สวัสดีค่ะตามชื่อหัวข้อเลย เราเป็นคนเชียงใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงค่ะ เเต่ถ้าว่างๆก็จะกลับบ้านเกิดตัวเองบ้างเป็นบางครั้ง เราคงต้องเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนมีเซ้นส์ในเรื่องผีเเละจับสังเกตได้ดีมากๆค่ะ บ้านเราที่อยู่เชียงใหม่ตอนเด็กมีอยู่หลังนึง เป็นบ้านไม้เรือนไทยที่ไม่เก่ามากค่ะออกเเนวค่อนข้างสวยเลย เราชอบไปว่งเล่นอยู่ที่นั่นบ่อยๆในช่วงปิดเทอมเเล้วอีกอย่างที่นั่นมีคุณยายคุณตาเเละคุณทวดอยู่ซึ่งเราชอบพวกเขามากๆค่ะเลยชอบไปเล่นด้วยบ่อยๆเเต่วันนั้นเราจำได้เเม่นเลยค่ะ เราหนีคุณตาไปเล่นในป่าเพราะความยังเด็กเเละยังอยากรู้อยากลอง ในวั้นนั้นเป็นคืนป่าปิดค่ะ เราเดินเข้าไปในป่าตอน 6 โมงเย็นได้ พอเราเดินเข้ามาเเล้วเราก็รู้สึกได้ถึงว่าป่านี้มันเเปลกๆเเต่พอจะหันหลังกลับไปเราก็ไม่เจอทางออกสะเเล้ว เราเลยต้องจำใจเดินไปเรื่อยๆประจวบเหมาะกับที่อากาศไม่ค่อยเป็นใจเสียสักเท่าไหร่ฝนก็เลยตกเเละตกหนักมาเราทำได้เเคเดินเข้าไปในป่าเรื่อยๆหาที่หลบฝนไปๆมาๆ เราจำได้ว่าเราหนาวมากเเละร้องไห้ไปด้วยตลอดทั้งทาง ท้องฟ้าก็เริ่มมืดเเสงจันทร์ก็เเทบส่องไม่ถึง ตอนนั้นเราติดว่าจะตายไปเเล้ว เราเเทบจะหยุดหายใจทุกครั้งที่เราเริ่มเดินต่อไปเป็นก้าวๆเราจำได้คร่าวๆว่าเราเดินไปจนถึงกลางป่าเลยล่ะค่ะ ตอนนั้นเราหิวโซเเละเริ่มง่วงถ้าจำไม่ผิดเราก็ได้เเต่หาที่นอนอยูตรงนั้นพอเราหลับตาลงเราได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเรา เรารู้สึกว่าจู่ๆก็มีคนได้อุ้มเราขึ้นมาเเละพาเราไปที่ไหนสักที่ เรารู้สึกได้เเค่นั้นเเล้วเราก็หลับไป ตื่นมาอีกทีเราก็อยู่ที่กระท่อมกลางป่าเเล้ว พร้อมมีอาหารที่คล้ายไข้าวต้มตั้งอยู่ที่หน้าเราก่อนที่จะมีผู้ชายวัยกลางคนเเต่ตัวเล็กๆเดินมาทางเราเเล้วบอกเราว่าให้กินอาหารที่เขาทำให้ก่อน เราไม่กล้ากินเขาเลยกินให้เราดูไม่วายกินอีกคำมห้เราดูอีก เราเลยเริ่มเอามากินบ้างด้วยความหิวที่เราไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืนเราก็โซ้ยหมดจาน เขาบอกว่าจะพาเราไปส่งที่หน้าทางเข้าป่า เราถามเขาว่าทำไมถึงไม่ไปส่งที่หมู่บ้านเลยเขาได้เเต่อ้ำอึ่งๆ เราไม่ได้ถามอะไรต่อไปเเต่เลือกที่จะจับมือเขาเเล้วขอให้เขาไปส่ง เราเดินมาจนถึงหน้าทางเข้าป่าเเล้วเขาก็บอกให้ปล่อยมือเขาไปเลย เราชวนเขาไปกินข้าวที่บ้านเเต่เขาก็ไม่ไปเขาบอกว่าเขาไปไม่ได้ เขาอยู่ที่นี่มาจะเป็นปีๆเเล้ว เราก็ได้เเต่สงสารเราเลยจำใจปล่อยมือเขาเเล้วโบกมือลาก่อนที่จะเดิมออกมาจากตรงนั้น เราจำได้ว่าเขาก็โบกมือลาเราจนลับสายตาเหมือนกัน พอเรากลับมาตาเราก็กลับบ้านพอดีรวมถึงยายเราด้วย เราจำได้ว่าที่เขาเห็นเราเขาวิ่งเข้ามากอดเราเเละกอดเเน่นมากๆพร้อมร้องไห้ตอนนั้นเราก็ร้องตามเพราะคิดถึงเขามากๆ หลังจากนั้นเราก้ไม่สามารถเข้าไปในป่านั้นได้อีกไม่ว่าจะโตเเล้วหรือเด็กเเล้วก็ตาเเต่บางครั้งเราก็เเอบหนีไปนะเเต่ไม่เข้าไปเหมือนเเต่ก่อนเเล้ว ทุกครั้งที่เราไปเรารู้สึกว่าเขานั้นกำลังมองเราอยู่เเต่เเค่เราไม่ได้สังเกตมากนักเพราะปกติตอนที่เราไปจะมืดเเล้ว ต่อมาป่านั้นก็ถูกปิดตายเพราะมีเด็กเข้าไปติดเเละออกมาไม่ได้อีกเลยพบอีกทีก็เป็นศพไปเเล้วชาวบ้านเลยเชื่อว่าจะต้องปิดป่าเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายอีก เราเลยไม่สามารถเข้าไปได้เลยนับตั้งเเต่นั้นเป้นต้นมา
เชียงใหม่ที่ตราตรึงใจ