สวัสดีค่ะ พี่ๆ ชาวกระทู้
เราขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่ตัวของเราเองค่ะ ในช่วง ม.ต้น จนถึง ปัจจุบัน ขอย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ในตอนที่เราอยู่ ม.ต้น นะคะ
ในตอน ม.ต้น เราก็มีเพื่อนอยู่สองคนค่ะ จะเรียกว่าสนิทก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะปัจจุบัน ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกันแล้วค่ะ เริ่มแรกก่อนที่เราจะมาเป็นเพื่อนกับสองคนนี้ ในตอนประถมเรามีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับกลุ่มคนในสถานศึกษาค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากสนิทหรือเป็นเพื่อนกับใคร และเป็นสาเหตุที่เราเลือกจะแยกตัวออกมา
ในตอนนั้นเรานั่งคิดอยู่ทุกวันค่ะ ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีจริงๆ เหรอ ไปๆ มาๆ ก็ดิ่งค่ะ ถึงเวลาเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านน ร้องไห้ทุกคืน วนลูปจนจบ ม.3 นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่รู้สึกหลุดพ้น เพราะเราเบื่อ เบื่อสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนั้น
( ช่วงใกล้ๆ จบ ม.3 เราก็ใช้ชีวิตคนเดียวเงียบๆ เลยค่ะ ไม่มีอะไรมากวนใจ )
พอขึ้น ม.ปลาย สิ่งรอบตัวเราก็เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ สังคมใหม่เพื่อนใหม่ ตอนแรกเราก็แฮปปี้ดีนะคะ แต่พอช่วงหลังๆ มานี้ ความรู้สึกแบบเดิมมันเริ่มกลับมาอีก ในความรู้สึกเราคืออึดอัดค่ะ อยากแยกตัวออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาที่ตัวเราเริ่มจะเปิดใจรับคนใหม่ๆ เข้ามามันก็เหมือนมีอะไรบางอย่าง พยายามฉุดตัวเราเอาไว้ บางครั้งเราก็คิดนะคะว่าตัวเองมีปัญหาทางจิต แต่คิดไปคิดมาหรือจะไม่ใช่ อันนี้ก็ไม่รู้ค่ะ555
ขออนุญาตเล่าเรื่องในวัยเด็กของเรานะคะ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วเราก็ไม่เคยบอกใครเลยค่ะ แม้แต่คนในครอบครัว ยิ่งเพื่อนไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นปัจจัย อย่างหนึ่งที่ส่งผลถึงเราในปัจจุบันค่ะ
ช่วงเวลานั้นถ้าจำไม่ผิดน่านะอยํในช่วง อนุบาล ถึงประถม 1 ประมาณ 6-7 ขวบค่ะ คือตัวเราในตอนนั้นสนิทกับพี่สาวข้างบ้านมากๆ สนิทมากแบบว่าเขาสั่งให้ทำอะไร ก็ทำ เชื่อฟังมากๆ ( เราอยู่กับยายนะคะ เพราะพ่อแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราเล็กๆ ) จนวันหนึ่ง พี่สาวคนนี้เขาสั่งให้เราถอดเสื้อผ้าค่ะ แล้วก็ทำอนาจาร ซึ่งเขาก็สั่งให้เราห้ามบอกใครค่ะ ซึ่งเราก็ไม่บอกนั่นแหละค่ะ ตามภาษาเด็ก
โตขึ้นมาอีกหน่อยในช่วงประถม ตอน ป.2 เราโดนเพื่อน แบน แล้วก็ไถเงินค่ะ ไม่ใครมาเล่นหรือมายด้วยเพราะคนที่เราไถเงินสั่งเอาไว้ เราในวัย 8-9 ขวบการไม่มีเพื่อนคือแย่มากๆ ค่ะ รู้สึกถูกทิ้ง
( ด้วยความที่ตอน ป.2 เราตัวเล็กมากๆ สภาพพร้อมโดนบูลี่สุดๆ เลยค่ะ)
ซึ่งเรื่องนี้เราก็ไม่บอกใครอีกตามเคยค่ะ จนถึง ป.4 เราได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งค่ะ เขาบอกให้เราอย่าไปยอมอะไรทำนองนั้น และในที่สุดเราก็ยอมเปิดปากบอกกับคนที่บ้าน สุดท้ายก็จบอย่างสวยงามค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นสันดานของคนแบบ 300% เลยค่ะ ในเวลาที่ร่วมกันเหยียบย่ำคนอื่นก็รักกันดี แต่พอมีใครสักคนล้มก็กลับทอดทิ้ง
ขอวนกลับมาใน ทามไลน์ มัธยมนะคะ อยากที่เราเขียนไปในด้านบนเลยค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจตัวเองนะคะ แต่พอมาเขียนระบายแบบนี้ก็ทำให้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นมามากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่า พอเราเริ่มรู้สึกสนิทกับใคร ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาคอยรั้งเราไว้อยากจะลองไว้ใจใครสักคนค่ะ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง
จริงๆ กระทู้นี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่อยากมาระบาย แล้วก็อยากฟังมุมมอง หรือความคิดเห็นของพี่ๆ เกี่ยวกับเรื่องของเราด้วยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ *ซาบซึ้ง* ถ้าเราเขียนไม่ค่อยรู้เรื่องหรือจับใจความอะไรไม่ได้ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ
ไว้ใจใครสักคนทำไมยากจัง ?
เราขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่ตัวของเราเองค่ะ ในช่วง ม.ต้น จนถึง ปัจจุบัน ขอย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ในตอนที่เราอยู่ ม.ต้น นะคะ
ในตอน ม.ต้น เราก็มีเพื่อนอยู่สองคนค่ะ จะเรียกว่าสนิทก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะปัจจุบัน ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกันแล้วค่ะ เริ่มแรกก่อนที่เราจะมาเป็นเพื่อนกับสองคนนี้ ในตอนประถมเรามีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับกลุ่มคนในสถานศึกษาค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากสนิทหรือเป็นเพื่อนกับใคร และเป็นสาเหตุที่เราเลือกจะแยกตัวออกมา
ในตอนนั้นเรานั่งคิดอยู่ทุกวันค่ะ ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีจริงๆ เหรอ ไปๆ มาๆ ก็ดิ่งค่ะ ถึงเวลาเลิกเรียนก็รีบกลับบ้านน ร้องไห้ทุกคืน วนลูปจนจบ ม.3 นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่รู้สึกหลุดพ้น เพราะเราเบื่อ เบื่อสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนั้น
( ช่วงใกล้ๆ จบ ม.3 เราก็ใช้ชีวิตคนเดียวเงียบๆ เลยค่ะ ไม่มีอะไรมากวนใจ )
พอขึ้น ม.ปลาย สิ่งรอบตัวเราก็เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ สังคมใหม่เพื่อนใหม่ ตอนแรกเราก็แฮปปี้ดีนะคะ แต่พอช่วงหลังๆ มานี้ ความรู้สึกแบบเดิมมันเริ่มกลับมาอีก ในความรู้สึกเราคืออึดอัดค่ะ อยากแยกตัวออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาที่ตัวเราเริ่มจะเปิดใจรับคนใหม่ๆ เข้ามามันก็เหมือนมีอะไรบางอย่าง พยายามฉุดตัวเราเอาไว้ บางครั้งเราก็คิดนะคะว่าตัวเองมีปัญหาทางจิต แต่คิดไปคิดมาหรือจะไม่ใช่ อันนี้ก็ไม่รู้ค่ะ555
ขออนุญาตเล่าเรื่องในวัยเด็กของเรานะคะ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วเราก็ไม่เคยบอกใครเลยค่ะ แม้แต่คนในครอบครัว ยิ่งเพื่อนไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นปัจจัย อย่างหนึ่งที่ส่งผลถึงเราในปัจจุบันค่ะ
ช่วงเวลานั้นถ้าจำไม่ผิดน่านะอยํในช่วง อนุบาล ถึงประถม 1 ประมาณ 6-7 ขวบค่ะ คือตัวเราในตอนนั้นสนิทกับพี่สาวข้างบ้านมากๆ สนิทมากแบบว่าเขาสั่งให้ทำอะไร ก็ทำ เชื่อฟังมากๆ ( เราอยู่กับยายนะคะ เพราะพ่อแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราเล็กๆ ) จนวันหนึ่ง พี่สาวคนนี้เขาสั่งให้เราถอดเสื้อผ้าค่ะ แล้วก็ทำอนาจาร ซึ่งเขาก็สั่งให้เราห้ามบอกใครค่ะ ซึ่งเราก็ไม่บอกนั่นแหละค่ะ ตามภาษาเด็ก
โตขึ้นมาอีกหน่อยในช่วงประถม ตอน ป.2 เราโดนเพื่อน แบน แล้วก็ไถเงินค่ะ ไม่ใครมาเล่นหรือมายด้วยเพราะคนที่เราไถเงินสั่งเอาไว้ เราในวัย 8-9 ขวบการไม่มีเพื่อนคือแย่มากๆ ค่ะ รู้สึกถูกทิ้ง
( ด้วยความที่ตอน ป.2 เราตัวเล็กมากๆ สภาพพร้อมโดนบูลี่สุดๆ เลยค่ะ)
ซึ่งเรื่องนี้เราก็ไม่บอกใครอีกตามเคยค่ะ จนถึง ป.4 เราได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งค่ะ เขาบอกให้เราอย่าไปยอมอะไรทำนองนั้น และในที่สุดเราก็ยอมเปิดปากบอกกับคนที่บ้าน สุดท้ายก็จบอย่างสวยงามค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นสันดานของคนแบบ 300% เลยค่ะ ในเวลาที่ร่วมกันเหยียบย่ำคนอื่นก็รักกันดี แต่พอมีใครสักคนล้มก็กลับทอดทิ้ง
ขอวนกลับมาใน ทามไลน์ มัธยมนะคะ อยากที่เราเขียนไปในด้านบนเลยค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจตัวเองนะคะ แต่พอมาเขียนระบายแบบนี้ก็ทำให้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นมามากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่า พอเราเริ่มรู้สึกสนิทกับใคร ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาคอยรั้งเราไว้อยากจะลองไว้ใจใครสักคนค่ะ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง
จริงๆ กระทู้นี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่อยากมาระบาย แล้วก็อยากฟังมุมมอง หรือความคิดเห็นของพี่ๆ เกี่ยวกับเรื่องของเราด้วยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะคะ *ซาบซึ้ง* ถ้าเราเขียนไม่ค่อยรู้เรื่องหรือจับใจความอะไรไม่ได้ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