สินค้าอะไรในดีในปี พ.ศ.2566

TOP 10 อันดับสินค้าออนไลน์ขายดี ยุคหลังโควิด

10.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากอยู่แล้ว แถมยังทวีความจำเป็นมากขึ้นไปทุกที โดยเฉพาะในยุคที่การสื่อสารและการทำงานส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี อีกทั้งหลายคนเปลี่ยนอาชีพและสายงานมาทำงานในบ้านแบบ Work from Home กันมากขึ้น แม้หลังจากเปิดเมืองไปแล้ว แต่บางสายงานก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบนี้แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือการใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงานอย่างหนัก เช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น อาทิ หูฟัง ไมค์ กล้อง ขาตั้งกล้อง แป้นคีย์บอร์ด อุปกรณ์เราเตอร์ ปากกา เม้าส์ และอื่นๆ 

9.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
กลุ่มของอาหารเสริมมักเป็นสินค้าหลักของกลุ่มการตลาดเครือข่าย ซึ่งในเวลานี้ได้รับความสำคัญและใส่ใจมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องโควิด ซึ่งอาหารเสริมที่ได้รับความนิยม เช่น วิตามินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น A B C D โดยเฉพาะ C ที่ช่วยเรื่องเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย 

8.เครื่องสำอาง สกินแคร์  
หนึ่งในสินค้ากลุ่มขายดีเกินคาด เพราะถึงแม้ว่าผู้หญิงทั้งหลายอาจจะไม่ได้ออกไปนอกบ้านในช่วงกักตัวก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าในเวลาที่มีการประชุมออนไลน์หรือใช้ซูม วีดีโอคอล คุณจะเอาหน้าสดมาใช้ไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นถึงแม้ว่าจะแต่งหน้าเพื่อประชุมกับเจ้านายหรือลูกค้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็จำเป็น
สินค้าที่นิยมในกลุ่มนี้ เช่น อายไลน์เนอร์ รองพื้น คลีนซิ่ง เครื่องสำอางต่างๆ 

7.อาหารแห้ง เครื่องดื่ม ขนม
สาเหตุหนึ่งอาจเพราะในช่วงกักตัวจากโควิด รวมถึงการที่โรงเรียนปรับตัวมาเป็นสอนออนไลน์มากขึ้น แม้ว่าตอนนี้จะเปิดเมืองแล้วก็ตาม แต่หลายโรงเรียนที่พบคลัสเตอร์ก็ยังต้องเปลี่ยนสอนออนไลน์กันอยู่ ดังนั้นเด็กจึงต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น และส่งผลต่อการซื้อหาอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ของจุกจิก สำหรับเด็ก (และผู้ใหญ่หลายคน) มากขึ้นด้วย 
ที่สำคัญคือการกดสั่งก็ทำได้สะดวก แค่สั่งผ่านแอปของ 7-eleven ที่อยู่ใกล้บ้านก็จัดส่งแล้ว นี่ยังไม่นับการสั่งทาง Lazada Shopee ที่มีการทำโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันกันอีก บางรายลดราคา 30% ขึ้นไป หรือซื้อ 1 แถม 2 เป็นต้น
 
6.อุปกรณ์ทำความสะอาด
เพราะคนระวังกันเรื่องความสะอาดในครัวเรือนและในร้านค้าของตนกันมากขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องที่หลายแบรนด์เริ่มทำโปรโมชั่น ซื้อเป็นแพ็กเก็จ หรือส่วนลดจำนวนมาก เช่น กลุ่มของ ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า กระดาษทิชชู และอื่นๆ

5.สินค้าอุปโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
แน่นอนว่าสินค้ากลุ่มอุปโภค ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วหมดไปแต่ละวัน สัปดาห์ หรือเดือน ยังคงจำเป็นต่อชีวิตของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ แชมพู ผ้าอนามัย และอื่นๆ 
 
4.ของสำหรับเด็ก
ตัวอย่างเช่น ของเล่นเด็ก เกม และของสำหรับเด็กเล็กเช่น ผ้าอ้อมเด็ก นม และอื่นๆ

3.อุปกรณ์ทำอาหาร
คนอยู่บ้านกันมากขึ้น การทำอาหารทานสำหรับครอบครัวจึงช่วยประหยัดสำหรับหลายครอบครัว อย่างน้อยก็ในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้สินค้ากลุ่มที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ทำอาหารและวัตถุดิบมีการสั่งซื้อมากขึ้น ไม่ว่าจะไปซื้อกันในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือสั่งทางออนไลน์ 

