ขออนุญาต ตั้งกระทู้ครั้งแรกหลังจากเป็นสมาชิกมานานแสนนาน
เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้เป็นแนวทางหรือแนวคิดต่อไป
และเนื่องจากไม่เคยเขียนกระทู้มาก่อนถ้าใช้คำไม่สุภาพ หรือ ทำให้เข้าใจผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ
เริ่มเลยนะครับ
ตอนเด็กๆ ช่วงประถม ผมเคยมีความคิดที่อยากจะเป็นหมอ
ซึ่งน่าจะมาจากคุณพ่อคุณแม่ที่ค่อยๆปลูกฝังผมทีละนิดว่ามันดีงั้นดีงี้
เนื่องจากผมเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะเรียนดี จึงมีความคิดว่าอาจจะเป็นได้
พอผมเข้ามัธยม ก็เรียนสายวิทย์-คณิต และก็เริ่มเข้าใจว่ามันเริ่มยาก
และผมไม่ถนัดวิชาชีววิทยาเอาซะเลย แต่เข้าใจฟิสิกส์ได้ดีกว่าวิชาอื่นมาก
จนมัธยมปลาย จึงพอจะจับจุดตัวเองได้และสอบ entrance เข้าตามคณะที่ต้องการได้ในที่สุด
ซึ่งนั่นก็คือ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
การเรียนในมหาลัยเรียกว่ายากและปรับตัวไม่ทันในปีแรก ได้เกรด F ครั้งแรกในชีวิต 1 วิชา
จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงและแรงกระตุ้นอย่างมากในการเรียน
ทำให้มีความขยันและตั้งใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนจบได้เกรดเป็นที่น่าพอใจ 3+
พอจบช่วง 1-2 เดือนแรกหางานยากครับ ทั้งๆที่เกรดเราดี สถาบันดี แอบแปลกใจอยู่นิดหน่อย
มาได้งานเดือนที่ 3 หลังจากจบ เนื่องจากลดเพดานตัวเองลง และ สมัครตำแหน่งอื่นๆมากขึ้น
งานแรกที่ได้คือ site engineer ครับ เงินเดือน 15k บริษัทเอกชนไม่ใหญ่ คือสัมภาษณ์ปุ๊บรับเลย
ทำงานหน้างานคุมช่างติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะทางอย่างหนึ่ง เขียนแบบ CAD และเอกสารนิดหน่อย
ผ่านไป 1 ปีขึ้นเงินเดือนเป็น 17k ตำแหน่งเดิม แต่งานเพิ่มขึ้นเพราะเราคล่องแล้ว หน้างานเราจบได้
ปีถัดมา ขึ้นเงินเดือนเป็น 19k ตำแหน่งเดิม แต่เริ่มช่วยแผนกอื่นเยอะมาก ช่วยทั้งเซลล์ ทั้งช่าง ทั้งขนส่ง แถมมีดีลงานใหญ่เยอะ
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าทำงานเกินเงินเดือน ผมจึงเข้าไปคุยกับหัวหน้าแผนกบัญชีก่อน
เค้าแนะนำให้ผมเขียนเอกสารขอขึ้นเงินเดือนตัวเองครับ ซึ่งผมก็เรียบเรียงและเขียนส่งให้หัวหน้าแผนกผม และ หัวหน้าคนอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตัวเลขที่ผมเขียนไป คือ 25k พร้องสาธยายหลายสิ่งที่ผมเจอและควรได้รับ
