ทำไมรถไฟทางคู่ที่ทำใหม่ ไม่ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.ทุกสาย บางสายทำความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.เท่านั้น
เห็นที่ทำรถไฟทางคู่ บางเส้นทางก็ทำความเร็วได้ 160 กม./ชม. บางเส้นทางก็ทำความเร็วได้ 120 กม./ชม. อย่างสายเหนือ เด่นชัย-ลำปาง ก็ทำความเร็วได้ที่ 120 กม./ชม. ลำปาง-เชียงใหม่ ก็ทำความเร็วได้ที่ 160 กม./ชม. น่าจะทำความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม.ตลอดทั้งสาย
ที่เคยนั่งสายสีแดงมา ทำความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม. วิ่งจริงไม่ถึงหรอก ความเร็วสูงสุดตอนให้บริการผู้โดยสารอยู่ที่ราวๆ 145 กม./ชม.เท่านั้น คงเป็นเพราะระยะห่างของแต่ละสถานีที่ไม่มากด้วยมั้ง
ถ้ารถไฟทางคู่เส้นทางที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. ก็หวังว่าจะทำความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 115 กม./ชม. และรถไฟทางคู่เส้นทางที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม. ก็หวังว่าจะทำความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 150 กม./ชม แต่ในความเป็นจริงแล้วก็อยากให้ทำรถไฟทางคู่ความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม. ตลอดเส้นทาง ไม่รู้ว่า การตัดเส้นทางรถไฟทางคู่ใหม่นี่ทำกันยังไงบ้าง น่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟให้ตรงขึ้นจากเส้นทางรถไฟทางเดี่ยวในแนวเดิม ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ถึง 160 กม./ชม.
ส่วนรถไฟความเร็วสูงที่พึ่งสร้างใหม่ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. เส้นทางรถไฟทางคู่น่าจะตัดเส้นทางให้ขนานกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนะ เพื่อจะได้วิ่งได้เร็วขึ้น หรืออีกอย่างเป็นเพราะรางรถไฟหรือเปล่า ตอนนี้ราง 1 เมตร เลยทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 160 กม./ชม. ถ้าราง 1.435 เมตร ก็จะทำความเร็วได้อย่างน้อย 180 กม./ชม. เพราะช่วงเลี้ยงช่วงโค้งจะทำความเร็วได้ดีกว่าราง 1 เมตร ขึ้นอยู่กับขนาดรางด้วยกี่ปอนด์ อีกอย่างราง 1.435 นอกจากจะได้ความเร็วในการเดินทางเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ใช้งานแล้ว รถไฟยังเพิ่มด้านกว้างมากขึ้น สามารถเพิ่มที่นั่งให้ผู้โดยสารได้อีก ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ได้ค่าตั๋วเพิ่ม มีรายได้เพิ่มขึ้น
จริงๆบ้านเราตอนนี้ ถ้ามีรถไฟทางคู่วิ่งได้ความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม.วิ่งข้ามจังหวัดได้ 2-3 จังหวัดและมีเครื่องบินเดินทางบินไป 4-5 จังหวัดนี่ก็ o.k. แล้วในแง่ความคุ้มค่า เพราะรถไฟความเร็วสูงยิ่งค่าตั๋วแพง คนที่ขึ้นก็ยิ่งมีน้อยลง โอกาสขาดทุนมีสูง เผลอๆรัฐบาลก็ต้องเอาภาษีไปอุ้มอีก
