ข้อดี VS ข้อเสีย วิ่งขณะท้องว่าง



การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัยและทุกระดับความฟิต หลายคนเชื่อว่าการวิ่งขณะท้องว่างจะช่วยให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้นและลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น จริงหรือไม่ แล้วการวิ่งขณะท้องว่างมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

ข้อดีของการวิ่งขณะท้องว่าง

1. ช่วยลดอาการปวดท้อง เนื่องจากเมื่อท้องว่าง กระเพาะอาหารและลำไส้จะมีพื้นที่ว่างมากขึ้น จึงทำให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้นและลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ จึงช่วยลดอาการปวดท้องได้ 

2. ช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ เมื่อท้องว่าง ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันมาใช้แทนพลังงานจากอาหาร จึงทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น 

3. ช่วยพัฒนาความอดทน การวิ่งขณะท้องว่างจะช่วยให้ร่างกายทนต่อความหิวและความเหนื่อยล้าได้ดีขึ้น

ข้อเสียของการวิ่งขณะท้องว่าง

1. ทำให้ประสิทธิภาพในการวิ่งลดลง เนื่องจากเมื่อร่างกายเผาผลาญพลังงานจากไขมันจนทำให้เริ่มรู้สึกหิว ก็จะทำให้มีแนวโน้มว่าคุณกำลังเหนื่อยล้ามาก การวิ่งก็จะมีประสิทธิภาพที่น้อยลง

2. ทำให้หลังวิ่งหิวและทานเยอะขึ้น คุณอาจรู้สึกหิวเป็นพิเศษและกินมากขึ้นตลอดทั้งวันเพื่อชดเชยพลังงานที่หมดไปในขณะวิ่ง

3. ไม่ส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน การวิ่งขณะท้องว่างอาจทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมากขึ้นในช่วงแรก แต่ในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายปรับตัวและเผาผลาญไขมันน้อยลง

คำแนะนำในการวิ่งขณะท้องว่าง

ควรวิ่งในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ควรวิ่งนานเกิน 30 นาที
ควรวิ่งในระดับความเข้มข้นปานกลางหรือต่ำ
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนและหลังวิ่ง
ควรเริ่มจากการวิ่งเบา ๆ ก่อน แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและความเข้มข้นขึ้น
การวิ่งขณะท้องว่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หากต้องการลดน้ำหนักหรือพัฒนาความอดทน อาจลองวิ่งขณะท้องว่างดู แต่ควรเริ่มจากการวิ่งเบา ๆ ก่อน และควรสังเกตอาการของตัวเองให้ดี หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือปวดท้องมาก ควรหยุดวิ่งทันที

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนวิ่งขณะท้องว่าง

ที่มา :

บทความ "วิ่งตอนท้องว่าง ดีจริงหรือ? มีผลเสียอะไรบ้าง?" จากเว็บไซต์โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
บทความ "ประโยชน์ของการวิ่งตอนท้องว่าง" จากเว็บไซต์เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