เบล-ณัฐสิมา นักธุรกิจสาวเซเลบ ลูกอดีตบิ๊กทหาร ขอโทษเซลฟี่บนถนนจนถูกวิจารณ์สนั่น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8064921
แบรนด์เสื้อผ้าขอน้อมรับผิดและขออภัย พร้อมแก้ไข เบล-ณัฐสิมา นักธุรกิจสาวเซเลบ ลูกอดีตบิ๊กทหาร ขอโทษเซลฟี่บนถนนจนถูกวิจารณ์สนั่น
จากกรณีเพจดังโพสต์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินถือไม้เซลฟี่ ถ่ายคลิปอยู่บนถนนที่มีรถขับผ่านไปมา ขณะกำลังเดินอยู่บนถนนที่มีรถสัญจรไปมา โดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวว่าจะโดนรถชนแต่อย่างใด
คลิปนี้เป็นคลิปของแบรนด์เสื้อผ้าหนึ่ง เจ้าตัวได้เป็นคนโพสต์ลงโซเชียลเอง และยังตอบคอมเมนต์คนอื่นว่า “เดินๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
ทำให้โลกโซเชียลวิจารณ์สนั่น โดยพบว่าสาวในคลิป คือ เซเลบลูกสาวบิ๊กทหาร เจ้าของธุรกิจความงามหลายอย่าง
ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค. 67
เบล ณัฐสิมา ศิริสุนทร ผู้ปรากฏในคลิป ได้ออกมาแชร์โพสต์จากแบรนด์เสื้อผ้าที่เจ้าตัวร่วมงานด้วยลงในไอจีสตอรี่ ซึ่งแถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า
“
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ คุณเบล ณัฐสิมา ศิริสุนทร ในฐานะผู้แสดงแบบ คลิปดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสื่อประชาสัมพันธ์ที่ทางแบรนด์ผลิตขึ้น
ทางแบรนด์ขอน้อมรับผิด และขออภัยผู้เกี่ยวข้องทุกท่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมจะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ด้วยความเคารพอย่างสูง ”
เบล ณัฐสิมา ยังได้โพสต์ข้อความขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นลงในไอจีสตอรี่ ระบุว่า
“
จากกรณีคลิปวิดีโอที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญแบรนด์เสื้อผ้า และคอมเมนต์ที่เบลได้โพสต์ไป
เบลขอโทษกับทุกสิ่งที่กระทำโดยไม่ได้ไตร่ตรองและพิจารณาให้ดีก่อน และรับรู้แล้วว่าการกระทำนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับคนอื่นๆ ได้
เบลขอบคุณทุกคนสำหรับคำแนะนำและตักเตือน เบลจะนำเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียนและปรับปรุง ขอโทษจากใจจริง ๆ ค่ะ”
วิโรจน์ ส่งพิจารณ์ ร่วมกก.ซื้อเรือดำน้ำ แจ้งสุทิน เรื่องนี้จะคลี่คลาย กองทัพต้องร่วมมือ ให้ข้อมูล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4390713
วิโรจน์ ส่งพิจารณ์ไปแทน ร่วมกก.ซื้อเรือดำน้ำ แจ้งสุทิน เรื่องนี้จะคลี่คลายได้ กองทัพต้องร่วมมือ ให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน X แสดงความคิดเห็นกรณีที่นาย
สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชิญเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการศึกษา เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า
เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการคลี่คลาย และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเปิดเผยต่อสาธารณะ
ในฐานะประธานกมธ.การทหาร การเข้าไปร่วมเป็น คณะกรรมการโดยตรง อาจจะขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งไม่เหมาะสมนัก ตนจึงตัดสินใจมอบหมายให้ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ที่ปรึกษา กมธ.ทหาร เข้าไปเป็นคณะกรรมการแทน
และ กมธ.ทหาร จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด อย่างแน่นอน โดยจะวางกำหนดการให้ นายพิจารณ์ ในฐานะผู้แทน ประธานกมธ.ทหาร มารายงานให้ กมธ.ทหาร รับทราบเป็นระยะๆ
ในกรณีที่พบเหตุไม่สมเหตุสมผล กมธ.ทหาร จะทำความเห็นแจ้งต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนได้แจ้งให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบก็คือ การที่จะทำให้ประเด็นเรือดำน้ำคลี่คลาย ก็คือ การให้ความร่วมมือกับ กมธ.ทหาร เพราะที่ผ่านมา กมธ.ทหาร ขอข้อมูลอะไรไป มักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพ และ กระทรวงกลาโหม
แม้ว่าจะทวงถามถึง 2-3 ครั้ง ก็ตาม ก็ยังไม่มีการตอบรับกลับมา ”
https://twitter.com/wirojlak/status/1749730092094566696
“ยุทธพร”ไร้ปัญหา พท.ชงประชามติแก้รธน. 2 ครั้งต่างคกก.รัฐบาล
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_668039/
นักวิชาการ มองไม่มีปัญหา เพื่อไทยชงประชามติ 2 ครั้ง ต่างจาก คกก.ชุดของรัฐบาลสรุป ชี้มาจาการตีความคำวินิจฉัยศาล รธน. 4/2564 มองเป็นสีสันประชาธิปไตย
รศ.ดร.
ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และเป็นหนุ่งในคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลแต่ตั้ง เปิดเผยกับสำนักข่าว INN กรณี สส.พรรคเพื่อไทยกว่า 120 คนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อรัฐสภา และมีความเห็นว่าควรทำประชามติ แค่ 2 ครั้ง ซึ่งแต่กต่างจากข้อสรุปของ คกก.ที่รัฐบาลตั้งขึ้นว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ สามารถเสนอได้หลายช่องทาง ผ่านคณะรัฐมนตรี ไปสภาก็ได้ ส.ส. 1 ใน 5 เข้าชื่อเสนอ ก็ได้ หรือประชาชน 5 หมื่นรายชื่อ เสนอก็ได้ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ไม่ตรงกับที่ คกก.ของรัฐบาลสรุป ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเกิดจากการตีความคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ซึ่งสามารถตีความแตกต่างกันได้
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.
ยุทธพร กล่าวด้วยว่า การเสนอที่แตกต่างกัน ระหว่างรัฐบาล และแกนนำพรรครัฐบาล ก็ไม่มีปัญหา ถือเป็นสีสันทางการเมือง สีสันของประชาธิปไตยมากกว่า เพราะทุกๆ ช่องทาง มีปลายทางเดียวกันคือรัฐสภา ส่วนข้อกังวลการแก้ มาตรา 256 ซึ่งกำหนดต้องได้เสียง สว.ในวาระแรก 1 ใน 3 ก็ไม่น่ากังวล เพราะสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้ง สว.ชุดปัจจุบันก็อาจหมดวาระไปแล้ว อาจเป็น สว.ชุดใหม่ ซึ่งมีที่มาและจำนวนแตกต่างจากเดิม เป็นผู้ลงมติ รวมถึงประเด็นการยื่นศาลรับธรรมนูญตีความ ก็ต้องผ่านวาระ 1 ไปก่อนถึงจะทำได้ และต้องเป็นสมาชิกรัฐสภา จึงมองว่าไม่น่าเป็นปัญหา
JJNY : ลูกอดีตบิ๊กทหาร ขอโทษเซลฟี่บนถนน│วิโรจน์ ส่งพิจารณ์ ร่วมกก.│“ยุทธพร”ไร้ปัญหา พท.│เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อนลงทะเล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8064921
แบรนด์เสื้อผ้าขอน้อมรับผิดและขออภัย พร้อมแก้ไข เบล-ณัฐสิมา นักธุรกิจสาวเซเลบ ลูกอดีตบิ๊กทหาร ขอโทษเซลฟี่บนถนนจนถูกวิจารณ์สนั่น
จากกรณีเพจดังโพสต์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินถือไม้เซลฟี่ ถ่ายคลิปอยู่บนถนนที่มีรถขับผ่านไปมา ขณะกำลังเดินอยู่บนถนนที่มีรถสัญจรไปมา โดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวว่าจะโดนรถชนแต่อย่างใด
คลิปนี้เป็นคลิปของแบรนด์เสื้อผ้าหนึ่ง เจ้าตัวได้เป็นคนโพสต์ลงโซเชียลเอง และยังตอบคอมเมนต์คนอื่นว่า “เดินๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
ทำให้โลกโซเชียลวิจารณ์สนั่น โดยพบว่าสาวในคลิป คือ เซเลบลูกสาวบิ๊กทหาร เจ้าของธุรกิจความงามหลายอย่าง
ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค. 67 เบล ณัฐสิมา ศิริสุนทร ผู้ปรากฏในคลิป ได้ออกมาแชร์โพสต์จากแบรนด์เสื้อผ้าที่เจ้าตัวร่วมงานด้วยลงในไอจีสตอรี่ ซึ่งแถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า
“สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ คุณเบล ณัฐสิมา ศิริสุนทร ในฐานะผู้แสดงแบบ คลิปดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสื่อประชาสัมพันธ์ที่ทางแบรนด์ผลิตขึ้น
ทางแบรนด์ขอน้อมรับผิด และขออภัยผู้เกี่ยวข้องทุกท่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมจะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ด้วยความเคารพอย่างสูง ”
เบล ณัฐสิมา ยังได้โพสต์ข้อความขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นลงในไอจีสตอรี่ ระบุว่า
“จากกรณีคลิปวิดีโอที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญแบรนด์เสื้อผ้า และคอมเมนต์ที่เบลได้โพสต์ไป
เบลขอโทษกับทุกสิ่งที่กระทำโดยไม่ได้ไตร่ตรองและพิจารณาให้ดีก่อน และรับรู้แล้วว่าการกระทำนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับคนอื่นๆ ได้
