ตอนที่ 14 วันพักผ่อนมาถึงแล้ว
วันนี้ผมกับปุ๊ตื่นนอนมาตามปกติ ปุ๊ตื่นก่อนเพื่อไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าว ผมตื่นทีหลังรู้ได้ทันทีว่าต้องตื่นแล้วเพราะกลิ่นอาหารที่หอมฉุยลอยขึ้นมาข้างบนผมจึงรีบลุกจากที่นอนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เดินเข้าไปหอมแก้มภรรยาสาวแสนสวยไปหนึ่งทีตอนนี้เธอไม่ตกใจแล้วเพราะรู้ว่าใคร
“ตื่นแล้วหรือคะคุณสามี” ปุ๊ทัก
“ตื่นเพราะกลิ่นอาหารของคุณนั่นแหล่ะครับ...ทำอะไรทานหรือจ้ะ” ผมถาม
“วันนี้ปุ๊ทำแกงหน่อไม้ น้ำพริกปลาร้าลวกผัก แล้วก็หมูคั่วเค็มคะ” ปุ๊ตอบ
“แกงหน่อไม้เหรอ...แล้วคุณใส่ผักอีเลิด(ใบชะพลู)รึป่าว” ผมถาม
“ใส่คะแต่ใส่ไปนิดเดียวกลัวคุณจะไม่ชอบ” ปุ๊ตอบ
“คุณรู้ไหมนั่นแหล่ะของโปรดผมเลยครับ...เดี๋ยวผมจะไปเก็บที่หลังบ้านเอง...เอามากินสดๆเลยก็ได้” ปุ๊หัวเราะกับอาการติงต๊องของผม และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเช้าผมกินอย่างเอร็ดอร่อยจนปุ๊แอบขำในท่าทางการกินของผม..ผมอิ่มแล้ว
“หนึ่ง...ปุ๊สังเกตท่าทางตอนคุณทานข้าว..ปุ๊ขำท่าทางตอนคุณกินเหมือนเด็กๆเลยนะ” ปุ๊ขำ
“จริงเหรอผมไม่รู้ตัวเลยเพียงแต่ผมมีความรู้สึกว่ากำลังกินข้าวที่แม่ผมทำให้กินหนะ..มันอร่อยมากจริงๆเหมือนแม่ทำให้กินเลย” ปุ๊ยิ้มชอบใจ
“หนึ่งอิ่มแล้วใช่ไหมเดี๋ยวปุ๊จะจัดการจานชามพวกนี้เองนะคะ..คุณไปรอข้างนอกก่อนนะ” ปุ๊บอกผม
“ได้จ้ะที่รัก” ผมเดินออกมาด้านหน้าสำนักงานเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า สุดชื่นจริงๆสักพักบุญถมก็มาถึง
“เฮ้ย..ไอ้ถมมาทำงานแต่เช้าเลยนะกินข้าวมารึยัง”
“กูกินมาแล้ว” แล้วไอ้ถมมันก็เดินเข้าสำนักงานทำโน้นทำนี่ตามประสาของมัน ปุ๊เสร็จภารกิจด้านห้องครัวแล้วก็ออกมาสมทบที่ด้านหน้า
“สวัสดีคะพี่บุญถม..มาแค่เช้าเลยนะ” ปุ๊ทักทายบุญถม
“ถ้ามาสายไอ้นี่มันจะบ่น” พูดแล้วก็ชำเลืองสายตามายังผม
“ปุ๊จ๋า..ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ” ผมถาม “แปดโมงครึ่งคะ” ปุ๊ตอบ
“ปุ๊จ๋าเราไปขี่รถเล่นในตัวอำเภอกันดีกว่า...ท่านถมกูขอยืมรถเครื่องของหน่อยซิเพื่อนกูจะไปเที่ยวเล่นในตัวอำเภอ..ส่วนเฝ้าสำนักงานไว้ถ้าพี่ทศกับพี่มดมาแล้วถามหากูให้บอกว่ากูไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอก็แล้วกันนะ..เข้าใจตามนี้นะ” ผมออกคำสั่ง
“เออ..แล้วกูจะบอกให้” บุญถมตอบ
“ขอบใจเพื่อน...ปุ๊จ๋าพร้อมรึยังไปกันเลย..ฮ้าๆๆๆ” ผมกับปุ๊เดินทางเข้าไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้ว เพื่อขอทราบข้อมูลว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้าสำนักงานตอนไหน แล้วก็ทราบว่าท่านปศุสัตว์อำเภอ จะเข้าสำนักงานช่วงบ่ายเพราะช่วงเช้าท่านมีประชุมที่จังหวัด ผมจึงเขียนโน้ตพร้อมเบอร์ไทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไปหนึ่งแผ่น เจ้าหน้าที่หยิบมาอ่าน