2.ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันโควิด
ในเมื่อเป็นยุคที่ผู้คนหวาดระแวงจากการติดเชื้อโควิด จึงทำให้สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันโควิดและที่เกี่ยวกับการดูแลความสะอาดในสถานที่และส่วนบุคคลมียอดขายพุ่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในหลายประเทศทั่วโลก ในไทยก็เช่นกัน 
เช่น แอลกอฮอล์ทั้งแบบขวดใหญ่ ที่ฉีดขนาดเล็ก หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ที่วัดไข้ และอื่นๆ
แต่หลังจากสถานการณ์เบาลง ยอดขายก็เริ่มลดลงบ้าง ถึงอย่างนั้นก็คาดว่าสินค้ากลุ่มนี้จะยังมีความต้องการอยู่ในอีกระดับหนึ่ง เพียงแต่กราฟจะเป็นขาลงมาเรื่อยๆ และน่าจะหาซื้อง่ายขึ้น รวมถึงราคาถูกลงด้วย

1.สมุนไพรไทย
เนื่องจากข้อมูลที่นำเสนอกันว่า สมุนไพรไทยบางตัวสามารถช่วยลดอาการของโควิดได้ และถูกนำมาใช้สำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะแคปซูลฟ้าทะลายโจร ของอภัยภูเบศร์ ที่มียอดขายสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้สมุนไพรไทยอื่นๆก็ได้รับความสนใจไปด้วย 
 
นี่อาจเป็นแค่ไอเดียอย่างหนึ่งสำหรับคนที่อยากจะขายสินค้าออนไลน์ในยุคโควิด และหลังจากนี้ไป แต่ที่จริงแล้วยังมีสินค้าบางประเภทที่อาจจะไม่ได้เป็นกลุ่มขายจำนวนมาก แต่มีมูลค่าสูงต่อหน่วย และอาจทำกำไรให้เราได้ หากขายได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้าลำลอง และอื่นๆ ที่เราอาจพบว่ามันจะกลายเป็นธุรกิจขึ้นมาได้ครับ

เทรนด์สินค้าขายดีปี 2023 
1. สินค้าขายดี เสื้อผ้าแฟชั่น ...
2. สินค้าขายดี เครื่องสำอาง ความงาม ...
3. สินค้าขายดี อุปกรณ์กีฬา ฟิตเนส ...
4. สินค้าขายดี อุปกรณ์โทรศัพท์ it gadget. ...
5. สินค้าขายดี อุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์

10 สินค้าขายดี ไม่มีวันตกเทรนด์ และกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร?
ประเภทที่ 1 อาหารและขนมโฮมเมด
ประเภทที่ 2 เครื่องใช้ในบ้าน
ประเภทที่ 3 ของสะสม และของวินเทจ
ประเภทที่ 4 ยีนส์
ประเภทที่ 5 ต้นไม้ เมล็ดพันธ์ุ และอุปกรณ์เสริม
ประเภทที่ 6 สินค้าไอที/อุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์
ประเภทที่ 7 งานแฮนด์เมด
ประเภทที่ 8 สินค้าประดับยนต์
ประเภทที่ 9 สินค้ามือสอง
ประเภทที่ 10 ประกันสุขภาพ/ประกันชีวิต
Credit : https://thewisdom.co/content/best-selling-products-of-all-time/

สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย เมื่อเรียงลำดับตามมูลค่า มีดังนี้
 1. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 180,369.7 ล้านบาท คิดเป็น 10.6 เปอร์เซ็นต์
          2. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 130,652. ล้านบาท คิดเป็น 7.7 เปอร์เซ็นต์
          3. น้ำมันสำเร็จรูป 89,127.7 ล้านบาท คิดเป็น 5.2 เปอร์เซ็นต์
          4. ยางพารา 71831.7 ล้านบาท คิดเป็น 4.2 เปอร์เซ็นต์
          5. เม็ดพลาสติก 69,751.5 ล้านบาท คิดเป็น 4.1 เปอร์เซ็นต์
          6. เคมีภัณฑ์ 69,613.9 ล้านบาท คิดเป็น 4.1 เปอร์เซ็นต์
          7. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 67,747.1 ล้านบาท คิดเป็น 4.0 เปอร์เซ็นต์
          8. ผลิตภัณฑ์ยาง 64,400.4 ล้านบาท  คิดเป็น 3.8 เปอร์เซ็นต์
          9. อัญมณีและเครื่องประดับ 58,097.0 ล้านบาท คิดเป็น 3.4 เปอร์เซ็นต์
          10. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล 51,235.2 ล้านบาท คิดเป็น 3.0 เปอร์เซ็นต์


10 อันดับ สินค้าเกษตรกรรม ประเภทกสิกรรม ปศุสัตว์ และประมง เรียงลำดับตามมูลค่าการส่งออก ดังนี้

