สวัสดีค่ะเราชื่อมะนาวค่ะ วันนี้มีเรื่องราวเมื่อ11ปีที่ผ่านมาจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ต้องขอท้าวความไปเมื่อ11ปีก่อนนะคะ ตอนนั้น เราอายุ15ปี ทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยมากนักเราเลยต้องออกมาทำงานหาเงิน ด้วยตัวเองค่ะ
มีเพื่อนสนิทค่ะชื่อเอ แนะนำว่า สถานที่บรรเทิงแห่งนี้เปิดรับสมัครนักร้องกลางคืนและโคโยตี้ ซึ่งเพื่อนก็ทำอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ
เราเลยตัดสินใจว่าโอเคเราจะไปทำงานนี้กับเพื่อน
ต้องบอกสถานที่ที่ทำงานของเราก่อนนะคะ อยู่แถวเส้นปิ่นเกล้า ชื่อห้างเราไม่ขอเอ่ยนะคะ เราทำงานอยู่ชั้น14 ตอนแรกเรากลัวมากเพราะ ตอนกลางวัน
มันเป็นห้างปกติ แต่เมื่อมาห้างตอนกลางคืนเรารู้สึกหวิวๆอยู่ค่ะ เรามาถึงหน้าห้างก่อนเพื่อน เลยตัดสินใจว่าเราจะรอเพื่อนในเซเว่นเลย บีบี ไปบอกเอค่ะว่าเราจะรอเธออยู่ในเซเว่น เอได้ตอบกลับมาว่า ไกล้จะถึงแล้ว อยู่เซเว่นใช่ไหม เธอซื้อน้ำแดง2ขวด ซื้อลิปมันหรือลิปอะไรก็ได้ถ้ามีซื้อมา1อัน ตอนนั้นเราไม่ได้สงสัยอะไรค่ะก็ซื้อมา ซื้อเสร็จเราก็เดินออกมาจากเซเว่นค่ะ ตอนนั้นเวลาประมาณ 21.00กว่าๆเราจะต้องเข้างาน22.00 เวลาผ่านไป15นาที เอก็มาถึงค่ะและลงมาจากรถแท๊กซี่ก็รีบจับมือเราและรีบเข้างานเพราะมันเหลือเวลาไม่มากแล้วเอหันมาพูดกับเราว่า "เร็วๆเราต้องแวะชั้น10ก่อน" ตอนนั้นก็งงว่าทำไมเราถึงต้องแวะชั้น10 แต่ด้วยความรีบเลยไม่ได้ถามอะไรค่ะ อธิบายทางเข้าห้างก่อนนะคะ ข้างๆห้างจะมีลิฟแก้ว1ตัว สามารถขึ้นไปชั้น14ได้เลยแต่มันเป็นลิฟให้ลูกค้าเท่านั้นค่ะ และจะมีลิฟขนส่งมันสิ้นสุดที่ฉัน10และเราต้องไปต่ออีกลิฟ1เพื่อขึ้นไปยันชั้น14 ค่ะ โอเค ตัดมาที่ระหว่างรอลิฟค่ะ เราถามเอว่าที่นี้ทำงานกันเยอะไหม เอบอกว่าก็10กว่าคนแก เออนี่เดี๋ยวพอถึงชั้น10เธออย่าตกใจนะ เราต้องทำแบบนี้กันทุกวัน สิ้นเสียงเอพูดลิฟก็ดังขึ้น ทำให้เราไม่ได้ถามต่อว่าทำไม บรรยากาศในลิฟมันเงียบแล้วลิฟขนส่งมันฟิวแบบลิฟในหนังผีมากเราเองก็ก้มลงพิมบีบีคุยกับแฟน พอถึงชั้น10เอก็พูดขึ้นมาว่า เลิกเล่นโทรศัพย์ถึงแล้ว
จังหวะลิฟเปิดเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เราเงยหน้าขึ้นมอง เราคิดในใจจะมาทำไมก่อนวะชั้นนี้มันเป็นชั้นที่ไม่มีอะไรนอกจากบรรได้หนีไฟ พอก้าวขาออกไปจากลิฟ หันไปทางขวาเราตกใจจนอุทานออกมาเป็นคำหยาบ เอมันก็ขำ แล้วพูดว่าเดี๋ยวก็ชินเราก็พูดว่า แทนที่จะบอกกูก่อนหน้านี้ กูจะได้รับมือทัน สิ่งที่เราเห็นคือหุ่นผู้หญิงอยู่ในตู้กระจกผมยาว และอีกตู้กระจกนึงจะเอาไส้เก็บชุดไทยของหุ่นตัวนี้ ข้างๆหุ่นตัวนี้ก็จะมีโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะเตี้ยๆเพื่อว่างน้ำแดงและเครื่องสำอาง เอจุดธูปที่เตรียมมา ยื่นให้เรา1ดอก และเอ1ดอก เอบอกว่า นาว เรียกพี่เขาว่าพี่สาวนะ ขอให้เขาเมตตาและขอให้ลูกค้าให้พวงมาลัยเยอะๆ ขอได้เลยนะ เราก็ทำตามที่เอบอกใจตอนนั้นกลัวมากทุกอย่างมันเงียบมีแค่เราสองคนมันเงียบมากจริงๆ จากนั้นเราปักธูปลงไป แล้ววางลิปที่ซื้อมาลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วน เอก็เอาน้ำแดงวางบนโต๊ะ จากนั้นเอกดลิฟเพื่อขึ้นไปทำงานที่ชั้น14 ระหว่างรอลิฟเอบอกว่า พี่เขาโดนไฟคลอกตาย หนีออกไปไม่ได้ เลยถูกคลอกตายอยุ่ตรงนั้น มันชี้ไปตรงที่เรายืน ซ้ายมือห่างกับราวบรรไดหนีไฟไม่ถึง1เมตร เราหยิกแขนมันและพูดว่าค่อยเล่าเหอะ เรากลัวมาก พอลิฟมา มีเสียงอะไรหล่นจากตรงโต๊ะเครื่องแป้งเรากรี๊ดและรีบวิ่งเข้าลิฟไม่สนใจอะไรแล้ว เอมันบอกว่า ใจเย็นๆก่อน เราเลยพูดว่าจะให้ใจเย็นได้ไง พากุมาทำไรเนี้ย มันก็ขำเราเหมือนเดิม เพราะมันชินแต่เราเพื่งมาวันแรก โอเคถึงชั้น14ก็มีเสียงเพลง มีแสงสี มันแนะนำให้เรารู้จักกัปตันของที่นี่ชื่อพี่กลอย และก็ทำความรู้จักกับเพื่อนๆที่ทำงาค่ะ เราก็ทำงานกันปกติวันนั้นลูกค้าให้พวงมาลับนาวเยอะมากจริงๆค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนสนใจเรามากขนาดนี้ คืนนั้นที่ได้มาก็เกือบ6000 สมัยนั้นสำหรับเราคือเยอะมาก พอถึงเวลาเลิกงาน เราก็ไปเบิกเงินกับพี่กลอยค่ะ พี่กลอยก็แซวเราว่าแหมมว่าวันแรกก็เฮงเลยน้า เราเลยบอกว่า หนูไปขอพี่สาวที่ชั้น10มาค่ะ พี่กลอยมองหน้าและนิ่งไปสักพักและพูดกับเราไกล้ๆว่า และบอกเขาว่าอะไรถ้าได้เงินจะให้อะไรเขา เรานึกได้ว่าเออเราไม่ได้บอกเขานิว่าเราจะให้อะไรเขา พี่กลอยเลยบอกว่า ได้เงินมาเยอะขนาดนี้ ต้องจัดให้เขาสมน้ำสมเนื้อหน่อยนะลูก เราก็โอเคคิดไว้แล้วว่าจะซื้อที่พาเลทตาและที่ปัดแก้มให้ วันต่อมาเราก็ทำตามสัญญาค่ะ ซื้อมาให้พี่สาว ก็ทำงานแบบนี้ทุกคืนปกติค่ะ เริ่มชิน ผ่านไปประมาณ1ปีกว่าที่เราทำที่นี้ ก็มีคนเข้าออกจากงานบ่อยๆ เราก็เริ่มมีฐานลูกค้าประจำ วันนี้เราก็มาทำงานปกติเข้างานปกติ เพราะลูกค้าประจำจะมาหา