“กมธ.ทหาร”อึ้ง“กองทัพ”ขอข้อมูลอะไรไม่เคยได้คำตอบ-“จิรัฎฐ์”เล็งตรวจสอบอย่างหนัก
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4337203
จิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล สนทนาในรายการ The Politics ถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการทหาร สภาฯว่า เห็นว่าคนในกระทรวงกลาโหมมีแต่นักพูด เชื่อว่าไม่มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เอกสารต่างๆที่กมธ.ขอไป แทบจะไม่เคยได้รับเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อเรือดำน้ำ รวมไปถึงธุรกิจของกองทัพที่เคยบอกว่าจะมีการเปิดเผย กลับไม่มีการเปิดเผย รู้สึกงงกับตรรกะของกองทัพในการเกณฑ์ทหาร เพราะอ้างว่ากองทัพขาดกำลังพล เพราะเอาไปช่วยงาน แต่กลับไม่มีการเปิดรับสมัครเป็นทางการ คาดหวังว่าจะไม่มีคนตายจากการเป็นทหารเกณฑ์
‘วิปฝ่ายค้าน’ จัดคิวพรรคร่วมออกรายการ ‘มองรัฐสภา’ โชว์ผลงาน ‘ชัยธวัช’ คิวแรก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4337494
‘วิปฝ่ายค้าน’ จัดคิวพรรคร่วมฯออกรายการ ‘มองรัฐสภา’ โปรโมตผลงาน ประเดิม ‘ชัยธวัช’ หลังโปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีนาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รับหน้าที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมด้วยคือ น.ส.
สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง และนาย
ร่มธรรม ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง โดยมีการประชุมวางแผนเพื่อทำงานร่วมกัน หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 20 ธ.ค. ซึ่งจะมีการกำหนดวันประชุมวิปฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ
โดยนาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวต่อที่ประชุมว่า จะจัดคิวฝ่ายค้านให้ออกรายการ มองรัฐสภา ของช่องสถานีวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ซึ่งจะเริ่มจาก นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ ผู้นำฝ่ายค้านเป็นคนแรก นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งงานทั้งกระทู้ทั่วไปกระทู้ถามสด รวมถึงญัตติ และงานในสภา เพื่อให้ครอบคลุมทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ได้ทำงานได้อย่างทั่วถึง
จี้นายกฯ ใช้การศึกษาลดเหลื่อมล้ำ แก้ ‘เด็กไทย’ ติด 1 ใน 3 ขายบริการมากสุดในโลก
https://www.matichon.co.th/education/news_4335090
จี้นายกฯ ใช้การศึกษาลดเหลื่อมล้ำ แก้ ‘เด็กไทย’ ติด 1 ใน 3 ขายบริการมากสุดในโลก แนะต้อง ‘ปฏิรูป-แก้ไขระบบ-โครงสร้าง’
ศ.ดร.
สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ จะเห็นข่าวชาวเยอรมันซื้อบริการเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือจะเป็นกรณีนักกีฬาชื่อดังล่วงละเมิดเด็กผู้หญิงต่ำกว่า 18 ปี จากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ติด 1 ใน 10 ของโลก ขณะเดียวกันเป็นการท่องเที่ยวแบบ Sex Tourism เช่นกัน เพราะไทยติด 1 ใน 3 ที่มีเด็กขายบริการมากที่สุดในโลก โดยภาพรวมแล้วไทยมีผู้ที่ทำอาชีพขายบริการประมาณ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเด็กขายบริการทางเพศ 2-8 แสนคน
ศ.ดร.