   1. ยางพารา 71,831.7 ล้านบาท คิดเป็น 42.9
          2. ข้าว 33,164.6 ล้านบาท คิดเป็น 19.7 เปอร์เซ็นต์
          3. ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 25,549.8 ล้านบาท คิดเป็น 15.2 เปอร์เซ็นต์
          4. ไก่แปรรูป 14,620.1 ล้านบาท คิดเป็น 8.7เปอร์เซ็นต์
          5. กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง 7,152.5 ล้านบาท คิดเป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์
          6. ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 6,436.8 ล้านบาท  คิดเป็น 3.9เปอร์เซ็นต์
          7. ปลาหมึกสด แช่เย็น แช่แข็ง 2,708.1 ล้านบาท คิดเป็น 1.6 เปอร์เซ็นต์
          8. เนื้อปลาสด แช่เย็น แช่แข็ง 2,330.4 ล้านบาท คิดเป็น 1.4 เปอร์เซ็นต์
          9. เนื้อและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ 2,204.6 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เปอร์เซ็นต์
          10. ผักสด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 1,787.0 1.3 ล้านบาท คิดเป็น 1.1 เปอร์เซ็นต์


10 อันดับ สินค้าแร่และเชื้อเพลิง เรียงลําดับตามมูลค่าการส่งออก ดังนี้
1. น้ำมันสำเร็จรูป 89,127.7 ล้านบาท คิดเป็น 87.8 เปอร์เซ็นต์
          2. น้ำมันดิบ 10,749.4 ล้านบาท คิดเป็น 1.6 เปอร์เซ็นต์
          3. แร่ยิปซัม 1,435.0 ล้านบาท คิดเป็น 1.5 เปอร์เซ็นต์
          4. เฟลค์สปาร์ 114.4 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          5. ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 60.9 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          6. แบไรท์ 51.0 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          7. ฟลูออร์สปาร์ 29.9 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          8. สเตอร์รีไรท์ 17.5 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          9. ดีบุก 2.1 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์
          10. สังกะสี 1.3 ล้านบาท ไม่ได้ระบุสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์


10 อันดับสินค้าอุตสาหกรรม เรียงลำดับตามมูลค่าการส่งออก ดังนี้
          1. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 180,369.7 ล้านบาท คิดเป็น 23.1 เปอร์เซ็นต์
          2. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 130,652.0 ล้านบาท คิดเป็น 16.9 เปอร์เซ็นต์
          3. เม็ดพลาสติก 69,751.5 ล้านบาท คิดเป็น 8.9 เปอร์เซ็นต์
          4. เคมีภัณฑ์ 69,613.9 ล้านบาท คิดเป็น 8.9 เปอร์เซ็นต์
          5. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 67,747.1 ล้านบาท คิดเป็น 8.8 เปอร์เซ็นต์
          6. ผลิตภัณฑ์ยาง 64,400.4 ล้านบาท คิดเป็น 8.3 เปอร์เซ็นต์
          7. อัญมณีและเครื่องประดับ 58,097.0 ล้านบาท คิดเป็น 7.4 เปอร์เซ็นต์
          8. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล 51,235.2 ล้านบาท คิดเป็น 6.6 เปอร์เซ็นต์
          9. แผงวงจรไฟฟ้า 48,448.3 ล้านบาท คิดเป็น 6.3 เปอร์เซ็นต์
          10. เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 37,562.3 ล้านบาท คิดเป็น 4.8 เปอร์เซ็นต์

 
10 อันดับสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เรียงลําดับตามมูลค่าการส่งออก ดังนี้
  1. อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 36,367.4  ล้านบาท คิดเป็น 32.7
          2. น้ำตาลทราย 22,014.7 ล้านบาท คิดเป็น 19.8
          3. ผลไม้กระป๋องและแปรรูป 11,399.9 ล้านบาท คิดเป็น 10.2
          4. เครื่องดื่ม 10,200.9 ล้านบาท คิดเป็น 9.2 เปอร์เซ็นต์
          5. อาหารสัตว์เลี้ยง 8,521.9 ล้านบาท คิดเป็น 7.6 เปอร์เซ็นต์
          6. ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ 8,150.0 ล้านบาท คิดเป็น 7.4 เปอร์เซ็นต์
          7. ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ 6,149.2 ล้านบาท คิดเป็น 5.5 เปอร์เซ็นต์
          8. สิ่งปรุงรสอาหาร 3,873.8 ล้านบาท คิดเป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์
          9. ผักกระป๋อง แปรรูป 2,299.6 ล้านบาท คิดเป็น 2.1 เปอร์เซ็นต์
          10. เนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ 2,298.0 ล้านบาท คิดเป็น 2.1 เปอร์เซ็นต์

Credit : thaipurchasing.com/article/ทั่วไป/สาระน่ารู้/News-สาระน่ารู้-10-อันดับสินค้าส่งออกของไทย


Credit : https://dataservices.mof.go.th/menu28?id=6
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่