อัจฉริยะ ยื่นโรม สอบ 3 เรื่องร้อน รวมหมูเถื่อน แย้มมีชื่อชัด คนรับใต้โต๊ะ ระดับล่างยันรมต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4319468
“อัจฉริยะ” หอบหลักฐานยื่น “โรม” สอบ “หมูเถื่อน-ส่งออกตีนไก่-เคลมภาษีน้ำมัน” บอกเอาตรงๆ ไม่มีเกรงใจกัน ยัน เอาผิดระดับผู้ใหญ่ได้ เผยข้าราชการ 3 กรมสารภาพหมดแล้ว ด้าน “โรม” งง “หมูเถื่อน” ทำไมยืดเยื้อ ทั้งที่เห็นแอคชั่นกันทุกฝ่าย เชื่อสาวถึงตัวใหญ่ได้ไม่ยาก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ รับหนังสือจาก นาย
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยนำหลักฐานร้องเรียนมามอบให้ ตรวจสอบใน 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต
โดย นาย
อัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนที่ตนมายื่นในวันนี้มี 3 ประเด็นคือ 1.การลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน โดยมีข้าราชการระดับกรม 3 กรมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะโยงไปถึงนักการเมืองบางคน โดยถือว่าคืบหน้าไปมาก 2.การสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ3.การส่งออกน้ำมันไปยังเมียนมาและวนกลับมาจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีการขอคืนภาษีแบบผิดกฎหมาย 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทำมาแล้ว 6 ปี เรื่องเหล่านี้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงผู้ประกอบการและเกษตรกร ประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นแสนล้านบาท
เมื่อถามว่า หลักฐานที่นำมาในวันนี้ สามารถเอาผิดอะไรได้บ้าง นาย
อัจฉริยะ กล่าวว่า สิ่งที่นำมามอบในวันนี้เป็นหลักฐานเบื้องต้น แต่หากวันที่กรรมาธิการเรียกชี้แจง ตนจะมีตัวบุคคลที่รับเงินใต้โต๊ะตั้งแต่ระดับล่างจนถึงอธิบดี และเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี ซึ่งตนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหลักฐานเรื่องหมูเถื่อนและตีนไก่
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า สามารถเอาผิดใครได้บ้าง นาย
อัจฉริยะ กล่าวว่า ถ้าเอาแบบจริงจัง ไม่มีเกรงใจกัน ก็ถึงกันหมดทุกคน เพราะหลักฐานทิ้งร่องรอยด้วยเอกสาร คนทำชิปปิ้งก็ให้การรับสารภาพแล้ว รวมถึงมีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมศุลกากรก็ให้การซักทอดไปถึงผู้ใหญ่หมดแล้ว ขณะนี้มีครบแล้ว
ขณะที่ นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องยอมรับว่า เรื่องหมูเถื่อนเป็นเรื่องที่ใหญ่ บางคนอาจจะมองว่า เป็นแค่เรื่องหมูไม่น่าจะมีอะไร แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องหมูเถื่อนไม่ได้มีแค่การลักลอบนำเข้ามาแบบผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงการบังคับใช้กฎหมายของเราว่ามีปัญหาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้หากเราไม่เอาผิดทางกฎหมายเราจะไม่มีทางรู้ว่า สินค้าทางการเกษตรที่เข้ามาสู่ไทยจะมีคุณภาพหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไทยหรือไม่ ยังไม่นับว่า อาจจะมีคนที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมือง เป็นคนสำคัญของบ้านเมือง เป็นคนที่มีชื่อเสียงของบ้านเมือง อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องอีกด้วย นอกจากนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรราคาหมูในประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรต่อไป