ผ่านไปไม่กี่วัน ได้รับคำตอบคือ อนุมัติ ครับ และผมก็ทำงานต่อ
และด้วยความที่ผมเป็นคนแก้ปัญหาหน้างานได้ คุยจบกับลูกค้าได้ หัวหน้าเลยให้ผมลองขายงานดูเลยครับ
จึงทำให้ผมทำควบ 2 ตำแหน่ง ขายด้วย ดูหน้างานด้วย
ซึ่งผมดันทำได้ซะด้วย จึงมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นมา
ทำต่อไปอีกปีนึง ปรับเงินเดือนเป็น 27k พร้อมค่าน้ำมันรถ ได้ค่าคอมตกเดือนละ 30k
ปีถัดไปผมกลายเป็น top sales ยอดขายมากที่สุด ปรับเงินเดือน 29k ค่าคอมร่วมแสนต่อเดือน
ผมเริ่มเห็นศักยภาพของตลาด และ เปิดบริษัทตัวเองในที่สุด แต่ยังไม่ได้ขายอะไรกะว่ามีแนวทางทำอะไรต่อถ้าลาออกแล้ว
และจังหวะพอดีเป็นปีที่หัวหน้าผมถูกไล่ออกเนื่องจากทะเลาะกับเจ้าของ ผมเลยลาออกตามๆกันไป ในเวลาไม่กี่เดือน
นี่คือจุดเรื่ม บริษัทผมครับ
บริษัทผมเป็น trading ซื้อมา-ขายไป เกี่ยวกับอุปกรณ์วิศวกรรมหลายๆอย่าง
แรกๆมันก็มีไม่กี่อย่างหลังๆสินค้ามากมายหลักหลายพันชนิด ตามที่ลูกค้าต้องการ
เนื่องจากผมได้สกิลการขาย การคุย และวิธีการเข้าหาลูกค้ามาหมดแล้ว จึงไม่ได้ยากอะไรที่จะหาลูกค้า
ปีแรก (ปีที่เปิดไม่ครบปี) ขายอยู่ 4-5 เดือน ยอดขาย 2 ล้าน ทำคนเดียว ส่งคนเดียว เอกสารคนเดียวหมด
ปีที่ 2 เริ่มรับพนักงานขนส่ง บัญชี ประสานงาน ยอดขาย 20 ล้าน
ปีที่ 3-5 ผมก็ทำแบบเดิมครับ รับคนเพิ่ม ขายไป รับคนไป ค่อยๆขยาย จนมีพนักงาน 10 คน ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึง 50 ล้าน
ปีที่ 6-10 เริ่มเป็นรูปแบบชัดเจน ซื้อตึกใหม่ stock สินค้า รับคนจนมีพนักงาน 25 คน ยอดขายปีล่าสุด 150+ ล้าน
ช่วงปีที่ 6 ผมมีเปิดอีกบริษัทนึงด้วย ขายสินค้าเฉพาะทาง กำไรสูง แต่ยอดขายต่ำ ตกปีละ 5 ล้าน
ปัจจุบัน ผมจัดสรรเวลา 7 วัน คือ
ทำงาน 2 วัน ให้แฟน 1 วัน ตีกอล์ฟ 1 วัน ฟิตเนส 1 วัน
วันหยุดสุดสัปดาห์ พาลูก พ่อ แม่ ไปเที่ยวใกล้ๆ
ถ้าหยุดยาวหรือมีเวลา จะไปไกลหน่อย
ปีนึงเที่ยว 5-6 รอบ ทั้ง ตปท. และ ใน ปท. แบบค้างคืน
แล้วก็วนอยู่แบบนี้ตลอด งานก็ค่อยๆโตไปเรื่อยๆ ตามวิถีของมัน
ปัจจุบันผมมีรายได้ต่อปีประมาณ 3M+ ส่วนตัว
เงินสด 1 ล้าน
หุ้นรวมประมาณ 6 ล้าน
ประกันนู่นนี่ 1 ล้าน
กองทุน 1 ล้าน
บ้านที่ดินประมาณ 20 ล้าน ชำระหมดแล้ว ไม่มีหนี้
และผมอายุ 30 กลางๆ ครับลืมบอก
คำถาม คือ ถ้าเป็นตัวท่านเองจะทำอะไรต่อไปครับ ?