“น้องนี่น้องเป็นสัตวแพทย์เหรอ” เจ้าหน้าที่ถามผม
“ใช่ครับผมพึ่งเรียนจบครับ..พี่ครับผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยได้ไหมครับถ้าท่านปศุสัตว์อำเภอท่านเข้ามาแล้วรบกวนพี่โทร.บอกผมตามเบอร์ที่ให้ไว้นี่นะครับ ผมมีเรื่องสำคัญต้องการพบท่านจริงๆครับ เชื่อเหลือผมหน่อยนะครับ” ผมขอร้องอย่างสุภาพ
“อ๋อ..ได้ค่ะถ้าท่านมาแล้วพี่จะโทร.บอกนะคะ” เธอตอบด้วยความสุภาพเหมือนกัน
“ขอบคุณพี่มากเลยครับ..ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับสวัสดีครับพี่” หลังจากนั้นเวลาเหลือผมถามปุ๊ว่าอยากสำรวจในตัวอำเภอไหม
“ก็ไปซิคะคุณสามีจะรออะไรอยู่ล่ะคะ” และแล้วเราก็ออกสำรวจพื้นที่ในตัวอำเภอคำเขื่อนแก้วเป็นที่สนุกสนาน มีการแวะซื้อของกันบ้างเล็กน้อยส่วนมากจะเป็นของกินภรรยาผมชอบก็ต้องตามใจ แล้วผมก็ไปเจอร้านๆหนึ่งเป็นร้านชำค่อนข้างใหญ่ชื่อร้านกานดาผมจึงชวนปุ๊เข้าไปดูมีของขายมากมายผมเหลิบไปเห็นสินค้าประเภทกระเช้าของที่ระลึกวางเรียงรายกันอย่างมากมาย จึงเข้าไปถามเจ้าของร้าน...อ้าว!..เป็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เราเช่านั่นเอง
“เจ๊สวัสดีครับ” ผมทักทายเจ๊หันมามอง..
“อ้าวคุณนั่นเอง..เป็นยังไงบ้านเจ๊น่าอยู่ไหม” เจ๊ถาม
“น่าอยู่มากครับ..พอพวกเราทำความสะอาดแล้วก็ซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาตกแต่งแล้วช่วยกันจัดระเบียบแล้วดูดีน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยครับนี่ถ้าไม่ได้แฟนผมมาช่วยก็คงจะยุ่งน่าดู” ผมบอกเจ๊
“นี่แฟนคุณเหรอสวยจังเลยเหมาะสมกันจริงผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวย”
“ขอบคุณครับ...เจ๊ครับผมสนใจชุดกระเช้าของที่ระลึกที่วางอยู่บนชั้นนั่นหนะครับ เจ๊ขายอันละเท่าไหร่ครับผมอยากซื้อสักอันจะเอาไปฝากท่านปศุสัตว์อำเภอหนะครับ” ผมถาม
“จะเอาไปฝากท่านสุพจน์เหรอ..อย่างนั้นเอาไปเลยเจ๊ยกให้ฟรีเลยอยากได้อันไหนเลือกเอาไปเลย..ถือซะว่าเป็นของกำนัลจากเจ๊ที่พวกคุณมาเช่าบ้านเจ๊แถมจ่ายเงินล่วงหน้าตั้ง 3 เดือน” เจ๊ใจดี
“เจ๊ครับมันจะดีเหรอครับของซื้อของขายนะครับ” ผมทักท้าง
“เอาไปเถอะเจ๊เต็มใจ ยิ่งเจ๊รู้ว่าจะเอาไปฝากท่านสุพจน์แล้วเจ๊ยิ่งเต็มใจมากเลยนะ..ท่านสุพจน์ท่านเป็นคนดีน้า” เจ๊พูดจบ ผมกับปุ๊ก็ยกมือไหว้ขอบคุณ
