ไม่อยากดูแลมีภาระเพิ่ม

เราแต่งงานกันแล้ว แต่สลับกันอยู่บ้านเเฟนบ้านตัวเองแต่ละสัปดาห์ โดนส่วนตัวเป็นคนที่กินข้าวยาก ตอนอยู่กับเพื่อน เพื่อนชอบแกล้งงว่าขี้ก็ไม่กินต่อเเล้ว ไม่ชอบการดูแลลคนป่วยเช็ดปัสสาวะอุจาระก็เป็นคนที่ทำไม่ได้เคยมีเหตุการณ์จำเป็นต้องดูแลลปู่ที่ป่วยถึงกับน้ำหนักลดกินได้เเต่น้ำ เพราะอยู่รพยังต้องเจอกับเสียงภาพดูดน้ำลายหรือเสมหะ เมื่อมาอยู่บ้านเเฟน แฟนนมีพี่สาวที่พิการจากอุบัติเหตุตั้งเเต่เด็กไม่สามรถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องคอยอาบน้ำป้อนข้าวให้ ซึ่งบ้านแฟนนถ้าจะกินต้องกินในห้องครัวเท่านั้น พี่สาวของแฟนนจะอาบน้ำกินข้าวในห้องครัวหลังบ้าน เราต้องเจอกับแพมเพิสที่ส่งกลิ่นกับบางครั้งตั้งไว้ที่ใต้โต๊ะไม่เอาไปทิ้ง หรือเหตุการณ์นั่งกินข้าวร่วมวงพี่สาวของเขาเล่นน้ำลาย พี่สาวของเขาเปรียบเหมือนเด็กอายุราว 2ขวบ
ก่อนจะแต่งงานนแม่ของเราถามแน่ใจว่าเลือกเขา เขามีพี่สาวที่ดูแลลตัวเองไม่ได้ เพราะเรารักเขาคบกันมา5ปี เขาดีกับเราทุกอย่างตามใจไม่เคยพูดคำหยาบ เลยมองข้ามพี่สาวของเขาไป เรื่องที่เรากังวลตอนนี้คือ ไม่เกินปีเราจะย้ายมาอยู่บ้านของเราเองแม่เรายกบ้านให้เรา แต่แฟนจะเอาพี่สาวมาอยู่ด้วยให้เราทำหน้าที่คอยป้อนข้าวดูแลพี่สาวเขาซึ่งบ้านของเขาก็มีพ่อแม่ที่ยังแข็งแรงหนุ่มสาวอีก ซึ่งเราทำไม่ไหวพี่สาวของเขาตัวใหญ่กว่าเรา บวกกับเรื่องเช็ดขี้เช็ดเหยี่ยวเราทำไม่ได้อยู่แล้ว เราเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกับเรามีลูกเราก็อยากมีแต่ติดกับต้องมาดูแลลพี่สาวแฟนน เลยทำให้เรารู้สึกอยากใช้ชีวิตคนเดียวพ่อ
อกับแม่เราเลี้ยงเรามาก็ไม่ถือว่าสบายมาก เราต้องช่วยพ่อแม่ทำงานปกติ แต่เขาจะมีเงินให้ใช้คอยพาไปกินอาหารดีๆพาไปเที่ยวต่างจังหวัด เลยมีความรู้สึกว่าเรารักเขาแต่ต้องมาทนลำบากมีภาระเพิ่ม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ก่อนรับปากหมด หลังให้ทำก็ต้องทำหาว่าไม่มีน้ำใจ

ในเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องทนให้ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่