ที่บอกว่ารถไฟความเร็วสูงนี่แข่งกับเครื่องบินได้ มันก็แข่งได้อยู่หรอก แต่แข่งกันแล้ว ใครจะขาดทุนมากกว่ากัน ใครจะตายก่อนกัน
ดูตัวอย่าง ทีวีดิจิตอล มีช่องเยอะเกินไปก็แข่งกันขาดทุน ก็ต้องมาให้ภาครัฐช่วย ดูอย่างการบินไทยขาดทุน ก็ต้องให้รัฐอุ้ม
ถ้าบ้านเรามีครบสมบูรณ์ ทั้งเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ รถโดยสารประจำทาง แข่งกันมากๆเข้า ก็อาจจะมี 1-2 องค์กรที่ขาดทุนหนัก ต้องมาขอร้องภาครัฐช่วย
บ้านเราเวลาจะสร้างอะไร ก็จะคิดถึงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์ว่า ธุรกิจแข่งกันขนาดนี้ จะส่งผลอย่างไร ขาดทุนขนาดไหน รัฐต้องเอาภาษีเข้ามาช่วยอุ้มเท่าไร
จริงๆแล้ว การแข่งขันทางธุรกิจ มีผลให้ได้กำไรและประสบภาวะขาดทุนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ควรแข่งแบบพอดี ทางสายกลาง ไม่ตึง ไม่หย่อนไป ดูตัวอย่างมือถือ มี 4 เจ้าก็มากไป เจ้าที่ 4 มักไปไม่รอด เหลือ 3 เจ้าให้แข่งขันกัน มี 2 เจ้าก็เหมือนตอนนี้ ประชาชนได้จ่ายค่าบริการแพงขึ้น
น่าจะมีผลการศึกษาออกมาว่า สำหรับประเทศเรามีขนส่งกี่ระบบ ถึงจะเป็นการแข่งขันที่ลงตัว เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐ ผู้ประกอบการ ประชาชนทั้ง 3 ฝ่าย แต่ตอนนี้ก็ต้องช่างมัน ในเมื่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว ก็ต้องมารอดูผลกำไร-ขาดทุนกันต่อไป
แต่จริงๆแล้ว ก็ไม่ใช่ว่ารถไฟความเร็วสูงไม่น่าสร้าง ถ้าจะให้ดีก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนมานิยมใช้ระบบรางรถไฟทางคู่กันให้มากๆแทนการใช้รถส่วนตัวให้ได้ก่อน แล้วต่อไปในอนาคต การสร้างรถไฟความสูงจะคุ้มค่าเอง คนจะขึ้นรถไฟความเร็วสูงมากตามไปด้วย
ทำไมรถไฟทางคู่ที่ทำใหม่ ไม่ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.ทุกสาย บางสายทำความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.เท่านั้น
ที่เคยนั่งสายสีแดงมา ทำความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม. วิ่งจริงไม่ถึงหรอก ความเร็วสูงสุดตอนให้บริการผู้โดยสารอยู่ที่ราวๆ 145 กม./ชม.เท่านั้น คงเป็นเพราะระยะห่างของแต่ละสถานีที่ไม่มากด้วยมั้ง
ถ้ารถไฟทางคู่เส้นทางที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. ก็หวังว่าจะทำความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 115 กม./ชม. และรถไฟทางคู่เส้นทางที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม. ก็หวังว่าจะทำความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 150 กม./ชม แต่ในความเป็นจริงแล้วก็อยากให้ทำรถไฟทางคู่ความเร็วสูงสุดที่ 160 กม./ชม. ตลอดเส้นทาง ไม่รู้ว่า การตัดเส้นทางรถไฟทางคู่ใหม่นี่ทำกันยังไงบ้าง น่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟให้ตรงขึ้นจากเส้นทางรถไฟทางเดี่ยวในแนวเดิม ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ถึง 160 กม./ชม.