“เออ..เจ๊ครับตอนนี้ผมยังเอาไปไม่ได้เพราะพวกผมขับรถมอเตอร์ไซค์มาเกรงว่าจะเอาไปไม่สะดวกหนะครับ..เอาอย่างนี้นะครับเจ๊เดี๋ยวผมจะบอกให้หัวหน้าของผมมาเอาก็แล้วกันเขามีรถยนต์..หัวหน้าผมก็คนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละครับ” เจ๊หัวเราะชอบใจแล้วบอกว่า
“จะมาเอาตอนไหนก็ได้เลยนะ..ส่วนของที่น้องคนสวยเขาถืออยู่ในมือนั่นหนะเจ๊แถมให้ไปเลยนะ” พูดจบเจ๊ก็หัวเราะลั่น แล้วเรา 2 คนก็ถือโอกาสกล่าวขอบคุณและสวัสดีแล้วเดินออกจากร้านมา เราใช้เวลาสำรวจในตัวอำเภอประมาณ 30 นาที
“ปุ๊จ๋าผมว่าเราควรกลับได้แล้วนะป่านนี้พวกพี่ๆเขาคงรอพวกเราแย่แล้ว” ผมชวนปุ๊กลับ
“ก็ได้กลับก็กลับ” ตอบแบบไม่พอใจ
“นี่คุณของเต็มมืออย่างนี้แล้วยังมีของฟรีจากเจ๊กานดาอีกยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“เช้อะ!!!” ปุ๊ทำทีเป็นงอน แล้วเราก็เดินทางกลับสำนักงาน ถึงสำนักงานพี่ทศทำหน้าเคร่งเครียด
“หายไปไหนมาตั้งนาน แล้วเรื่องปศุสัตว์อำเภอว่ายังไง” พี่ทศยิงคำถามอย่างตื่นเต้น
“เรื่องปศุสัตว์ไม่มีปัญหาหรอกเลขาฯเขาบอกผมว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้ามาช่วงบ่ายเนื่องจากช่วงเช้าท่านติดประชุมที่จังหวัด ผมให้เบอร์ไทร.ของพี่กับของมดไว้ให้เลขาฯของท่านแล้วเขาบอกว่าถ้าท่านมาจะโทร.มาบอก แล้วพี่ล่ะเตรียมของที่ระลึกไห้ท่านหรือยัง” ผมถาม
“ตายห่าแล้วกูลืมไป ไป...ไอ้ถมรีบไปหาซื้อกันเลย” ผมตะโกนไล่หลังไป
“พี่ทศเข้าไปในตลาดในตัวอำเภอนะแล้วถามหาร้านกานดาว่าอยู่ที่ไหนแล้วพี่จะเจอของที่พี่ต้องการในราคาที่ย่อมเยา” พี่มดได้ยินก็แปลกใจ
“หนึ่งเธอรู้ได้ยังไงว่าที่นั่นจะมีของที่พี่ทศต้องการหนะ”
“เดี๋ยวพี่ทศกลับมาพี่ก็รู้เองแหล่ะ...ว่าแต่เรื่องรายงานของพวกพี่ไปถึงไหนแล้ว...เสร็จพร้อมส่งรึยัง” ผมตอบและถามต่อ
“เสร็จเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง” พี่มดตอบ
“ดีครับพี่แต่ผมอยากให้พี่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนนะครับ” ผมบอก
“แบบนั้นมันก็ช้านะสิ” พี่มดข้องใจ
“ก็ผมอยากให้มันช้าๆเองนั่นแหล่ะ..กว่าจะถึงสำนักงานใหญ่อย่างเร็วก็ 2 วัน แล้วกว่าสำนักงานใหญ่จะพิจารณาแผนของพวกเราเสร็จเพื่อที่จะสั่งการให้เราจะดำเนินการอย่างไรต่ออย่างน้อยก็ 3 วัน แล้วคำสั่งจะมาถึงเราอย่างน้อยก็ 2 วัน..รวมระยะเวลาแล้วเราจะต้องรอรับคำสั่งประมาณ 1 อาทิตย์ครับถ้าผมคำนวณไม่ผิดนะ เดี๋ยวเรารอพวกพี่ทศกลับมาก่อนนะครับแล้วค่อยคุยกันอีกที” พวกเราก็นั่งคุยกันเพลินๆกันตามสบายไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมสังเกตเห็นพี่มดกับปุ๊คุยกันคุกๆคิกๆ ผมเดาว่าตั้งคุยเรื่องของผมแน่นอนเพราะผมฟังไม่ค่อยถนัดเพราะพวกเขาเว้าลาวกัน แล้วรถของพี่ทศก็รีบเข้ามาจอด พี่ทศลงมาจากรถแล้วตรงมาหาผมมองหน้าผมแล้วก็เข้ามากอด ผมตกใจเล็กน้อย