แชร์ประสบการณ์ จากจุดเริ่มต้น - สู่ปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจ กับ คำถามปลายเปิด
เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้เป็นแนวทางหรือแนวคิดต่อไป
และเนื่องจากไม่เคยเขียนกระทู้มาก่อนถ้าใช้คำไม่สุภาพ หรือ ทำให้เข้าใจผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ
เริ่มเลยนะครับ
ตอนเด็กๆ ช่วงประถม ผมเคยมีความคิดที่อยากจะเป็นหมอ
ซึ่งน่าจะมาจากคุณพ่อคุณแม่ที่ค่อยๆปลูกฝังผมทีละนิดว่ามันดีงั้นดีงี้
เนื่องจากผมเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะเรียนดี จึงมีความคิดว่าอาจจะเป็นได้
พอผมเข้ามัธยม ก็เรียนสายวิทย์-คณิต และก็เริ่มเข้าใจว่ามันเริ่มยาก
และผมไม่ถนัดวิชาชีววิทยาเอาซะเลย แต่เข้าใจฟิสิกส์ได้ดีกว่าวิชาอื่นมาก
จนมัธยมปลาย จึงพอจะจับจุดตัวเองได้และสอบ entrance เข้าตามคณะที่ต้องการได้ในที่สุด
ซึ่งนั่นก็คือ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
การเรียนในมหาลัยเรียกว่ายากและปรับตัวไม่ทันในปีแรก ได้เกรด F ครั้งแรกในชีวิต 1 วิชา
จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงและแรงกระตุ้นอย่างมากในการเรียน
ทำให้มีความขยันและตั้งใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนจบได้เกรดเป็นที่น่าพอใจ 3+
พอจบช่วง 1-2 เดือนแรกหางานยากครับ ทั้งๆที่เกรดเราดี สถาบันดี แอบแปลกใจอยู่นิดหน่อย
มาได้งานเดือนที่ 3 หลังจากจบ เนื่องจากลดเพดานตัวเองลง และ สมัครตำแหน่งอื่นๆมากขึ้น
งานแรกที่ได้คือ site engineer ครับ เงินเดือน 15k บริษัทเอกชนไม่ใหญ่ คือสัมภาษณ์ปุ๊บรับเลย
ทำงานหน้างานคุมช่างติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะทางอย่างหนึ่ง เขียนแบบ CAD และเอกสารนิดหน่อย
ผ่านไป 1 ปีขึ้นเงินเดือนเป็น 17k ตำแหน่งเดิม แต่งานเพิ่มขึ้นเพราะเราคล่องแล้ว หน้างานเราจบได้
ปีถัดมา ขึ้นเงินเดือนเป็น 19k ตำแหน่งเดิม แต่เริ่มช่วยแผนกอื่นเยอะมาก ช่วยทั้งเซลล์ ทั้งช่าง ทั้งขนส่ง แถมมีดีลงานใหญ่เยอะ
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าทำงานเกินเงินเดือน ผมจึงเข้าไปคุยกับหัวหน้าแผนกบัญชีก่อน
เค้าแนะนำให้ผมเขียนเอกสารขอขึ้นเงินเดือนตัวเองครับ ซึ่งผมก็เรียบเรียงและเขียนส่งให้หัวหน้าแผนกผม และ หัวหน้าคนอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตัวเลขที่ผมเขียนไป คือ 25k พร้องสาธยายหลายสิ่งที่ผมเจอและควรได้รับ