สมพงษ์กล่าวต่อว่า การใช้บริการทางเพศของเด็กไทยเป็นที่โจษจัน และรับรู้กันในหมู่นักท่องเที่ยว ว่าถ้ามาเมืองไทย การซื้อบริการทางเพศเด็ก เป็นบริการที่หาได้อย่างง่ายดาย หากเจอปัญหาก็สามารถจัดการได้ด้วยเงิน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกแก้ปัญหาเป็นเคสๆ ไป ต้องแก้ไขในภาพรวม เพราะปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่าคนยากจน คนได้รับการศึกษาน้อย จะต้องใช้เรือนร่างของตนเข้าแลกเพื่อให้ได้เงิน อย่างไรก็ตาม หนทางที่จะทำให้คนเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มีอยู่ 3 ทาง คือ
1. การศึกษา ถ้าได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม และทั่วถึง จะช่วยให้สถานะทางสังคมของเด็ก และครอบครัวจะดีขึ้น
2. ใช้ไปในกีฬาที่เน้นความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นนักมวย นักกีฬายกน้ำหนัก เป็นต้น
และ 3. ขายบริการ ขายแรงงาน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ความยากจนที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด และที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เป็นโจทย์สำคัญของประเทศ ให้ลดลง หรือดีขึ้นได้
“
ต้นเหตุของการเกิดปัญหาเหล่านี้ ไม่เคยได้รับการปฏิรูป หรือแก้ไขในเชิงระบบ และโครงสร้างให้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะปัญหาที่เด็กต้องมาขายบริการทางเพศโดยเร็ว โดยเข้าไปศึกษางานวิจัยที่ศึกษาเรื่องดังกล่าว หรือจะดูสารคดีเรื่อง SOUND OF FREEDOM ที่สะท้อนปัญหาขายบริการทางเพศของเด็ก จะทราบว่ารากเหง้าของปัญหาในสังคมไทยเกิดจากอะไร ทำไมเด็กต้องเอาเรือนร่างมาขายบริการ แล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างแท้จริง” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
ศ.ดร.
สมพงษ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมาถูกทางแล้ว 1 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน แต่ที่อยากให้มาดูแลอย่างจริงจัง คือการปฏิรูปการศึกษา ที่ต้องเดินหน้าอย่างจริงจัง สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาให้ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่ารัฐมนตรี 3 คน ที่ดูแลด้านการศึกษาในขณะนี้ คือรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ ดังนั้น จึงอยากจะฝาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กลับมาศึกษาวิจัยเรื่องการศึกษา ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายบริการทางเพศเด็ก และการขายแรงงานเด็ก โดยใช้การศึกษาเข้ามาสร้างความเท่าเทียม และสร้างโอกาสให้กับเด็กเหล่านี้โดยเร็ว
JJNY : “กมธ.ทหาร”อึ้ง-“จิรัฎฐ์”เล็ง│โชว์ผลงาน‘ชัยธวัช’คิวแรก│จี้ใช้การศึกษาลดเหลื่อมล้ำ│อิสราเอลมีแผนกดดันฮิซบอลเลาะห์
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4337203
จิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล สนทนาในรายการ The Politics ถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการทหาร สภาฯว่า เห็นว่าคนในกระทรวงกลาโหมมีแต่นักพูด เชื่อว่าไม่มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เอกสารต่างๆที่กมธ.ขอไป แทบจะไม่เคยได้รับเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อเรือดำน้ำ รวมไปถึงธุรกิจของกองทัพที่เคยบอกว่าจะมีการเปิดเผย กลับไม่มีการเปิดเผย รู้สึกงงกับตรรกะของกองทัพในการเกณฑ์ทหาร เพราะอ้างว่ากองทัพขาดกำลังพล เพราะเอาไปช่วยงาน แต่กลับไม่มีการเปิดรับสมัครเป็นทางการ คาดหวังว่าจะไม่มีคนตายจากการเป็นทหารเกณฑ์
‘วิปฝ่ายค้าน’ จัดคิวพรรคร่วมออกรายการ ‘มองรัฐสภา’ โชว์ผลงาน ‘ชัยธวัช’ คิวแรก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4337494
‘วิปฝ่ายค้าน’ จัดคิวพรรคร่วมฯออกรายการ ‘มองรัฐสภา’ โปรโมตผลงาน ประเดิม ‘ชัยธวัช’ หลังโปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รับหน้าที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมด้วยคือ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง และนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง โดยมีการประชุมวางแผนเพื่อทำงานร่วมกัน หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 20 ธ.ค. ซึ่งจะมีการกำหนดวันประชุมวิปฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ
โดยนายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อที่ประชุมว่า จะจัดคิวฝ่ายค้านให้ออกรายการ มองรัฐสภา ของช่องสถานีวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ซึ่งจะเริ่มจาก นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ ผู้นำฝ่ายค้านเป็นคนแรก นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งงานทั้งกระทู้ทั่วไปกระทู้ถามสด รวมถึงญัตติ และงานในสภา เพื่อให้ครอบคลุมทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ได้ทำงานได้อย่างทั่วถึง
จี้นายกฯ ใช้การศึกษาลดเหลื่อมล้ำ แก้ ‘เด็กไทย’ ติด 1 ใน 3 ขายบริการมากสุดในโลก
https://www.matichon.co.th/education/news_4335090
จี้นายกฯ ใช้การศึกษาลดเหลื่อมล้ำ แก้ ‘เด็กไทย’ ติด 1 ใน 3 ขายบริการมากสุดในโลก แนะต้อง ‘ปฏิรูป-แก้ไขระบบ-โครงสร้าง’
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ จะเห็นข่าวชาวเยอรมันซื้อบริการเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือจะเป็นกรณีนักกีฬาชื่อดังล่วงละเมิดเด็กผู้หญิงต่ำกว่า 18 ปี จากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ติด 1 ใน 10 ของโลก ขณะเดียวกันเป็นการท่องเที่ยวแบบ Sex Tourism เช่นกัน เพราะไทยติด 1 ใน 3 ที่มีเด็กขายบริการมากที่สุดในโลก โดยภาพรวมแล้วไทยมีผู้ที่ทำอาชีพขายบริการประมาณ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเด็กขายบริการทางเพศ 2-8 แสนคน
ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า การใช้บริการทางเพศของเด็กไทยเป็นที่โจษจัน และรับรู้กันในหมู่นักท่องเที่ยว ว่าถ้ามาเมืองไทย การซื้อบริการทางเพศเด็ก เป็นบริการที่หาได้อย่างง่ายดาย หากเจอปัญหาก็สามารถจัดการได้ด้วยเงิน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกแก้ปัญหาเป็นเคสๆ ไป ต้องแก้ไขในภาพรวม เพราะปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่าคนยากจน คนได้รับการศึกษาน้อย จะต้องใช้เรือนร่างของตนเข้าแลกเพื่อให้ได้เงิน อย่างไรก็ตาม หนทางที่จะทำให้คนเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มีอยู่ 3 ทาง คือ
1. การศึกษา ถ้าได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม และทั่วถึง จะช่วยให้สถานะทางสังคมของเด็ก และครอบครัวจะดีขึ้น
2. ใช้ไปในกีฬาที่เน้นความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นนักมวย นักกีฬายกน้ำหนัก เป็นต้น
และ 3. ขายบริการ ขายแรงงาน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ความยากจนที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด และที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เป็นโจทย์สำคัญของประเทศ ให้ลดลง หรือดีขึ้นได้
“ต้นเหตุของการเกิดปัญหาเหล่านี้ ไม่เคยได้รับการปฏิรูป หรือแก้ไขในเชิงระบบ และโครงสร้างให้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะปัญหาที่เด็กต้องมาขายบริการทางเพศโดยเร็ว โดยเข้าไปศึกษางานวิจัยที่ศึกษาเรื่องดังกล่าว หรือจะดูสารคดีเรื่อง SOUND OF FREEDOM ที่สะท้อนปัญหาขายบริการทางเพศของเด็ก จะทราบว่ารากเหง้าของปัญหาในสังคมไทยเกิดจากอะไร ทำไมเด็กต้องเอาเรือนร่างมาขายบริการ แล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และความเหลื่อมล้ำจะลดลงอย่างแท้จริง” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมาถูกทางแล้ว 1 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน แต่ที่อยากให้มาดูแลอย่างจริงจัง คือการปฏิรูปการศึกษา ที่ต้องเดินหน้าอย่างจริงจัง สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาให้ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่ารัฐมนตรี 3 คน ที่ดูแลด้านการศึกษาในขณะนี้ คือรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ ดังนั้น จึงอยากจะฝาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กลับมาศึกษาวิจัยเรื่องการศึกษา ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายบริการทางเพศเด็ก และการขายแรงงานเด็ก โดยใช้การศึกษาเข้ามาสร้างความเท่าเทียม และสร้างโอกาสให้กับเด็กเหล่านี้โดยเร็ว