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เรื่องหมูเถื่อน จึงไม่ใช่แค่หมูเถื่อน แต่หมายความรวมถึงความหย่อนยานทางกฎหมาย ปัญหาทางสุขภาพ ปัญหาที่เกษตรกรอาจจะได้รับและอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงจะเอาเรื่องนี้เข้าหารือในกรรมาธิการ เพื่อที่จะได้มีการประชุมและจะพิจารณากันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของ กมธ.ฯ ค่อนข้างกว้างครอบคลุมหลายเรื่อง เราสามารถพิจารณาประเด็นเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศซึ่งเรื่องนี้หมูเถื่อน เมื่อพิจารณาแล้วอยู่ในส่วนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิบัติประเทศหรืออาจจะกระทบกระเทือนต่อกฎหมายเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะบรรจุเข้าพิจารณาได้ แต่ตนก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเข้าในขอบเขตไหนบ้าง จึงขอไปพิจารณา และปรึกษากันในกมธ.ฯก่อน
ส่วนกระบวนการการตรวจสอบหมูเถื่อนนั้น นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ค้างมาเป็นเวลานาน ซึ่งความจริงตนก็คิดคล้ายๆ กับนายอัจฉริยะ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากและน่าจะสาวไปถึงตัวการคนสำคัญได้หมด คำถามอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ และแปลกใจว่าทำไมถึงยื้อกันนานขนาดนี้ถ้าเรื่องไปถึงระดับ DSI และความพยายามแสดงออกของฝ่ายต่างๆเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว ถ้ามาถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ ระบบกฎหมายของเราจะมีใครเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่การสาวคนที่เกี่ยวข้อง แต่เราต้องมานั่งคิดว่ามีเจ้าหน้าที่ใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เราจะสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และก็จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่หมูเถื่อน ที่นายอัจฉริยะมายื่นในวันนี้ยังมีเรื่องตีนไก่ด้วย ก็ต้องตรวจสอบต่อไป ว่าจะมีใคร ที่จะเกี่ยวข้องกับกรณีนี้บ้าง ซึ่งเรื่องตีนไก่ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด จึงขอศึกษาและพูดคุยกับกรรมาธิการ เพื่อหาข้อสรุปก่อน
ส่วนในช่วงปีที่แล้วที่มีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในหมู แล้วรัฐปิดบังประชาชนทำให้การตรวจสอบหมูเถื่อนยืดเยื้อนั้น นายรังสิมัน กล่าวว่า หลักการสำคัญคือต้องให้ทำให้ประชาชนมีข้อมูล ประชาชนจึงสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นและรับมือและขั้นตอนต่อไปได้หากเกิดเหตุแบบนี้ แต่ปัญหาคือในช่วงเวลาที่มีโรคระบาด ประชาชนไม่รู้ว่าเจอกับอะไรและต้องรับมืออย่างไร ไม่ได้มีแผนสำรองมาตรการภาครัฐก็ไม่ชัดเจน
“
กระบวนการเหล่านี้เหมือนปล่อยให้ประชาชนที่เป็นเกษตรกรอยู่บนเรือ แล้วปล่อยให้อยู่กลางทะเล จะอยู่อย่างไร จะไปรอดหรือเปล่า ไม่มีทางรู้ ดังนั้น สิ่งสำคัญเมื่อเกิดปัญหาที่เป็นวิกฤตภาครัฐมีหน้าที่ที่จะต้องให้ความจริงกับประชาชน อย่าไปกังวลว่า ถ้าให้ข้อมูลไปแล้วจะมีผลกระทบในลักษณะที่มีความกังวลหรือไม่ เดี๋ยวจะมีผลกระทบต่อตลาดหรือไม่ บางครั้งหากมีวิกฤตเกิดขึ้นอย่าคิดว่าคนอื่น เขาไม่ทราบถ้าเราให้ข้อมูลกับประชาชนการเตรียมตัวต่างๆก็จะตามมาประชาชนก็จะได้รับมือได้นี่คือสิ่งที่ตนคิดว่าสำคัญและเป็นบทเรียนของกระทรวงเกษตรฯในรอบที่แล้ว ในการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆให้ทางทันท่วงที” นาย
รังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันธ์กับนายทุน มองว่าการตรวจสอบจะสาวไปถึงหรือไม่ นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าสุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้นำไปสู่การแก้ปัญหาจริงๆ คือการจัดการกับคนที่เรียกว่านายทุนหรือปลาตัวใหญ่ของเรื่องนี้ ถ้าไม่มีการจัดการไปถึงระดับนั้น สุดท้ายก็เป็นแค่การตัดตอน คำถามคือวันนี้เริ่มหมูเถื่อนจะจบแบบไหนจบแบบตัดตอน หรือสุดท้ายเป็นการแก้ปัญหาจริงๆที่จะนำไปสู่การทำให้การบังคับใช้กฎหมายของเราไม่หย่อนยานแบบที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่สำคัญ
โควิดขาขึ้น! "หมอมนูญ" ยกข้อมูลระบาดวิทยา พ.ย.เตือนแซงไข้หวัดใหญ่
https://siamrath.co.th/n/498364
วันที่ 7 ธ.ค.66 นพ.
มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุว่า...
ติดตามข้อมูลระบาดวิทยา รู้ทันว่ามีโรคไวรัสอะไรระบาดบ้าง
เดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)
เดือนที่แล้วพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 545 ราย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ดูกราฟ) พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เดือนที่แล้วเริ่มลดลงแต่ยังสูง 304 ราย (ดูกราฟ) เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) ลดลงเหลือ 33 ราย (ดูกราฟ) และเชื้ออาร์เอสวี (RSV) ลดลงเหลือ 17 ราย (ดูกราฟ)
พบโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เพิ่มขึ้นเป็น 46 ราย (ดูกราฟ) พบโรคชิคุนกุนยาหรือไข้ปวดข้อยุงลาย 4 ราย
โรคไวรัสโนโร (Noro) และโรตา (Rota) ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เดือนที่แล้วพบโนโรไวรัส 13 ราย ไม่พบโรตาไวรัส
การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19, ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกยังสูงอยู่ ไวรัสโควิด-19 กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กลับมาแซงหน้าไวรัสไข้หวัดใหญ่อีกครั้ง ไวรัส RSV และ hMPV อยู่ในช่วงขาลง
ช่วงนี้คนป่วยด้วยโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่เยอะมาก ขอให้ทุกคนยังควรใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เวลาอยู่ในที่มีผู้คนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี และในสถานพยาบาล เพื่อลดการแพร่เชื้อและการรับเชื้อโรคไวรัสทางเดินหายใจทุกชนิด
เดือนธันวาคมสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่นๆจะเป็นอย่างไร ติดตามรายงานเดือนหน้าครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=692825259617209&id=100066692243273
กำลังซื้ออีสาน ซบหนัก โชห่วย กัดฟันลดราคา ไขปริศนาทำไมเบียร์-ชูกำลัง ยอดขายตก
https://www.matichon.co.th/economy/news_4319213
กำลังซื้อ ‘อีสาน’ ซบหนัก ‘โชห่วย’ กัดฟันลดราคา ไขปริศนาทำไม ‘เบียร์-ชูกำลัง’ ยอดขายตก
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กำลังซื้อค้าปลีกในภาคอีสานโดยภาพรวมถดถอย ตามภาวะเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน ซึ่งสะท้อนจากยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคภายในร้าน ปัจจุบันยอดขายตกลง แต่จากการที่ทางร้านได้มีการจัดทำโปรโมชั่นลดราคามากขึ้น และอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางร้านยังคงจัด Local Low Cost ลดราคาสูงสุด 50% ต่อ จึงทำให้ยอดขายเสมอตัวกับปี 2565 เนื่องจากคนทางภาคอีสานยังซื้อสินค้าที่เป็นยี่ห้อดัง ทำให้มูลค่าขายสินค้ายังสูง แต่ยอดการซื้อทั้งในแง่ปริมาณและความถี่จะน้อยลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
“
สภาพโดยทั่วไปกำลังซื้อไม่ค่อยดี อาจจะเป็นเพราะราคาสินค้าเกษตรไม่ค่อยดี และภาคอีสานในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อนำไปขายในเดือนธันวาคม จะทำให้มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย เราก็คาดหวังว่าปลายปีนี้จะคึกคักขึ้นมาบ้าง” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันมีสินค้าที่เคยขายดีแต่ยอดตกลง มีหลายรายการ เช่น กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก เพราะคนประหยัดมากขึ้น ประกอบกับมีเด็กเกิดน้อยลง ส่วนของกินของใช้ยังพอไปได้ เพราะมีโปรโมชั่นลดราคาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะมาม่ายอดขายช่วงนี้ดีขึ้นมาก ทั้งนี้ มีบางสินค้าที่ลดลงค่อนข้างมาก คือ เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคนมีทางเลือกเพิ่ม โดยหันไปกินสินค้าทดแทนมากขึ้น เช่น น้ำกระท่อม ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อยอดขายเบียร์และเหล้าด้วย