ผ่านไปไม่กี่วัน ได้รับคำตอบคือ อนุมัติ ครับ และผมก็ทำงานต่อ
และด้วยความที่ผมเป็นคนแก้ปัญหาหน้างานได้ คุยจบกับลูกค้าได้ หัวหน้าเลยให้ผมลองขายงานดูเลยครับ
จึงทำให้ผมทำควบ 2 ตำแหน่ง ขายด้วย ดูหน้างานด้วย
ซึ่งผมดันทำได้ซะด้วย จึงมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นมา
ทำต่อไปอีกปีนึง ปรับเงินเดือนเป็น 27k พร้อมค่าน้ำมันรถ ได้ค่าคอมตกเดือนละ 30k
ปีถัดไปผมกลายเป็น top sales ยอดขายมากที่สุด ปรับเงินเดือน 29k ค่าคอมร่วมแสนต่อเดือน
ผมเริ่มเห็นศักยภาพของตลาด และ เปิดบริษัทตัวเองในที่สุด แต่ยังไม่ได้ขายอะไรกะว่ามีแนวทางทำอะไรต่อถ้าลาออกแล้ว
และจังหวะพอดีเป็นปีที่หัวหน้าผมถูกไล่ออกเนื่องจากทะเลาะกับเจ้าของ ผมเลยลาออกตามๆกันไป ในเวลาไม่กี่เดือน
นี่คือจุดเรื่ม บริษัทผมครับ
บริษัทผมเป็น trading ซื้อมา-ขายไป เกี่ยวกับอุปกรณ์วิศวกรรมหลายๆอย่าง
แรกๆมันก็มีไม่กี่อย่างหลังๆสินค้ามากมายหลักหลายพันชนิด ตามที่ลูกค้าต้องการ
เนื่องจากผมได้สกิลการขาย การคุย และวิธีการเข้าหาลูกค้ามาหมดแล้ว จึงไม่ได้ยากอะไรที่จะหาลูกค้า
ปีแรก (ปีที่เปิดไม่ครบปี) ขายอยู่ 4-5 เดือน ยอดขาย 2 ล้าน ทำคนเดียว ส่งคนเดียว เอกสารคนเดียวหมด
ปีที่ 2 เริ่มรับพนักงานขนส่ง บัญชี ประสานงาน ยอดขาย 20 ล้าน
ปีที่ 3-5 ผมก็ทำแบบเดิมครับ รับคนเพิ่ม ขายไป รับคนไป ค่อยๆขยาย จนมีพนักงาน 10 คน ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึง 50 ล้าน
ปีที่ 6-10 เริ่มเป็นรูปแบบชัดเจน ซื้อตึกใหม่ stock สินค้า รับคนจนมีพนักงาน 25 คน ยอดขายปีล่าสุด 150+ ล้าน
ช่วงปีที่ 6 ผมมีเปิดอีกบริษัทนึงด้วย ขายสินค้าเฉพาะทาง กำไรสูง แต่ยอดขายต่ำ ตกปีละ 5 ล้าน
ปัจจุบัน ผมจัดสรรเวลา 7 วัน คือ
ทำงาน 2 วัน ให้แฟน 1 วัน ตีกอล์ฟ 1 วัน ฟิตเนส 1 วัน
วันหยุดสุดสัปดาห์ พาลูก พ่อ แม่ ไปเที่ยวใกล้ๆ
ถ้าหยุดยาวหรือมีเวลา จะไปไกลหน่อย
ปีนึงเที่ยว 5-6 รอบ ทั้ง ตปท. และ ใน ปท. แบบค้างคืน
แล้วก็วนอยู่แบบนี้ตลอด งานก็ค่อยๆโตไปเรื่อยๆ ตามวิถีของมัน
ปัจจุบันผมมีรายได้ต่อปีประมาณ 3M+ ส่วนตัว
เงินสด 1 ล้าน
หุ้นรวมประมาณ 6 ล้าน
ประกันนู่นนี่ 1 ล้าน
กองทุน 1 ล้าน
บ้านที่ดินประมาณ 20 ล้าน ชำระหมดแล้ว ไม่มีหนี้
และผมอายุ 30 กลางๆ ครับลืมบอก
คำถาม คือ ถ้าเป็นตัวท่านเองจะทำอะไรต่อไปครับ ?