วัยกลางคน หรือวันประมาณ 40-50 ปี เป็นวันที่เรียกได้ว่ารายได้ก็เยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะ เพราะเรากลายเป็นคนที่มีไว้สำหรับพึ่งพิงสำหรับครอบครัว มีทั้งลูกเรา พ่อแม่ เราต้องดูแลช่วยเหลือทางด้านการเงินให้ และถ้าใครมีภรรยาหรือสามี ไม่ทำงานแล้วมาทำงานบ้าน ดูแลลูกๆแทนเราอีก
นอกจากภาระเกี่ยวกับตัวบุคคลแล้ว ในวัยนี้ก็ต้องยอมรับว่าค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยังไม่หมด ค่าใช้จ่ายในบ้านทั่วไปอีก ถือว่าเป็นภาระที่หนักมากที่ในวัยกลางคนต้องแบก วันนี้ผมจะมีวิธีมานำเสนอเพื่อให้วัยกลางคนบริหารเงินได้ดีขึ้นไปจนกว่าจะเกษียณ
เงินสำหรับเกษียณอายุเป้าหมายสำคัญของเรา
ในวัยนี้เป็นวัยเกือบจะช่วงสุดก่อนที่จะเกษียณอายุ ยังพอมีเวลาเตรียมตัวในการเกษียณ ถ้าเราปล่อยเวลาตรงนี้ผ่านไปโดยไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีแล้วจะทำให้เราลำบากในการใช้ชีวิต เราต้องเตรียมตัวให้ดีครับ อย่าคิดแต่ว่าจะมีลูกหลานดูแล เราต้องคิดถึงเราตอนนี้ที่มีค่าใช้จ่ายเยอะส่วนหนึ่งก็มาจากพ่อแม่เรา ดังนั้นอย่าไปเป็นภาระลูกหลานเลยครับ
ต้องพูดคุยเรื่องเงินกับคนในครอบครัวมากกว่านี้
การที่เราไม่พยายามให้ที่บ้านเราเข้าใจสภาวะการเงินตอนนี้เราเป็นอย่างไรแล้ว มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยที่เราจะไปตำหนิพวกเขาว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่รู้จักประหยัดเงิน เพราะพวกเขาไม่รู้สักหน่อยว่าสถานะการเงินครอบครัวเป็นอย่างไรในตอนนี้ การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญจริง แต่โดยทั่วไปแล้วเราสามารถที่จะพูดคุยให้ลูกเข้าใจได้ง่ายกว่าพ่อแม่เรา ด้วยสถานะที่ลูกต้องพึ่งพิงโดยตลอด เราสามารถพุดคุยกับลูกถึงระดับถ้าจำเป็นจริงๆก็อาจจะให้ลูกกู้ กยศ.สำหรับใช้ในการเรียนได้
ประกันคือเรื่องจำเป็น
การประกันสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ชีวิต คือการโยนภาระความเสี่ยงทั้งหมดไปให้ประกันดูแล ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตรงนั้นประกันจะรับผิดชอบเอง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเพื่อค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนนี้มาก เราเพียงแต่จ่ายค่าประกันไปตามตกลงเท่านั้นเอง
ศึกษาให้เข้าใจสิทธิต่างๆที่จะได้รับ
ผมอนุมานเองว่า คนส่วนใหญ่ที่กำลังอ่านเรื่องนี้เป็นลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือรัฐบาลก็ตาม แต่ถึงแม้ไม่ได้เป็นก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ โดยทั่วไปแล้วเราจะมีสิทธิพวกนี้
- ประกันสังคม
- สิทธิบัตรทอง
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ กองทุน กบข.