JJNY : อัจฉริยะ ยื่นโรม สอบ 3 เรื่องร้อน│โควิดขาขึ้น! พ.ย. แซงไข้หวัดใหญ่│กำลังซื้ออีสาน ซบหนัก│ล้อมบ้านผู้นำฮามาส
https://www.matichon.co.th/politics/news_4319468
“อัจฉริยะ” หอบหลักฐานยื่น “โรม” สอบ “หมูเถื่อน-ส่งออกตีนไก่-เคลมภาษีน้ำมัน” บอกเอาตรงๆ ไม่มีเกรงใจกัน ยัน เอาผิดระดับผู้ใหญ่ได้ เผยข้าราชการ 3 กรมสารภาพหมดแล้ว ด้าน “โรม” งง “หมูเถื่อน” ทำไมยืดเยื้อ ทั้งที่เห็นแอคชั่นกันทุกฝ่าย เชื่อสาวถึงตัวใหญ่ได้ไม่ยาก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ รับหนังสือจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยนำหลักฐานร้องเรียนมามอบให้ ตรวจสอบใน 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต
โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนที่ตนมายื่นในวันนี้มี 3 ประเด็นคือ 1.การลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน โดยมีข้าราชการระดับกรม 3 กรมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะโยงไปถึงนักการเมืองบางคน โดยถือว่าคืบหน้าไปมาก 2.การสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ3.การส่งออกน้ำมันไปยังเมียนมาและวนกลับมาจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีการขอคืนภาษีแบบผิดกฎหมาย 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทำมาแล้ว 6 ปี เรื่องเหล่านี้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงผู้ประกอบการและเกษตรกร ประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นแสนล้านบาท
เมื่อถามว่า หลักฐานที่นำมาในวันนี้ สามารถเอาผิดอะไรได้บ้าง นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สิ่งที่นำมามอบในวันนี้เป็นหลักฐานเบื้องต้น แต่หากวันที่กรรมาธิการเรียกชี้แจง ตนจะมีตัวบุคคลที่รับเงินใต้โต๊ะตั้งแต่ระดับล่างจนถึงอธิบดี และเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี ซึ่งตนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหลักฐานเรื่องหมูเถื่อนและตีนไก่
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า สามารถเอาผิดใครได้บ้าง นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ถ้าเอาแบบจริงจัง ไม่มีเกรงใจกัน ก็ถึงกันหมดทุกคน เพราะหลักฐานทิ้งร่องรอยด้วยเอกสาร คนทำชิปปิ้งก็ให้การรับสารภาพแล้ว รวมถึงมีเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมศุลกากรก็ให้การซักทอดไปถึงผู้ใหญ่หมดแล้ว ขณะนี้มีครบแล้ว
ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องยอมรับว่า เรื่องหมูเถื่อนเป็นเรื่องที่ใหญ่ บางคนอาจจะมองว่า เป็นแค่เรื่องหมูไม่น่าจะมีอะไร แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องหมูเถื่อนไม่ได้มีแค่การลักลอบนำเข้ามาแบบผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงการบังคับใช้กฎหมายของเราว่ามีปัญหาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้หากเราไม่เอาผิดทางกฎหมายเราจะไม่มีทางรู้ว่า สินค้าทางการเกษตรที่เข้ามาสู่ไทยจะมีคุณภาพหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนไทยหรือไม่ ยังไม่นับว่า อาจจะมีคนที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมือง เป็นคนสำคัญของบ้านเมือง เป็นคนที่มีชื่อเสียงของบ้านเมือง อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องอีกด้วย นอกจากนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรราคาหมูในประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรต่อไป