เราต้องขึ้นลิฟทำงานคนเดียวค่ะเพราะเอมันไม่สบายเราก็เข้าไปซื้อน้ำแดงและของหวานในเซเว่น ขึ้นไปชั้น10ปกติค่ะตอนนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรแล้วเพราะตั้งแต่ทำวานมาไม่เคยเจอเราก็ไหว้ขอพี่สาวปกติ แล้วจู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งข้างๆ ความรู้สึกตอนนั้นกลัวขึ่นทันทีและคิดในใจทำให้เสร็จแล้วรีบๆไป เราก็วางของหวาน อะไรเรียบร้อย ก็จะกดลิฟขั้นไปทำงาน แต่กดยังไงก็กดไม่ได้คือมันไม่ขึ้นสีแดงอะค่ะเวลากดลิฟมันจะมีเสียงและสีขึ้นมาคิดในใจกูโดนเล่นแล้วแน่ๆ กดรัวๆอยู่แบบนั้นมือก็โทรศัพย์หาเอ มันก็ไม่รับ บีบีไปมันก็ไม่อ่าน ทำอะไรไม่ถูกทำได้แค่ก้มหน้าและกดลิฟแค่นั้นจริงๆ จนเอดทรกลับมา เราก็บอกว่าลิฟมันเป็นแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร คำตอบที่ไม่อยากฟังก็ได้เกิดขึ้น “อ่อลิฟมันเสียแน่เลยเดินขึ้นบรรไดหนีไฟเลยวนสองรอบก็ถึงแล้ว“ เราก็บอกว่าโอเคคุยเป็นเพื่อนกูก่อน ระหว่างที่กำลังหันลังเดินไปขึ้นบันไดหางตาเราเหมือนเห็นผู้หญืงใส่ชุดฟ้าๆเทาๆนั่งอยู่หัวบันไดทางลง เรารีบเดินขึ้นไม่สนใจไม่มองก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นบันไดเราก็ได้ยินเสียงแบบจังๆเลยว่า "
โครตร้อนเลยทำไมร้อยอย่างนี้ " แล้วไอเอที่คุยกับเราอยู่ในสาย มันพูดใส่เราว่ามันก็ร้อนแบบนี้แหละเพราะมันอับไม่มีลมไม่มีแอร์ก็รีบๆเดินขึ้นไปแล้วกันกุคุยกับกว่าจะถึง เราเลยหยุดและถอดรองเท้าส้นสูงออกเพราะเสียงดังและมันกล้อง เดินขึ้นตีนป่าวพอถึงฉัน12 ได้ยินเสียงพูดว่ารอกุด้วย ในใจเราคิดว่าอ่อพวกเพื่อนที่ขึ้นลิฟไม่ได้แน่เลย เราเลยบอกไอเอว่าโอเคนอนเหอะกูเจอเพื่อนที่จะขึ้นไปกะกุละเราก็วางสายมันไป เราได้ยินเสียงรองเท้ามันเดินขึ้นมาช้าเราก็เลยตะโกนไปว่า กูไปก่อนนะกูกลัวผี สิ้นเสียงเราพูด เสียงรองเท้าก็หยุดเดิน เรานิ่งสักพัก และตั้งสติ ตะโกนกลับไปอีกที กูจะไปจริงๆแล้วนะรีบเดินขึ้นมา แล้วเสียงมันก็กล้องเพราะเป็นบรรไดหนีไฟ แต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมาเรารีบวิ่งขึ้นไปเพราะวนอีก1ครั้งมันจะถึงที่ทำงานแล้ว จังหวะที่เราวิ่ง เราไม่ได้ใส่รองเท้า เราได้ยินเสียงผู้หญิงวิ่งไล่เรามา และพูดว่า กูทรมานกูร้อน ช่วยกูด้วยช่วยกู เสียงทุ้มใหญ่และหน้ากลัวมาก เราเปิดประตูหนี้ไฟเข้ามาเสร็จเราเจอแม่ครัวเราเข้าไปกอดเขาแล้วพูดว่าไม่อยากขึ้นชั้น10แล้วหนูกลัวป้าแล้วก็ร้องให้ ป้าแกไม่ได้มีถ้าทีตกใจและพูดกับเราว่า ทีหลังอย่าขึ้นมาคนเดียวถ้ามาคนเดียวให้ขอยามขข้างล่างขึ้นลิฟแก้วมา ตกใจล่ะสิป้าเองก็เคยโดนมาก่อน เขาใจดีเขาแค่อยากให้ทำบุญให้เขา เราตั้งสติอีกครั้ง แล้วยกมือไหว้แล้วพูดว่า หนูจะทำบุญไปให้พี่อย่ามาหาหนูแบบนี้อีกได้ไหม หลังจากวันนั้นเราทำงานเสร็จออกมาจากห้างก็เข้า รีบไปทำบุญ แล้วนึกถึงพี่เขาหลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจออีกเลย ขอโทษด้วยนะคะพอเดีเพิ่งหัดพิมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ติดขัดยังไงคอมเม้นมาได้นะคะ เรื่องของเราจบแล้วแต่พาทของเพื่อนเรามีต่อนะคะไว้มาเล่าให้ฟังไหม่ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ
ประวัติพี่สาวชั้น10
ต้องขอท้าวความไปเมื่อ11ปีก่อนนะคะ ตอนนั้น เราอายุ15ปี ทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยมากนักเราเลยต้องออกมาทำงานหาเงิน ด้วยตัวเองค่ะ
มีเพื่อนสนิทค่ะชื่อเอ แนะนำว่า สถานที่บรรเทิงแห่งนี้เปิดรับสมัครนักร้องกลางคืนและโคโยตี้ ซึ่งเพื่อนก็ทำอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ
เราเลยตัดสินใจว่าโอเคเราจะไปทำงานนี้กับเพื่อน
ต้องบอกสถานที่ที่ทำงานของเราก่อนนะคะ อยู่แถวเส้นปิ่นเกล้า ชื่อห้างเราไม่ขอเอ่ยนะคะ เราทำงานอยู่ชั้น14 ตอนแรกเรากลัวมากเพราะ ตอนกลางวัน
จังหวะลิฟเปิดเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เราเงยหน้าขึ้นมอง เราคิดในใจจะมาทำไมก่อนวะชั้นนี้มันเป็นชั้นที่ไม่มีอะไรนอกจากบรรได้หนีไฟ พอก้าวขาออกไปจากลิฟ หันไปทางขวาเราตกใจจนอุทานออกมาเป็นคำหยาบ เอมันก็ขำ แล้วพูดว่าเดี๋ยวก็ชินเราก็พูดว่า แทนที่จะบอกกูก่อนหน้านี้ กูจะได้รับมือทัน สิ่งที่เราเห็นคือหุ่นผู้หญิงอยู่ในตู้กระจกผมยาว และอีกตู้กระจกนึงจะเอาไส้เก็บชุดไทยของหุ่นตัวนี้ ข้างๆหุ่นตัวนี้ก็จะมีโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะเตี้ยๆเพื่อว่างน้ำแดงและเครื่องสำอาง เอจุดธูปที่เตรียมมา ยื่นให้เรา1ดอก และเอ1ดอก เอบอกว่า นาว เรียกพี่เขาว่าพี่สาวนะ ขอให้เขาเมตตาและขอให้ลูกค้าให้พวงมาลัยเยอะๆ ขอได้เลยนะ เราก็ทำตามที่เอบอกใจตอนนั้นกลัวมากทุกอย่างมันเงียบมีแค่เราสองคนมันเงียบมากจริงๆ จากนั้นเราปักธูปลงไป แล้ววางลิปที่ซื้อมาลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วน เอก็เอาน้ำแดงวางบนโต๊ะ จากนั้นเอกดลิฟเพื่อขึ้นไปทำงานที่ชั้น14 ระหว่างรอลิฟเอบอกว่า พี่เขาโดนไฟคลอกตาย หนีออกไปไม่ได้ เลยถูกคลอกตายอยุ่ตรงนั้น มันชี้ไปตรงที่เรายืน ซ้ายมือห่างกับราวบรรไดหนีไฟไม่ถึง1เมตร เราหยิกแขนมันและพูดว่าค่อยเล่าเหอะ เรากลัวมาก พอลิฟมา มีเสียงอะไรหล่นจากตรงโต๊ะเครื่องแป้งเรากรี๊ดและรีบวิ่งเข้าลิฟไม่สนใจอะไรแล้ว เอมันบอกว่า ใจเย็นๆก่อน เราเลยพูดว่าจะให้ใจเย็นได้ไง พากุมาทำไรเนี้ย มันก็ขำเราเหมือนเดิม เพราะมันชินแต่เราเพื่งมาวันแรก โอเคถึงชั้น14ก็มีเสียงเพลง มีแสงสี มันแนะนำให้เรารู้จักกัปตันของที่นี่ชื่อพี่กลอย และก็ทำความรู้จักกับเพื่อนๆที่ทำงาค่ะ เราก็ทำงานกันปกติวันนั้นลูกค้าให้พวงมาลับนาวเยอะมากจริงๆค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนสนใจเรามากขนาดนี้ คืนนั้นที่ได้มาก็เกือบ6000 สมัยนั้นสำหรับเราคือเยอะมาก พอถึงเวลาเลิกงาน เราก็ไปเบิกเงินกับพี่กลอยค่ะ พี่กลอยก็แซวเราว่าแหมมว่าวันแรกก็เฮงเลยน้า เราเลยบอกว่า หนูไปขอพี่สาวที่ชั้น10มาค่ะ พี่กลอยมองหน้าและนิ่งไปสักพักและพูดกับเราไกล้ๆว่า และบอกเขาว่าอะไรถ้าได้เงินจะให้อะไรเขา เรานึกได้ว่าเออเราไม่ได้บอกเขานิว่าเราจะให้อะไรเขา พี่กลอยเลยบอกว่า ได้เงินมาเยอะขนาดนี้ ต้องจัดให้เขาสมน้ำสมเนื้อหน่อยนะลูก เราก็โอเคคิดไว้แล้วว่าจะซื้อที่พาเลทตาและที่ปัดแก้มให้ วันต่อมาเราก็ทำตามสัญญาค่ะ ซื้อมาให้พี่สาว ก็ทำงานแบบนี้ทุกคืนปกติค่ะ เริ่มชิน ผ่านไปประมาณ1ปีกว่าที่เราทำที่นี้ ก็มีคนเข้าออกจากงานบ่อยๆ เราก็เริ่มมีฐานลูกค้าประจำ วันนี้เราก็มาทำงานปกติเข้างานปกติ เพราะลูกค้าประจำจะมาหา เราต้องขึ้นลิฟทำงานคนเดียวค่ะเพราะเอมันไม่สบายเราก็เข้าไปซื้อน้ำแดงและของหวานในเซเว่น ขึ้นไปชั้น10ปกติค่ะตอนนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรแล้วเพราะตั้งแต่ทำวานมาไม่เคยเจอเราก็ไหว้ขอพี่สาวปกติ แล้วจู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งข้างๆ ความรู้สึกตอนนั้นกลัวขึ่นทันทีและคิดในใจทำให้เสร็จแล้วรีบๆไป เราก็วางของหวาน อะไรเรียบร้อย ก็จะกดลิฟขั้นไปทำงาน แต่กดยังไงก็กดไม่ได้คือมันไม่ขึ้นสีแดงอะค่ะเวลากดลิฟมันจะมีเสียงและสีขึ้นมาคิดในใจกูโดนเล่นแล้วแน่ๆ กดรัวๆอยู่แบบนั้นมือก็โทรศัพย์หาเอ มันก็ไม่รับ บีบีไปมันก็ไม่อ่าน ทำอะไรไม่ถูกทำได้แค่ก้มหน้าและกดลิฟแค่นั้นจริงๆ จนเอดทรกลับมา