“พี่มากอดผมทำไม” ผมพูด
“ทำได้ยังไงวะ..ที่ทำให้เจ๊กานดามอบของที่ระลึกให้มาฟรีๆนี่หนะ” พี่ทศถามอย่างตื่นเต้น
“เอาอย่างนี้นะครับทุกคนเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะครับ ผมกับปุ๊ไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอมา เมื่อเสร็จธุระแล้วเราก็พากันสำรวจในตัวอำเภอแล้วบังเอิญเจออยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่พอสมควรผมก็เลยชวนปุ๊เข้าไปดูว่าอาจจะมีของใช้ที่เราต้องการระหว่างเดินดูสินค้า ผมก็เหลิบไปเห็นกระเช้าของที่ระลึกอย่างมากมาย ผมก็เดินไปถามเจ้าของร้าน พอเจ้าร้านเห็นผมก็จำได้ก็ทักทายกันอยู่นานพอสมควรแล้วผมก็บอกว่าผมอยากได้ของที่ระลึกไปให้ท่านปศุสัตว์อำเภอเท่านั้นแหละ พอเจ้าของร้านรู้ว่าจะเอาไปให้ใครเค้าก็เลยยกให้ฟรีๆเลยผมก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน แต่ผมขับรถเครื่องไปเอามาไม่สะดวกเลยบอกเจ๊กานดาว่าเดี๋ยวผมจะให้หัวหน้าผมมาเอาเพราะเขามีรถยนต์หัวหน้าผมคนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละ..เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ผมเล่าให้ทุกคนฟัง
“ถือว่าวันนี้เราโชคดีโชคเข้าข้างเรา...เพราะฉะนั้นงานกับปศุสัตว์อำเภอในวันนี้ต้องผ่านฉลุยแน่นอนผมรับประกัน” ผมพูดจบแล้วแต่มีเสียงมาจากพี่ทศพูดขึ้นบอกว่า
“เจ๊การดาเขาบอกกูว่า..ลูกน้องของคุณคนนี้ทั้งหล่อทั้งเก่ง พูดจาฉะฉานมีเหตุมีผล อัธยาศัยดีอ่อนน้อมถ่มตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่ต่อไปต้องเจริญก้าวหน้าแน่นอน แถมแฟนของเขาก็สวยกิริยามารยาทก็ดี ทั้งสองเหมาะกันจริงๆ” พี่ทศเล่าให้ฟ้ง แล้วก็มีเสียงฮือฮากันเกิดขึ้น
“เอาเถอะครับทุกคนผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า..ตอนนี้ผมว่าทุกคนควรเตรียมตัวเข้าพบท่านปศุสัตว์อำเภอได้แล้วนะครับ...พี่ทศและทุกคนตามแผนนะครับ” ทุกคนรับทราบ แล้วผมก็เอนตัวลงนอนพักแล้วหลับไปไม่รู้กี่นาที...แล้วก็สะดุ้งเมื่อปุ๊มาปลุก
“ที่รักคุณคงเหนื่อยมากซินะ..ลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะคะ...ทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเค้าโทรมาบอกว่าท่านปศุสัตว์อำเภอเข้ามาแล้วและตอนนี้ท่านกำลังรอคุณอยู่” ปุ๊บอกผม
“อ้าวจริงๆซินะ...งานเข้าอีกแล้วกูให้ท่านปศุสัตว์อำเภอรอ” ผมตื่นเต้น
“อย่าพึ่งบ่นเลยน่ารีบไปเร็วๆเถอะคะ” ปุ๊บอก
“ปุ๊จ๋าขนมที่ยังไม่แกะมีสักห่อไหม” ผมถามปุ๊
“มีคะจะเอาไปทำไมเหรอคะ” ปุ๊สงสัย