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เรื่องหมูเถื่อน จึงไม่ใช่แค่หมูเถื่อน แต่หมายความรวมถึงความหย่อนยานทางกฎหมาย ปัญหาทางสุขภาพ ปัญหาที่เกษตรกรอาจจะได้รับและอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงจะเอาเรื่องนี้เข้าหารือในกรรมาธิการ เพื่อที่จะได้มีการประชุมและจะพิจารณากันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของ กมธ.ฯ ค่อนข้างกว้างครอบคลุมหลายเรื่อง เราสามารถพิจารณาประเด็นเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศซึ่งเรื่องนี้หมูเถื่อน เมื่อพิจารณาแล้วอยู่ในส่วนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิบัติประเทศหรืออาจจะกระทบกระเทือนต่อกฎหมายเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะบรรจุเข้าพิจารณาได้ แต่ตนก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเข้าในขอบเขตไหนบ้าง จึงขอไปพิจารณา และปรึกษากันในกมธ.ฯก่อน
ส่วนกระบวนการการตรวจสอบหมูเถื่อนนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ค้างมาเป็นเวลานาน ซึ่งความจริงตนก็คิดคล้ายๆ กับนายอัจฉริยะ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากและน่าจะสาวไปถึงตัวการคนสำคัญได้หมด คำถามอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ และแปลกใจว่าทำไมถึงยื้อกันนานขนาดนี้ถ้าเรื่องไปถึงระดับ DSI และความพยายามแสดงออกของฝ่ายต่างๆเรื่องนี้ควรจะจบได้แล้ว ถ้ามาถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ ระบบกฎหมายของเราจะมีใครเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่การสาวคนที่เกี่ยวข้อง แต่เราต้องมานั่งคิดว่ามีเจ้าหน้าที่ใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เราจะสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และก็จะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่หมูเถื่อน ที่นายอัจฉริยะมายื่นในวันนี้ยังมีเรื่องตีนไก่ด้วย ก็ต้องตรวจสอบต่อไป ว่าจะมีใคร ที่จะเกี่ยวข้องกับกรณีนี้บ้าง ซึ่งเรื่องตีนไก่ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด จึงขอศึกษาและพูดคุยกับกรรมาธิการ เพื่อหาข้อสรุปก่อน
ส่วนในช่วงปีที่แล้วที่มีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในหมู แล้วรัฐปิดบังประชาชนทำให้การตรวจสอบหมูเถื่อนยืดเยื้อนั้น นายรังสิมัน กล่าวว่า หลักการสำคัญคือต้องให้ทำให้ประชาชนมีข้อมูล ประชาชนจึงสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นและรับมือและขั้นตอนต่อไปได้หากเกิดเหตุแบบนี้ แต่ปัญหาคือในช่วงเวลาที่มีโรคระบาด ประชาชนไม่รู้ว่าเจอกับอะไรและต้องรับมืออย่างไร ไม่ได้มีแผนสำรองมาตรการภาครัฐก็ไม่ชัดเจน
“กระบวนการเหล่านี้เหมือนปล่อยให้ประชาชนที่เป็นเกษตรกรอยู่บนเรือ แล้วปล่อยให้อยู่กลางทะเล จะอยู่อย่างไร จะไปรอดหรือเปล่า ไม่มีทางรู้ ดังนั้น สิ่งสำคัญเมื่อเกิดปัญหาที่เป็นวิกฤตภาครัฐมีหน้าที่ที่จะต้องให้ความจริงกับประชาชน อย่าไปกังวลว่า ถ้าให้ข้อมูลไปแล้วจะมีผลกระทบในลักษณะที่มีความกังวลหรือไม่ เดี๋ยวจะมีผลกระทบต่อตลาดหรือไม่ บางครั้งหากมีวิกฤตเกิดขึ้นอย่าคิดว่าคนอื่น เขาไม่ทราบถ้าเราให้ข้อมูลกับประชาชนการเตรียมตัวต่างๆก็จะตามมาประชาชนก็จะได้รับมือได้นี่คือสิ่งที่ตนคิดว่าสำคัญและเป็นบทเรียนของกระทรวงเกษตรฯในรอบที่แล้ว ในการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆให้ทางทันท่วงที” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันธ์กับนายทุน มองว่าการตรวจสอบจะสาวไปถึงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าสุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้นำไปสู่การแก้ปัญหาจริงๆ คือการจัดการกับคนที่เรียกว่านายทุนหรือปลาตัวใหญ่ของเรื่องนี้ ถ้าไม่มีการจัดการไปถึงระดับนั้น สุดท้ายก็เป็นแค่การตัดตอน คำถามคือวันนี้เริ่มหมูเถื่อนจะจบแบบไหนจบแบบตัดตอน หรือสุดท้ายเป็นการแก้ปัญหาจริงๆที่จะนำไปสู่การทำให้การบังคับใช้กฎหมายของเราไม่หย่อนยานแบบที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่สำคัญ
โควิดขาขึ้น! "หมอมนูญ" ยกข้อมูลระบาดวิทยา พ.ย.เตือนแซงไข้หวัดใหญ่
https://siamrath.co.th/n/498364
วันที่ 7 ธ.ค.66 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุว่า...
