ายวิว แต่ถ้าไม่ถ่ายรูปแฟนก็นึกไม่ออกว่าจะถ่ายรูปใครอยู่ดี หัวเราะ )

เราจะไปพิชิตดอยม่อนจองกัน
"2 อาทิตย์เองเหรอ จะเตรียมตัวยังไงเนี่ย" แฟนถาม
"จองไปแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้ ต้องจัดของรอเลย" ผมตอบ
เราคุยกันสั้นๆ แค่นี้กับสิ่งที่คิดว่าจะต้องทำต่อไปคือหารองเท้า
รองเท้าสำหรับเดินคืออุปกรณ์จำเป็นที่เรายังไม่มี
แค่ไปหาซื้อรองเท้าคนละคู่เราก็พร้อมเดินทาง

ด้วยความที่ไม่มีเวลาเตรียมตัวอย่างที่บอก แฟนผมรู้ล่วงหน้าแค่ 2 อาทิตย์ มีวันว่างแค่วันธรรมดาไม่กี่วัน นอกนั้นติดงาน บังเอิญไปเห็นข้อมูลจากเพจหนึ่งดูรายละเอียดเห็นว่าน่าสนใจ แพ็คเกจไปม่อนจอง 2 คืนบนรถตู้กับอีก  1 คืนบนม่อนจองกับเพื่อนร่วมทริปคนอื่น หน้าที่ของเราคือซื้อแพ็คเกจของทริปนี้แล้วเตรียมตัว ผมดูรายละเอียดอยู่วันกว่าๆ ก็ตัดสินใจจองตั๋วไปม่อนจอง 2 ที่นั่ง

เริ่มต้น
จุดหมายแรกของทริปคือศูนย์อาหารบิ๊กซีสะพานควาย ตามเวลานัดล้อหมุนทุ่มครึ่งรถตู้จะมารับเราที่ลานจอด เรามานั่งรอแบบไม่รู้อะไรเลย แต่ดูจากจากเป้ของหลายๆคนที่อยู่แถวนี้นี่น่าจะเป็นเพื่อนร่วมทริปของเรา

”สวัสดี“ เพื่อนร่วมทริป

ม่อนจองในความคิด 
นี่จะเป็นการไปม่อนจองครั้งแรก เคยเห็นแต่ในรูป เนินเขาที่มีหญ้าเขียวๆเหลืองทองๆ มีร่องทางเดินพาดผ่าน ทิวทัศน์แปลกตากับทุ่งหญ้าเตียนๆ บนนั้น คิดว่าของจริงคงจะสวยเหมือนกัน

เจ็ดโมงเช้าหน้าโรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
หลับๆตื่นๆมาทั้งคืน เช้าแล้วแสงอาทิตย์ส่องตา​ รถตู้จอดให้ลงหน้าโรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม อากาศเย็นสบาย เดินไปเดินมาได้ข้าวเหนียวหมูปิ้งมานั่งกินในศาลาใกล้ตลาด เดินเล่นสักพักกลับขึ้นรถ เราจะเดินทางต่อไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าปางตึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ตรวจเอกสารลงทะเบียนชำระค่าใช้จ่ายกันที่นี่ แต่เราไม่ต้องทำอะไรหัวหน้าทริปจัดการให้หมดแล้ว เรามีหน้าที่แค่ไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันตามแต่จะสะดวก ห้องน้ำที่นี่สะอาดเป็นห้องน้ำใหม่ ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าจัดแจงข้าวของกันนิดหน่อยก็พร้อมที่จะไปต่อ

เจอเจ้าถิ่นต้องผูกมิตรไว้หน่อย


เหมือนจะมีรถตู้ของอีกกลุ่มมาจอด ผมได้ยินเสียงคุ้นคุ้นเหมือนเสียงคนรู้จัก อ้อรถตู้คันนั้นมีเพื่อนผมสองคนเดินทางมาจากชลบุรีเหมารถตู้กันมากับเพื่อนอีกกลุ่ม อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้เจอ มาเจอกันซะไกลเชียว เราต่างดีใจกับความบังเอิญครั้งนี้สุดๆ

หมู่บ้านห้วยปูลิง
รถตู้มาจอดตรงทางแยกเข้าหมู่บ้านห้วยปูลิง ส่งพวกเราขึ้นรถกระบะขนข้าวของไปให้ เราย้ายจากรถตู้ไปนั่งท้ายรถกระบะเพื่อเข้าหมู่บ้าน ด้วยความที่ทางแคบบางจุดรถวิ่งได้คันเดียวแถมถนนมีหลุมบ้างทำให้ต้องหยุดรถสลับกันไป แต่ไม่นานเราก็มาถึงหมู่บ้านห้วยปูลิงจุดที่เราต้องเอาของที่จะฝากลูกหาบไปช่างน้ำหนัก