ส่วนรถไฟความเร็วสูงที่พึ่งสร้างใหม่ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. เส้นทางรถไฟทางคู่น่าจะตัดเส้นทางให้ขนานกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนะ เพื่อจะได้วิ่งได้เร็วขึ้น หรืออีกอย่างเป็นเพราะรางรถไฟหรือเปล่า ตอนนี้ราง 1 เมตร เลยทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 160 กม./ชม. ถ้าราง 1.435 เมตร ก็จะทำความเร็วได้อย่างน้อย 180 กม./ชม. เพราะช่วงเลี้ยงช่วงโค้งจะทำความเร็วได้ดีกว่าราง 1 เมตร ขึ้นอยู่กับขนาดรางด้วยกี่ปอนด์ อีกอย่างราง 1.435 นอกจากจะได้ความเร็วในการเดินทางเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ใช้งานแล้ว รถไฟยังเพิ่มด้านกว้างมากขึ้น สามารถเพิ่มที่นั่งให้ผู้โดยสารได้อีก ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ได้ค่าตั๋วเพิ่ม มีรายได้เพิ่มขึ้น
จริงๆบ้านเราตอนนี้ ถ้ามีรถไฟทางคู่วิ่งได้ความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม.วิ่งข้ามจังหวัดได้ 2-3 จังหวัดและมีเครื่องบินเดินทางบินไป 4-5 จังหวัดนี่ก็ o.k. แล้วในแง่ความคุ้มค่า เพราะรถไฟความเร็วสูงยิ่งค่าตั๋วแพง คนที่ขึ้นก็ยิ่งมีน้อยลง โอกาสขาดทุนมีสูง เผลอๆรัฐบาลก็ต้องเอาภาษีไปอุ้มอีก
ที่บอกว่ารถไฟความเร็วสูงนี่แข่งกับเครื่องบินได้ มันก็แข่งได้อยู่หรอก แต่แข่งกันแล้ว ใครจะขาดทุนมากกว่ากัน ใครจะตายก่อนกัน
ดูตัวอย่าง ทีวีดิจิตอล มีช่องเยอะเกินไปก็แข่งกันขาดทุน ก็ต้องมาให้ภาครัฐช่วย ดูอย่างการบินไทยขาดทุน ก็ต้องให้รัฐอุ้ม
ถ้าบ้านเรามีครบสมบูรณ์ ทั้งเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ รถโดยสารประจำทาง แข่งกันมากๆเข้า ก็อาจจะมี 1-2 องค์กรที่ขาดทุนหนัก ต้องมาขอร้องภาครัฐช่วย
บ้านเราเวลาจะสร้างอะไร ก็จะคิดถึงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์ว่า ธุรกิจแข่งกันขนาดนี้ จะส่งผลอย่างไร ขาดทุนขนาดไหน รัฐต้องเอาภาษีเข้ามาช่วยอุ้มเท่าไร
จริงๆแล้ว การแข่งขันทางธุรกิจ มีผลให้ได้กำไรและประสบภาวะขาดทุนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ควรแข่งแบบพอดี ทางสายกลาง ไม่ตึง ไม่หย่อนไป ดูตัวอย่างมือถือ มี 4 เจ้าก็มากไป เจ้าที่ 4 มักไปไม่รอด เหลือ 3 เจ้าให้แข่งขันกัน มี 2 เจ้าก็เหมือนตอนนี้ ประชาชนได้จ่ายค่าบริการแพงขึ้น
น่าจะมีผลการศึกษาออกมาว่า สำหรับประเทศเรามีขนส่งกี่ระบบ ถึงจะเป็นการแข่งขันที่ลงตัว เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐ ผู้ประกอบการ ประชาชนทั้ง 3 ฝ่าย แต่ตอนนี้ก็ต้องช่างมัน ในเมื่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว ก็ต้องมารอดูผลกำไร-ขาดทุนกันต่อไป
แต่จริงๆแล้ว ก็ไม่ใช่ว่ารถไฟความเร็วสูงไม่น่าสร้าง ถ้าจะให้ดีก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนมานิยมใช้ระบบรางรถไฟทางคู่กันให้มากๆแทนการใช้รถส่วนตัวให้ได้ก่อน แล้วต่อไปในอนาคต การสร้างรถไฟความสูงจะคุ้มค่าเอง คนจะขึ้นรถไฟความเร็วสูงมากตามไปด้วย