- ประกันของบริษัท/สิทธิรักษาพยาบาลราชการ
- เงินบำเหน็จ บำนาญของราชการ
จำเห็นได้ว่าเรื่อพวกนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ต้อบอกตรงๆว่าสิทธิพวกนี้มีน้อยคนมากที่จะเข้าใจว่าเราได้สิทธิในการใช้เงินเท่าไหร่บ้าง หากเกิดอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้นเราจะได้ชดเชยเท่าไหร่ ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่ารักษาฟัน ผมอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าไปศึกษาเรื่องพวกนี้โดยละเอียด เพื่อไม่ให้เราเสียสิทธิไปฟรีๆ
หาความรู้การเงินใส่ตัว
ความรู้ทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะสามารถคำนวณได้ว่าเราจะใช้เงินยังไง เก็บออมยังไง ทำยังไงให้เสียภาษีน้อยที่สุด วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับที่เราได้มาเจอกันในบทความนี้ ยังไงก็ให้แนะนำให้ทุกคนศึกษาเรื่องการเงินกันนะครับ และถ้าใครถือว่ามีความรู้ระดับหนึ่งแล้ว ก็อย่าลืมอัพเดทข้อมูลใหม่ๆด้วยครับ
วัยกลางคนบริหารเงินอย่างไรให้อยู่รอดจนเกษียณอายุ
วัยกลางคน หรือวันประมาณ 40-50 ปี เป็นวันที่เรียกได้ว่ารายได้ก็เยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะ เพราะเรากลายเป็นคนที่มีไว้สำหรับพึ่งพิงสำหรับครอบครัว มีทั้งลูกเรา พ่อแม่ เราต้องดูแลช่วยเหลือทางด้านการเงินให้ และถ้าใครมีภรรยาหรือสามี ไม่ทำงานแล้วมาทำงานบ้าน ดูแลลูกๆแทนเราอีก
นอกจากภาระเกี่ยวกับตัวบุคคลแล้ว ในวัยนี้ก็ต้องยอมรับว่าค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยังไม่หมด ค่าใช้จ่ายในบ้านทั่วไปอีก ถือว่าเป็นภาระที่หนักมากที่ในวัยกลางคนต้องแบก วันนี้ผมจะมีวิธีมานำเสนอเพื่อให้วัยกลางคนบริหารเงินได้ดีขึ้นไปจนกว่าจะเกษียณ
เงินสำหรับเกษียณอายุเป้าหมายสำคัญของเรา
ในวัยนี้เป็นวัยเกือบจะช่วงสุดก่อนที่จะเกษียณอายุ ยังพอมีเวลาเตรียมตัวในการเกษียณ ถ้าเราปล่อยเวลาตรงนี้ผ่านไปโดยไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีแล้วจะทำให้เราลำบากในการใช้ชีวิต เราต้องเตรียมตัวให้ดีครับ อย่าคิดแต่ว่าจะมีลูกหลานดูแล เราต้องคิดถึงเราตอนนี้ที่มีค่าใช้จ่ายเยอะส่วนหนึ่งก็มาจากพ่อแม่เรา ดังนั้นอย่าไปเป็นภาระลูกหลานเลยครับ
ต้องพูดคุยเรื่องเงินกับคนในครอบครัวมากกว่านี้
การที่เราไม่พยายามให้ที่บ้านเราเข้าใจสภาวะการเงินตอนนี้เราเป็นอย่างไรแล้ว มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยที่เราจะไปตำหนิพวกเขาว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่รู้จักประหยัดเงิน เพราะพวกเขาไม่รู้สักหน่อยว่าสถานะการเงินครอบครัวเป็นอย่างไรในตอนนี้ การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญจริง แต่โดยทั่วไปแล้วเราสามารถที่จะพูดคุยให้ลูกเข้าใจได้ง่ายกว่าพ่อแม่เรา ด้วยสถานะที่ลูกต้องพึ่งพิงโดยตลอด เราสามารถพุดคุยกับลูกถึงระดับถ้าจำเป็นจริงๆก็อาจจะให้ลูกกู้ กยศ.สำหรับใช้ในการเรียนได้
ประกันคือเรื่องจำเป็น
การประกันสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ชีวิต คือการโยนภาระความเสี่ยงทั้งหมดไปให้ประกันดูแล ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตรงนั้นประกันจะรับผิดชอบเอง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเพื่อค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนนี้มาก เราเพียงแต่จ่ายค่าประกันไปตามตกลงเท่านั้นเอง
ศึกษาให้เข้าใจสิทธิต่างๆที่จะได้รับ
ผมอนุมานเองว่า คนส่วนใหญ่ที่กำลังอ่านเรื่องนี้เป็นลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือรัฐบาลก็ตาม แต่ถึงแม้ไม่ได้เป็นก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ โดยทั่วไปแล้วเราจะมีสิทธิพวกนี้
- ประกันสังคม
- สิทธิบัตรทอง
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ กองทุน กบข.
- ประกันของบริษัท/สิทธิรักษาพยาบาลราชการ
- เงินบำเหน็จ บำนาญของราชการ
จำเห็นได้ว่าเรื่อพวกนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ต้อบอกตรงๆว่าสิทธิพวกนี้มีน้อยคนมากที่จะเข้าใจว่าเราได้สิทธิในการใช้เงินเท่าไหร่บ้าง หากเกิดอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้นเราจะได้ชดเชยเท่าไหร่ ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่ารักษาฟัน ผมอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าไปศึกษาเรื่องพวกนี้โดยละเอียด เพื่อไม่ให้เราเสียสิทธิไปฟรีๆ
หาความรู้การเงินใส่ตัว
ความรู้ทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะสามารถคำนวณได้ว่าเราจะใช้เงินยังไง เก็บออมยังไง ทำยังไงให้เสียภาษีน้อยที่สุด วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับที่เราได้มาเจอกันในบทความนี้ ยังไงก็ให้แนะนำให้ทุกคนศึกษาเรื่องการเงินกันนะครับ และถ้าใครถือว่ามีความรู้ระดับหนึ่งแล้ว ก็อย่าลืมอัพเดทข้อมูลใหม่ๆด้วยครับ