ที่นี่มีร้านกาแฟ
ใช่ ที่นี่มีร้านกาแฟ ติดกับร้านกาแฟจะมีซุ้มมีตาชั่งกับเจ้าหน้าที่อยู่ตรงนั้นใครที่จะจ้างลูกหาบก็เอาสัมภาระมาชั่งที่นี่ อะไรที่เช่าไว้เค้าก็จะเอาน้ำหนักมารวมกันแล้วก็คิดเงินตรงนี้ จากนั้นก็ไปนั่งกินกาแฟเสพบรรยากาศชิวๆ บรรยากาศดีนะ รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นั่งกินกาแฟในบรรยากาศป่าเขาลำเนาไพร หรือจะเป็นริมแม่น้ำลำธารอะไรถ้าเป็นธรรมชาติมักจะรู้สึกดีเสมอ ครั้งนี้มีเพื่อนๆร่วมทริปที่เพิ่งรู้จักมานั่งคุยกันด้วยทำให้บรรยากาศดีขึ้นไปอีก 2 เท่า

ถึงเวลาออกเดินทางต่อ เรายังต้องนั่งรถกระบะเข้าไปอีก ตรงนี้ยังไม่ใช่จุดที่จะเริ่มเดิน เราออกจากจุดนี้เส้นทางค่อนข้างทุลักทุเลเหมือนกันไม่รู้จะเรียกว่าอะไร เอาเป็นว่าทำแขนขาให้แข็งแรงเข้าไว้ จับเหล็กจับราวให้แน่นแล้วคุณจะได้ไปต่อ

เริ่มเดิน
12.45 น. เป็นการเดินเทรคกิ้งในเส้นทางเล็กๆ ที่น่าตื่นเต้นอยู่เหมือนกันกับข้างบนนั้นที่เคยเห็นแต่ในรูป เอาจริงๆ ไปเที่ยวที่ไหนครั้งแรกผมก็จะรู้สึกประมาณนี้ ตอนนี้รู้สึกดีที่ได้เห็นป่าเห็นต้นไม้ รู้สึกได้ว่าเรากำลังเริ่มกระบวนการธรรมชาติบำบัด

14.10 น.
เส้นทางไม่ยาก เดินไปถ่ายรูปไป ดูต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อยๆ ไม่รีบๆ หยุดดูวิวก่อนก็ได้ หยุดถ่ายรูปกันมั้ย ผมถามแฟนตลอดทาง จริงๆคือเหนื่อยแต่เก็บอาการอยู่ มีหอบเล็กน้อย รวมแล้วใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงจุดกางเตนท์ยอดดอยม่อนจอง 

จุดกางเต็นท์
หลังจากจัดแจงเรื่องที่นอนกางเต็นท์เสร็จบางคนก็เดินไปผาหัวสิงห์เลย แต่ผมยังไม่ไปเพราะคิดว่าน่าจะกลับไม่ทันมืด รอไปเช้าพรุ่งนี้ทีเดียวไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เย็นนี้เลยเดินเล่นพอประมาณเดินไปเรื่อยๆ ก็เกือบจะถึงจุดชมวิวผาหัวสิงห์ แต่เริ่มมืดเพื่อนๆก็เริ่มเดินกลับ ทางข้างหน้าก็ดูจะชันกว่าตรงนี้เยอะ เลยหยุดถ่ายรูปแถวๆนั้นแล้วเดินกลับพร้อมเพื่อนๆ
ห้องอาหารของเราคืนนี้


เรียบร้อยครับ ไปเดินเล่นกัน

มื้อเย็น
มื้อเย็นที่นี่ต้องเตรียมกันมาเอง ผมที่จอยกลุ่มมาก็เลยมีพ่อครัวเตรียมไว้ให้ ถึงเวลาเราก็มานั่งล้อมวงกินมื้อเย็นกัน คืนนี้อากาศหนาวพอควร การได้มานั่งรวมกันใต้ผ้าใบแบบนี้รู้สึกอบอุ่นดี มีเรื่องเล่าจากเพื่อนร่วมทริปให้ฟังหลากหลาย ถือว่าเป็นมื้อเย็นเพลินมาก

ห้องน้ำ
ไม่ไกลจากจุดกางเตนท์มีห้องน้ำอยู่ 2 ห้อง กลางคืนมืดมากทางไปห้องน้ำต้องเดินลงเนินดินที่ทำเป็นขั้นบันได ลื่นนิดหน่อยต้องระวัง ไฟฉายคาดหัวที่เตรียมมาทำหน้าที่อย่างคุ้มค่าตัว ตั้งใจจะไปดูดาวตรงลานสนามกอล์ฟช้างให้โรแมนติกสักหน่อยสุดท้ายได้แค่คิดเพราะอยากนอนมากกว่า กลับเข้าเต็นท์พร้อมบอกตัวเองว่ารีบนอนดีกว่า เก็บแรงไว้เพื่อจะตื่นเช้าไปดูไฮไลท์ที่ผาหัวสิงห์ ฮ่าๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่