“เออน่าเดี๋ยวคุณก็รูเองแหละ” พวกเราพากันมาถึงหน้าสำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้วแล้วผมเดินนำเข้าไป ไปพบกับหญิงสาวเลขาฯพอเธอแลเห็นผมก็รีบเข้ามาทักทายในทันที
“คุณหมอเชิญทางนี้เลยคะท่านกำลังรออยู่”
“เดี๋ยวพี่รอก่อนครับ...ปุ๊จ๋าเอาขนมมาเร็ว” ปุ๊ยื่นให้ผม
“พี่คนสวยครับถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากพวกเราก็แล้วกันนะครับที่พี่ช่วยเหลือพวกเรา” เธอยิ้มอย่างดีใจแล้วก็ยื่นมือมารับกล่าวว่า
(มีต่อครับ)
เด็กเทพวัดไผ่ตัน The Hero From Phaitan Temple ตอนที่ 14
“ตื่นแล้วหรือคะคุณสามี” ปุ๊ทัก
“ตื่นเพราะกลิ่นอาหารของคุณนั่นแหล่ะครับ...ทำอะไรทานหรือจ้ะ” ผมถาม
“วันนี้ปุ๊ทำแกงหน่อไม้ น้ำพริกปลาร้าลวกผัก แล้วก็หมูคั่วเค็มคะ” ปุ๊ตอบ
“แกงหน่อไม้เหรอ...แล้วคุณใส่ผักอีเลิด(ใบชะพลู)รึป่าว” ผมถาม
“ใส่คะแต่ใส่ไปนิดเดียวกลัวคุณจะไม่ชอบ” ปุ๊ตอบ
“คุณรู้ไหมนั่นแหล่ะของโปรดผมเลยครับ...เดี๋ยวผมจะไปเก็บที่หลังบ้านเอง...เอามากินสดๆเลยก็ได้” ปุ๊หัวเราะกับอาการติงต๊องของผม และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเช้าผมกินอย่างเอร็ดอร่อยจนปุ๊แอบขำในท่าทางการกินของผม..ผมอิ่มแล้ว
“หนึ่ง...ปุ๊สังเกตท่าทางตอนคุณทานข้าว..ปุ๊ขำท่าทางตอนคุณกินเหมือนเด็กๆเลยนะ” ปุ๊ขำ
“จริงเหรอผมไม่รู้ตัวเลยเพียงแต่ผมมีความรู้สึกว่ากำลังกินข้าวที่แม่ผมทำให้กินหนะ..มันอร่อยมากจริงๆเหมือนแม่ทำให้กินเลย” ปุ๊ยิ้มชอบใจ
“หนึ่งอิ่มแล้วใช่ไหมเดี๋ยวปุ๊จะจัดการจานชามพวกนี้เองนะคะ..คุณไปรอข้างนอกก่อนนะ” ปุ๊บอกผม
“ได้จ้ะที่รัก” ผมเดินออกมาด้านหน้าสำนักงานเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า สุดชื่นจริงๆสักพักบุญถมก็มาถึง
“เฮ้ย..ไอ้ถมมาทำงานแต่เช้าเลยนะกินข้าวมารึยัง”
“กูกินมาแล้ว” แล้วไอ้ถมมันก็เดินเข้าสำนักงานทำโน้นทำนี่ตามประสาของมัน ปุ๊เสร็จภารกิจด้านห้องครัวแล้วก็ออกมาสมทบที่ด้านหน้า
“สวัสดีคะพี่บุญถม..มาแค่เช้าเลยนะ” ปุ๊ทักทายบุญถม
“ถ้ามาสายไอ้นี่มันจะบ่น” พูดแล้วก็ชำเลืองสายตามายังผม
“ปุ๊จ๋า..ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ” ผมถาม “แปดโมงครึ่งคะ” ปุ๊ตอบ
“ปุ๊จ๋าเราไปขี่รถเล่นในตัวอำเภอกันดีกว่า...ท่านถมกูขอยืมรถเครื่องของหน่อยซิเพื่อนกูจะไปเที่ยวเล่นในตัวอำเภอ..ส่วนเฝ้าสำนักงานไว้ถ้าพี่ทศกับพี่มดมาแล้วถามหากูให้บอกว่ากูไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอก็แล้วกันนะ..เข้าใจตามนี้นะ” ผมออกคำสั่ง
“เออ..แล้วกูจะบอกให้” บุญถมตอบ
