ผมเข้าสู่ภาวะซึมเศร้ารุนแรง แต่ก็ยังต้องหางาน จะทำอย่างไรครับกับเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตาย

ผมอยู่ในสถานะฝืดเคืองทางเศรษฐกิจส่วนตัวมาได้ถ้าเอาแบบตกต่ำจนถึงขีดสุดจริงๆก็ราวๆเกือบสองเดือนแล้วครับ
ผมมีปัญหากับครอบครัวทะเลาะกันรุนแรง คำพูด และ คำกร่นด่าและสาปแช่ง บัญชาสั่งให้ไปตายมันยังก้องอยู่ในหัวผมตลอด
ผมเริ่มดีขึ้นตอนที่พยายามหางาน แต่ด้วยความที่ผมเพิ่งเริ่มเรียนรามฯปี 1 (เรียนอยู่บ้าน) ผมจึงสามารถหางานได้แค่ในอำเภอเล็กที่ผมอาศัยอยู่
และอำเภอใกล้เคียง แต่ผมก็ไม่ถูกเรียกทุกงาน ผมพอจะทราบดีว่า ผู้ชายที่จบไม่สูง งานส่วนใหญ่ที่เปิดรับในอำเภอเล็กๆจึงเป็นงานใช้แรงงาน
ผมมีรูปร่างที่ผอมเล็กเหมือนเด็กมัธยมต้น แต่ผมอายุ 26 ปีแล้ว ผมจึงเป็นตัวเลือกท้ายๆของการถูกเลือกเข้าทำงาน ผมวิ่งหางานแทบทุกวัน
หมดค่าน้ำมันรถยนต์(รุ่นเก่ามากแต่ยังพอขับได้อยู่)จนเหลือก้นถัง 
ผมมีนัดรับยาที่รพ.จิตเวชฯทุกสามสี่สัปดาห์ ผมไม่กล้าบอกพยาบาลว่าอาการผมแย่ลงมากแล้ว จึงต้องจำใจโกหกไปว่ายังไหวอยู่ 
ผมกลัวต้องมีการปรับยา ผมวางแผนไว้ว่าถ้าผมได้งานทำแล้ว จะทำเรื่องรับยาทางไปรษณีย์ ซึ่งจะมีผลทำให้การไปรพ.ถี่น้อยลง
รพ.อยู่ในตัวจังหวัด ผมอยู่ต่างอำเภอ ห่างกันจากบ้าน 100 กม. 
ตอนนี้งานก็ยังหาไม่ได้ อีกอย่างนึงถ้าผมแจ้งว่าผมอาการแย่ลง ผมจะไม่สามารถทำเรื่องรับยาทางปณ.หรือรับยาใกล้บ้านได้
อีกประการนึง ผมอาจถูกให้แอดมิทในรพ.อีกครั้ง ผมเป็นห่วงที่บ้าน แม่ผมอยู่คนเดียว(ยังไม่เกษียณงาน) และกลัวไม่มีคนให้อาหารสุนัข
กลัวข้าวของที่สำคัญของผมถูกรื้อหรือทำลาย ลืมบอกว่าแม่เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่โกหกหมอว่าอาการคงที่เหมือนกันครับ
แถมตอนครั้งก่อนที่ผมเข้ารพ.จิตเวชแบบแอดมิท ก็ยังไม่เชื่อว่าผมอาการแย่ลงจริงๆ คิดว่าผมแค่หนีปัญหาเฉยๆ

ตอนนี้ผมมีความคิดโผล่ขึ้นมาที่ไม่ใช่แค่ Passive death wish เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เป็นความคิดที่จะทำจริงๆ แต่ยังหาวิธีที่เหมาะสมไม่ได้
ผมควรทำอย่างไรดีครับ 

ผมเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ไบโพลาร์ และซึมเศร้าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่