สัญญาแห่งรัก 2 คุณหมอสร้างปรากฏการณ์รักแท้ เก็บร่างรอ 4 ปี สั่งเสียขอเผาร่วมกัน ครองรักทุกชาติไป ลูกสาวเผยทั้งคู่รักกันมากและไม่เคยห่างจากกันไปไหน แม้คุณแม่จะเสียก่อน แต่คุณพ่อก็ดูแลผ่านโลงเย็นถึง 4 ปี
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง เขตเทศบาลนครขอนแก่น สถานที่ที่กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ นพ.สุริยา รัตนปริญญา อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ อายุ 68 ปี และพญ.อัมพร รัตนปริญญา อดีตผอ.รพ.สมเด็จพยุพราชกระนวน อายุ 64 ปี โดยกำหนดให้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันตามการสั่งเสียของทั้งคู่ โดยมีคนในครอบครัว ร่วมกันต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและซ้อมพิธีการตามที่สำนักพระราชวังกำหนด
สัญญาแห่งรัก 2 คุณหมอสร้างปรากฏการณ์รักแท้ เก็บร่างรอ 4 ปี สั่งเสียขอเผาร่วมกัน ครองรักทุกชาติไป ลูกสาวเผยทั้งคู่รักกันมากและไม่เคยห่างจากกันไปไหน แม้คุณแม่จะเสียก่อน แต่คุณพ่อก็ดูแลผ่านโลงเย็นถึง 4 ปี
น.ส.กัญรดา รัตนปริญญา ลูกสาว กล่าวว่า การประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมและพิธีพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันในวันนี้ เกิดขึ้นจากความรักแท้ของคุณพ่อและคุณแม่ที่รักกันอย่างมาก ทั้งคู่ไม่เคยพรากจากกันไปไหน โดยคุณแม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมาตั้งแต่ช่วงรับราชการ โดยมีคุณพ่อพาไปรับการรักษาโดยตลอด จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2562 โดยคุณพ่อและครอบครัวเก็บร่างของคุณแม่ไว้ในโลงเย็นที่บ้านมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะทั้งคู่สั่งเสียไว้ว่าหากจากไปก็ขอให้ฌาปนกิจพร้อมกัน
“ตอนคุณแม่เสียชีวิตคุณพ่อไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน ครอบครัวทำใจไม่ได้ และด้วยการที่คุณพ่อรักคุณแม่มาก ก่อนหน้านั้นยังไม่กำหนดงานฌาปนกิจให้แม่ แต่พูดกับลูกหลานหรือคนรู้จัก โดยเฉพาะวงการแพทย์ขอนแก่าจะทราบกันว่าทั้งคู่อยากจะไปพร้อมกัน และฌาปนกิจพร้อมกัน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือ หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตไปได้ไม่กี่สัปดาห์ คุณพ่อไปตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเช่นกัน”
น.ส.กัญรดา กล่าวต่อว่า คุณแม่สั่งเสียไว้ว่าอยากให้เก็บร่างไว้และมีสัญญาใจกัน โดยเป็นไปได้อยากให้รอฌาปนกิจพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เชื่อว่าเป็นเรื่องราว ปาฏิหาริย์และรักแท้ของทั้งคู่ เพราะเมื่อไม่กี่เดือนพ่อมีอาการทรุดลง พ่อจึงแจ้งข่าวญาติ ลูกหลาน ว่าจะฌาปนกิจคุณแม่ก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเป็นอะไรไป จึงกำหนดจัดงานฌาปนกิจให้คุณแม่ในวันที่ 19 พ.ย.
“ปรากฏว่าพ่อมาทรุดเข้าโรงพยาบาลและตรงกับวันที่จะฌาปนกิจแม่พอดีและพ่อหมดลมหายใจไปในวันที่ 18 พ.ย. หลังเวลาเที่ยงคืนไปแล้วจะเป็นวันที่ 19 พ.ย.ตรงวันที่กำหนดพอดี แต่ได้รักษาปั๊มหัวใจและใช้ยา เพื่อให้พ่อยังมีลมหายใจเพราะลูกยังทำใจไม่ได้ และหลังจากนั้นพ่อได้จากไปในวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือปาฏิหาริย์ทำให้พ่อกับแม่ สมปราถนาจึงได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพขึ้นในวันนี้”
น.ส.กัญรดา กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องรักแท้ของทั้งคู่ 100% เพราะชื่อของพ่อคือ สุริยา ชื่อแม่คือ อัมพร ซึ่งความหมายคือ ท้องฟ้าและพระอาทิตย์ เพราะท่านเกิดมาคู่กันจริงๆ และท่านก็จะได้จากไปพร้อมกัน ตอนทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ท่านจะรักกันมาก จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่า โดยท่านทั้ง 2 ได้ทำคุณงามความดีให้กับกระทรวงสาธารณสุขในฐานะแพทย์ ใต้ร่มโพธิสมภาณของพระองค์ท่าน จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงพระราชทานโกศแปดเหลี่ยมคู่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในภาคอีสานและใน จ.ขอนแก่น และพระราชทานเพลิงศพในวันนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณให้กับครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
เครดิตจาก..ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7980676