ติดตามข้อมูลระบาดวิทยา รู้ทันว่ามีโรคไวรัสอะไรระบาดบ้าง
เดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)
เดือนที่แล้วพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 545 ราย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ดูกราฟ) พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เดือนที่แล้วเริ่มลดลงแต่ยังสูง 304 ราย (ดูกราฟ) เชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส (hMPV) ลดลงเหลือ 33 ราย (ดูกราฟ) และเชื้ออาร์เอสวี (RSV) ลดลงเหลือ 17 ราย (ดูกราฟ)
พบโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เพิ่มขึ้นเป็น 46 ราย (ดูกราฟ) พบโรคชิคุนกุนยาหรือไข้ปวดข้อยุงลาย 4 ราย
โรคไวรัสโนโร (Noro) และโรตา (Rota) ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เดือนที่แล้วพบโนโรไวรัส 13 ราย ไม่พบโรตาไวรัส
การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19, ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกยังสูงอยู่ ไวรัสโควิด-19 กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กลับมาแซงหน้าไวรัสไข้หวัดใหญ่อีกครั้ง ไวรัส RSV และ hMPV อยู่ในช่วงขาลง
ช่วงนี้คนป่วยด้วยโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่เยอะมาก ขอให้ทุกคนยังควรใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เวลาอยู่ในที่มีผู้คนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี และในสถานพยาบาล เพื่อลดการแพร่เชื้อและการรับเชื้อโรคไวรัสทางเดินหายใจทุกชนิด
เดือนธันวาคมสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่นๆจะเป็นอย่างไร ติดตามรายงานเดือนหน้าครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=692825259617209&id=100066692243273
กำลังซื้ออีสาน ซบหนัก โชห่วย กัดฟันลดราคา ไขปริศนาทำไมเบียร์-ชูกำลัง ยอดขายตก
https://www.matichon.co.th/economy/news_4319213
กำลังซื้อ ‘อีสาน’ ซบหนัก ‘โชห่วย’ กัดฟันลดราคา ไขปริศนาทำไม ‘เบียร์-ชูกำลัง’ ยอดขายตก
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กำลังซื้อค้าปลีกในภาคอีสานโดยภาพรวมถดถอย ตามภาวะเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน ซึ่งสะท้อนจากยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคภายในร้าน ปัจจุบันยอดขายตกลง แต่จากการที่ทางร้านได้มีการจัดทำโปรโมชั่นลดราคามากขึ้น และอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางร้านยังคงจัด Local Low Cost ลดราคาสูงสุด 50% ต่อ จึงทำให้ยอดขายเสมอตัวกับปี 2565 เนื่องจากคนทางภาคอีสานยังซื้อสินค้าที่เป็นยี่ห้อดัง ทำให้มูลค่าขายสินค้ายังสูง แต่ยอดการซื้อทั้งในแง่ปริมาณและความถี่จะน้อยลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
“สภาพโดยทั่วไปกำลังซื้อไม่ค่อยดี อาจจะเป็นเพราะราคาสินค้าเกษตรไม่ค่อยดี และภาคอีสานในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อนำไปขายในเดือนธันวาคม จะทำให้มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย เราก็คาดหวังว่าปลายปีนี้จะคึกคักขึ้นมาบ้าง” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันมีสินค้าที่เคยขายดีแต่ยอดตกลง มีหลายรายการ เช่น กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก เพราะคนประหยัดมากขึ้น ประกอบกับมีเด็กเกิดน้อยลง ส่วนของกินของใช้ยังพอไปได้ เพราะมีโปรโมชั่นลดราคาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะมาม่ายอดขายช่วงนี้ดีขึ้นมาก ทั้งนี้ มีบางสินค้าที่ลดลงค่อนข้างมาก คือ เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคนมีทางเลือกเพิ่ม โดยหันไปกินสินค้าทดแทนมากขึ้น เช่น น้ำกระท่อม ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อยอดขายเบียร์และเหล้าด้วย