“ขอบใจเพื่อน...ปุ๊จ๋าพร้อมรึยังไปกันเลย..ฮ้าๆๆๆ” ผมกับปุ๊เดินทางเข้าไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้ว เพื่อขอทราบข้อมูลว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้าสำนักงานตอนไหน แล้วก็ทราบว่าท่านปศุสัตว์อำเภอ จะเข้าสำนักงานช่วงบ่ายเพราะช่วงเช้าท่านมีประชุมที่จังหวัด ผมจึงเขียนโน้ตพร้อมเบอร์ไทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไปหนึ่งแผ่น เจ้าหน้าที่หยิบมาอ่าน
“น้องนี่น้องเป็นสัตวแพทย์เหรอ” เจ้าหน้าที่ถามผม
“ใช่ครับผมพึ่งเรียนจบครับ..พี่ครับผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยได้ไหมครับถ้าท่านปศุสัตว์อำเภอท่านเข้ามาแล้วรบกวนพี่โทร.บอกผมตามเบอร์ที่ให้ไว้นี่นะครับ ผมมีเรื่องสำคัญต้องการพบท่านจริงๆครับ เชื่อเหลือผมหน่อยนะครับ” ผมขอร้องอย่างสุภาพ
“อ๋อ..ได้ค่ะถ้าท่านมาแล้วพี่จะโทร.บอกนะคะ” เธอตอบด้วยความสุภาพเหมือนกัน
“ขอบคุณพี่มากเลยครับ..ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับสวัสดีครับพี่” หลังจากนั้นเวลาเหลือผมถามปุ๊ว่าอยากสำรวจในตัวอำเภอไหม
“ก็ไปซิคะคุณสามีจะรออะไรอยู่ล่ะคะ” และแล้วเราก็ออกสำรวจพื้นที่ในตัวอำเภอคำเขื่อนแก้วเป็นที่สนุกสนาน มีการแวะซื้อของกันบ้างเล็กน้อยส่วนมากจะเป็นของกินภรรยาผมชอบก็ต้องตามใจ แล้วผมก็ไปเจอร้านๆหนึ่งเป็นร้านชำค่อนข้างใหญ่ชื่อร้านกานดาผมจึงชวนปุ๊เข้าไปดูมีของขายมากมายผมเหลิบไปเห็นสินค้าประเภทกระเช้าของที่ระลึกวางเรียงรายกันอย่างมากมาย จึงเข้าไปถามเจ้าของร้าน...อ้าว!..เป็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เราเช่านั่นเอง
“เจ๊สวัสดีครับ” ผมทักทายเจ๊หันมามอง..
“อ้าวคุณนั่นเอง..เป็นยังไงบ้านเจ๊น่าอยู่ไหม” เจ๊ถาม
“น่าอยู่มากครับ..พอพวกเราทำความสะอาดแล้วก็ซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาตกแต่งแล้วช่วยกันจัดระเบียบแล้วดูดีน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยครับนี่ถ้าไม่ได้แฟนผมมาช่วยก็คงจะยุ่งน่าดู” ผมบอกเจ๊
“นี่แฟนคุณเหรอสวยจังเลยเหมาะสมกันจริงผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวย”
“ขอบคุณครับ...เจ๊ครับผมสนใจชุดกระเช้าของที่ระลึกที่วางอยู่บนชั้นนั่นหนะครับ เจ๊ขายอันละเท่าไหร่ครับผมอยากซื้อสักอันจะเอาไปฝากท่านปศุสัตว์อำเภอหนะครับ” ผมถาม
“จะเอาไปฝากท่านสุพจน์เหรอ..อย่างนั้นเอาไปเลยเจ๊ยกให้ฟรีเลยอยากได้อันไหนเลือกเอาไปเลย..ถือซะว่าเป็นของกำนัลจากเจ๊ที่พวกคุณมาเช่าบ้านเจ๊แถมจ่ายเงินล่วงหน้าตั้ง 3 เดือน” เจ๊ใจดี
“เจ๊ครับมันจะดีเหรอครับของซื้อของขายนะครับ” ผมทักท้าง
“เอาไปเถอะเจ๊เต็มใจ ยิ่งเจ๊รู้ว่าจะเอาไปฝากท่านสุพจน์แล้วเจ๊ยิ่งเต็มใจมากเลยนะ..ท่านสุพจน์ท่านเป็นคนดีน้า” เจ๊พูดจบ ผมกับปุ๊ก็ยกมือไหว้ขอบคุณ