สัญญาแห่งรัก 2คุณหมอสร้างปรากฏการณ์รักแท้ เก็บร่างรอ 4 ปี สั่งเสียขอเผาร่วมกัน
สัญญาแห่งรัก 2 คุณหมอสร้างปรากฏการณ์รักแท้ เก็บร่างรอ 4 ปี สั่งเสียขอเผาร่วมกัน ครองรักทุกชาติไป ลูกสาวเผยทั้งคู่รักกันมากและไม่เคยห่างจากกันไปไหน แม้คุณแม่จะเสียก่อน แต่คุณพ่อก็ดูแลผ่านโลงเย็นถึง 4 ปี
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง เขตเทศบาลนครขอนแก่น สถานที่ที่กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ นพ.สุริยา รัตนปริญญา อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ อายุ 68 ปี และพญ.อัมพร รัตนปริญญา อดีตผอ.รพ.สมเด็จพยุพราชกระนวน อายุ 64 ปี โดยกำหนดให้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันตามการสั่งเสียของทั้งคู่ โดยมีคนในครอบครัว ร่วมกันต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและซ้อมพิธีการตามที่สำนักพระราชวังกำหนด
สัญญาแห่งรัก 2 คุณหมอสร้างปรากฏการณ์รักแท้ เก็บร่างรอ 4 ปี สั่งเสียขอเผาร่วมกัน ครองรักทุกชาติไป ลูกสาวเผยทั้งคู่รักกันมากและไม่เคยห่างจากกันไปไหน แม้คุณแม่จะเสียก่อน แต่คุณพ่อก็ดูแลผ่านโลงเย็นถึง 4 ปี
น.ส.กัญรดา รัตนปริญญา ลูกสาว กล่าวว่า การประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมและพิธีพระราชทานเพลิงศพพร้อมกันในวันนี้ เกิดขึ้นจากความรักแท้ของคุณพ่อและคุณแม่ที่รักกันอย่างมาก ทั้งคู่ไม่เคยพรากจากกันไปไหน โดยคุณแม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมาตั้งแต่ช่วงรับราชการ โดยมีคุณพ่อพาไปรับการรักษาโดยตลอด จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2562 โดยคุณพ่อและครอบครัวเก็บร่างของคุณแม่ไว้ในโลงเย็นที่บ้านมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะทั้งคู่สั่งเสียไว้ว่าหากจากไปก็ขอให้ฌาปนกิจพร้อมกัน
“ตอนคุณแม่เสียชีวิตคุณพ่อไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน ครอบครัวทำใจไม่ได้ และด้วยการที่คุณพ่อรักคุณแม่มาก ก่อนหน้านั้นยังไม่กำหนดงานฌาปนกิจให้แม่ แต่พูดกับลูกหลานหรือคนรู้จัก โดยเฉพาะวงการแพทย์ขอนแก่าจะทราบกันว่าทั้งคู่อยากจะไปพร้อมกัน และฌาปนกิจพร้อมกัน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือ หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตไปได้ไม่กี่สัปดาห์ คุณพ่อไปตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเช่นกัน”
น.ส.กัญรดา กล่าวต่อว่า คุณแม่สั่งเสียไว้ว่าอยากให้เก็บร่างไว้และมีสัญญาใจกัน โดยเป็นไปได้อยากให้รอฌาปนกิจพร้อมกัน ก่อนหน้านี้เชื่อว่าเป็นเรื่องราว ปาฏิหาริย์และรักแท้ของทั้งคู่ เพราะเมื่อไม่กี่เดือนพ่อมีอาการทรุดลง พ่อจึงแจ้งข่าวญาติ ลูกหลาน ว่าจะฌาปนกิจคุณแม่ก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเป็นอะไรไป จึงกำหนดจัดงานฌาปนกิจให้คุณแม่ในวันที่ 19 พ.ย.
“ปรากฏว่าพ่อมาทรุดเข้าโรงพยาบาลและตรงกับวันที่จะฌาปนกิจแม่พอดีและพ่อหมดลมหายใจไปในวันที่ 18 พ.ย. หลังเวลาเที่ยงคืนไปแล้วจะเป็นวันที่ 19 พ.ย.ตรงวันที่กำหนดพอดี แต่ได้รักษาปั๊มหัวใจและใช้ยา เพื่อให้พ่อยังมีลมหายใจเพราะลูกยังทำใจไม่ได้ และหลังจากนั้นพ่อได้จากไปในวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือปาฏิหาริย์ทำให้พ่อกับแม่ สมปราถนาจึงได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพขึ้นในวันนี้”
น.ส.กัญรดา กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องรักแท้ของทั้งคู่ 100% เพราะชื่อของพ่อคือ สุริยา ชื่อแม่คือ อัมพร ซึ่งความหมายคือ ท้องฟ้าและพระอาทิตย์ เพราะท่านเกิดมาคู่กันจริงๆ และท่านก็จะได้จากไปพร้อมกัน ตอนทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่ท่านจะรักกันมาก จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่า โดยท่านทั้ง 2 ได้ทำคุณงามความดีให้กับกระทรวงสาธารณสุขในฐานะแพทย์ ใต้ร่มโพธิสมภาณของพระองค์ท่าน จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงพระราชทานโกศแปดเหลี่ยมคู่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในภาคอีสานและใน จ.ขอนแก่น และพระราชทานเพลิงศพในวันนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณให้กับครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
เครดิตจาก..ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7980676