คดีเด็ก 17 จะเป็นเครื่องวัดประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม

- บุคคลย่อมเสมอกันเมื่ออยู่ต่อหน้ากฎหมาย ไม่เว้นแม้จะเป็นผู้เยาว์หรือผู้หญิง ก็ไม่ควรมีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น

- ศาลตัดสินตามพยานหลักฐาน ซึ๋งจะตัดสินได้ต้องพิสูจน์ได้จนสิ้นสงสัย หากยังสงสัยก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย

- ประเด็นอื่นที่เป็นข่าว เช่น ตรวจบัตรแล้วปลอมรูป เรื่องเหล่านี้ก็เป็นสามัญสำนึกปกติที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ
ไม่เอาพยานบุคคลที่แวดล้อมเข้ามาร่วม ก็ต้องหาวิธีพิสูจน์ทางอื่น เพื่อให้สิ้นสงสัย คนรู้ทั้งประเทศ
หากตำรวจไม่ตรวจสอบก็ถือว่าบกพร่อง ยังไม่นับว่าผับต้องเสียค่าปรับ หากจริงย่อมต้องเกิดความเสียหายจากการปลอมนั้น
ซึ่งเป็นคดีอาญา

- คำให้การของเด็กกับพยานแวดล้อมก็ดี หลักฐานอื่น เช่น กล้องวงจรปิดก็ได้ ขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
และพยานแวดล้อมหลักฐานอื่นไปทางเดียวกัน ขณะที่คำให้การของโจทก์ไปอีกทาง เรื่องนี้ทำให้น้ำหนักคำให้การ
แทบจะเชื่อถือไม่ได้ ตำรวจจะพิสูจน์อย่างไร

- เรื่องการเรียกค่าเสียหายทางฝั่งพ่อแม่เค้าไม่ต้องเรียกอยู่แล้ว เพราะคาดหมายได้ว่าจำเลยต้องชดใช้เพื่อบรรเทาโทษ
แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ไม่ได้ทำมาก่อน หากคิดได้ขนาดนี้ต้องมีความรู้ประสบการณ์พอควร เรื่องนี้ตำรวจเองก็ต้องตรวจสอบ
จะปล่อยให้สังคมเกิดความสงสัยว่ามีคนใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อหาเงินไม่ได้ หากจริงย่อมไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดย
นิตินัยเพราะมีเจตนาร่วมกระทำความผิด

- แค่พยานหลักฐานขัดกันเอง ควรไม่สามารถเอาผิดกรณีใช้กำลัง บังคับขู่เข็ญไปเพื่อการอนาจารได้อยู่แล้ว
เหตุผลในการแจ้งข้อกล่าวหานี้คืออะไร เป็นที่น่าสงสัยในหลักฐานของตำรวจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่