เบลขอบคุณทุกคนสำหรับคำแนะนำและตักเตือน เบลจะนำเหตุการณ์นี้ไปเป็นบทเรียนและปรับปรุง ขอโทษจากใจจริง ๆ ค่ะ”
วิโรจน์ ส่งพิจารณ์ ร่วมกก.ซื้อเรือดำน้ำ แจ้งสุทิน เรื่องนี้จะคลี่คลาย กองทัพต้องร่วมมือ ให้ข้อมูล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4390713
วิโรจน์ ส่งพิจารณ์ไปแทน ร่วมกก.ซื้อเรือดำน้ำ แจ้งสุทิน เรื่องนี้จะคลี่คลายได้ กองทัพต้องร่วมมือ ให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน X แสดงความคิดเห็นกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชิญเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการศึกษา เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า
เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการคลี่คลาย และมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเปิดเผยต่อสาธารณะ
ในฐานะประธานกมธ.การทหาร การเข้าไปร่วมเป็น คณะกรรมการโดยตรง อาจจะขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งไม่เหมาะสมนัก ตนจึงตัดสินใจมอบหมายให้ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ที่ปรึกษา กมธ.ทหาร เข้าไปเป็นคณะกรรมการแทน
และ กมธ.ทหาร จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด อย่างแน่นอน โดยจะวางกำหนดการให้ นายพิจารณ์ ในฐานะผู้แทน ประธานกมธ.ทหาร มารายงานให้ กมธ.ทหาร รับทราบเป็นระยะๆ
ในกรณีที่พบเหตุไม่สมเหตุสมผล กมธ.ทหาร จะทำความเห็นแจ้งต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนได้แจ้งให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบก็คือ การที่จะทำให้ประเด็นเรือดำน้ำคลี่คลาย ก็คือ การให้ความร่วมมือกับ กมธ.ทหาร เพราะที่ผ่านมา กมธ.ทหาร ขอข้อมูลอะไรไป มักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพ และ กระทรวงกลาโหม
แม้ว่าจะทวงถามถึง 2-3 ครั้ง ก็ตาม ก็ยังไม่มีการตอบรับกลับมา ”
https://twitter.com/wirojlak/status/1749730092094566696
“ยุทธพร”ไร้ปัญหา พท.ชงประชามติแก้รธน. 2 ครั้งต่างคกก.รัฐบาล
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_668039/
นักวิชาการ มองไม่มีปัญหา เพื่อไทยชงประชามติ 2 ครั้ง ต่างจาก คกก.ชุดของรัฐบาลสรุป ชี้มาจาการตีความคำวินิจฉัยศาล รธน. 4/2564 มองเป็นสีสันประชาธิปไตย
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และเป็นหนุ่งในคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลแต่ตั้ง เปิดเผยกับสำนักข่าว INN กรณี สส.พรรคเพื่อไทยกว่า 120 คนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อรัฐสภา และมีความเห็นว่าควรทำประชามติ แค่ 2 ครั้ง ซึ่งแต่กต่างจากข้อสรุปของ คกก.ที่รัฐบาลตั้งขึ้นว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ สามารถเสนอได้หลายช่องทาง ผ่านคณะรัฐมนตรี ไปสภาก็ได้ ส.ส. 1 ใน 5 เข้าชื่อเสนอ ก็ได้ หรือประชาชน 5 หมื่นรายชื่อ เสนอก็ได้ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ไม่ตรงกับที่ คกก.ของรัฐบาลสรุป ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเกิดจากการตีความคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ซึ่งสามารถตีความแตกต่างกันได้
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวด้วยว่า การเสนอที่แตกต่างกัน ระหว่างรัฐบาล และแกนนำพรรครัฐบาล ก็ไม่มีปัญหา ถือเป็นสีสันทางการเมือง สีสันของประชาธิปไตยมากกว่า เพราะทุกๆ ช่องทาง มีปลายทางเดียวกันคือรัฐสภา ส่วนข้อกังวลการแก้ มาตรา 256 ซึ่งกำหนดต้องได้เสียง สว.ในวาระแรก 1 ใน 3 ก็ไม่น่ากังวล เพราะสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้ง สว.ชุดปัจจุบันก็อาจหมดวาระไปแล้ว อาจเป็น สว.ชุดใหม่ ซึ่งมีที่มาและจำนวนแตกต่างจากเดิม เป็นผู้ลงมติ รวมถึงประเด็นการยื่นศาลรับธรรมนูญตีความ ก็ต้องผ่านวาระ 1 ไปก่อนถึงจะทำได้ และต้องเป็นสมาชิกรัฐสภา จึงมองว่าไม่น่าเป็นปัญหา