เราก็บอกว่าลิฟมันเป็นแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร คำตอบที่ไม่อยากฟังก็ได้เกิดขึ้น “อ่อลิฟมันเสียแน่เลยเดินขึ้นบรรไดหนีไฟเลยวนสองรอบก็ถึงแล้ว“ เราก็บอกว่าโอเคคุยเป็นเพื่อนกูก่อน ระหว่างที่กำลังหันลังเดินไปขึ้นบันไดหางตาเราเหมือนเห็นผู้หญืงใส่ชุดฟ้าๆเทาๆนั่งอยู่หัวบันไดทางลง เรารีบเดินขึ้นไม่สนใจไม่มองก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นบันไดเราก็ได้ยินเสียงแบบจังๆเลยว่า "โครตร้อนเลยทำไมร้อยอย่างนี้ " แล้วไอเอที่คุยกับเราอยู่ในสาย มันพูดใส่เราว่ามันก็ร้อนแบบนี้แหละเพราะมันอับไม่มีลมไม่มีแอร์ก็รีบๆเดินขึ้นไปแล้วกันกุคุยกับกว่าจะถึง เราเลยหยุดและถอดรองเท้าส้นสูงออกเพราะเสียงดังและมันกล้อง เดินขึ้นตีนป่าวพอถึงฉัน12 ได้ยินเสียงพูดว่ารอกุด้วย ในใจเราคิดว่าอ่อพวกเพื่อนที่ขึ้นลิฟไม่ได้แน่เลย เราเลยบอกไอเอว่าโอเคนอนเหอะกูเจอเพื่อนที่จะขึ้นไปกะกุละเราก็วางสายมันไป เราได้ยินเสียงรองเท้ามันเดินขึ้นมาช้าเราก็เลยตะโกนไปว่า กูไปก่อนนะกูกลัวผี สิ้นเสียงเราพูด เสียงรองเท้าก็หยุดเดิน เรานิ่งสักพัก และตั้งสติ ตะโกนกลับไปอีกที กูจะไปจริงๆแล้วนะรีบเดินขึ้นมา แล้วเสียงมันก็กล้องเพราะเป็นบรรไดหนีไฟ แต่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมาเรารีบวิ่งขึ้นไปเพราะวนอีก1ครั้งมันจะถึงที่ทำงานแล้ว จังหวะที่เราวิ่ง เราไม่ได้ใส่รองเท้า เราได้ยินเสียงผู้หญิงวิ่งไล่เรามา และพูดว่า กูทรมานกูร้อน ช่วยกูด้วยช่วยกู เสียงทุ้มใหญ่และหน้ากลัวมาก เราเปิดประตูหนี้ไฟเข้ามาเสร็จเราเจอแม่ครัวเราเข้าไปกอดเขาแล้วพูดว่าไม่อยากขึ้นชั้น10แล้วหนูกลัวป้าแล้วก็ร้องให้ ป้าแกไม่ได้มีถ้าทีตกใจและพูดกับเราว่า ทีหลังอย่าขึ้นมาคนเดียวถ้ามาคนเดียวให้ขอยามขข้างล่างขึ้นลิฟแก้วมา ตกใจล่ะสิป้าเองก็เคยโดนมาก่อน เขาใจดีเขาแค่อยากให้ทำบุญให้เขา เราตั้งสติอีกครั้ง แล้วยกมือไหว้แล้วพูดว่า หนูจะทำบุญไปให้พี่อย่ามาหาหนูแบบนี้อีกได้ไหม หลังจากวันนั้นเราทำงานเสร็จออกมาจากห้างก็เข้า รีบไปทำบุญ แล้วนึกถึงพี่เขาหลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจออีกเลย ขอโทษด้วยนะคะพอเดีเพิ่งหัดพิมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง ติดขัดยังไงคอมเม้นมาได้นะคะ เรื่องของเราจบแล้วแต่พาทของเพื่อนเรามีต่อนะคะไว้มาเล่าให้ฟังไหม่ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