“เออ..เจ๊ครับตอนนี้ผมยังเอาไปไม่ได้เพราะพวกผมขับรถมอเตอร์ไซค์มาเกรงว่าจะเอาไปไม่สะดวกหนะครับ..เอาอย่างนี้นะครับเจ๊เดี๋ยวผมจะบอกให้หัวหน้าของผมมาเอาก็แล้วกันเขามีรถยนต์..หัวหน้าผมก็คนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละครับ” เจ๊หัวเราะชอบใจแล้วบอกว่า
“จะมาเอาตอนไหนก็ได้เลยนะ..ส่วนของที่น้องคนสวยเขาถืออยู่ในมือนั่นหนะเจ๊แถมให้ไปเลยนะ” พูดจบเจ๊ก็หัวเราะลั่น แล้วเรา 2 คนก็ถือโอกาสกล่าวขอบคุณและสวัสดีแล้วเดินออกจากร้านมา เราใช้เวลาสำรวจในตัวอำเภอประมาณ 30 นาที
“ปุ๊จ๋าผมว่าเราควรกลับได้แล้วนะป่านนี้พวกพี่ๆเขาคงรอพวกเราแย่แล้ว” ผมชวนปุ๊กลับ
“ก็ได้กลับก็กลับ” ตอบแบบไม่พอใจ
“นี่คุณของเต็มมืออย่างนี้แล้วยังมีของฟรีจากเจ๊กานดาอีกยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“เช้อะ!!!” ปุ๊ทำทีเป็นงอน แล้วเราก็เดินทางกลับสำนักงาน ถึงสำนักงานพี่ทศทำหน้าเคร่งเครียด
“หายไปไหนมาตั้งนาน แล้วเรื่องปศุสัตว์อำเภอว่ายังไง” พี่ทศยิงคำถามอย่างตื่นเต้น
“เรื่องปศุสัตว์ไม่มีปัญหาหรอกเลขาฯเขาบอกผมว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้ามาช่วงบ่ายเนื่องจากช่วงเช้าท่านติดประชุมที่จังหวัด ผมให้เบอร์ไทร.ของพี่กับของมดไว้ให้เลขาฯของท่านแล้วเขาบอกว่าถ้าท่านมาจะโทร.มาบอก แล้วพี่ล่ะเตรียมของที่ระลึกไห้ท่านหรือยัง” ผมถาม
“ตายห่าแล้วกูลืมไป ไป...ไอ้ถมรีบไปหาซื้อกันเลย” ผมตะโกนไล่หลังไป
“พี่ทศเข้าไปในตลาดในตัวอำเภอนะแล้วถามหาร้านกานดาว่าอยู่ที่ไหนแล้วพี่จะเจอของที่พี่ต้องการในราคาที่ย่อมเยา” พี่มดได้ยินก็แปลกใจ
“หนึ่งเธอรู้ได้ยังไงว่าที่นั่นจะมีของที่พี่ทศต้องการหนะ”
“เดี๋ยวพี่ทศกลับมาพี่ก็รู้เองแหล่ะ...ว่าแต่เรื่องรายงานของพวกพี่ไปถึงไหนแล้ว...เสร็จพร้อมส่งรึยัง” ผมตอบและถามต่อ
“เสร็จเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง” พี่มดตอบ
“ดีครับพี่แต่ผมอยากให้พี่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนนะครับ” ผมบอก
“แบบนั้นมันก็ช้านะสิ” พี่มดข้องใจ
“ก็ผมอยากให้มันช้าๆเองนั่นแหล่ะ..กว่าจะถึงสำนักงานใหญ่อย่างเร็วก็ 2 วัน แล้วกว่าสำนักงานใหญ่จะพิจารณาแผนของพวกเราเสร็จเพื่อที่จะสั่งการให้เราจะดำเนินการอย่างไรต่ออย่างน้อยก็ 3 วัน แล้วคำสั่งจะมาถึงเราอย่างน้อยก็ 2 วัน..รวมระยะเวลาแล้วเราจะต้องรอรับคำสั่งประมาณ 1 อาทิตย์ครับถ้าผมคำนวณไม่ผิดนะ เดี๋ยวเรารอพวกพี่ทศกลับมาก่อนนะครับแล้วค่อยคุยกันอีกที” พวกเราก็นั่งคุยกันเพลินๆกันตามสบายไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมสังเกตเห็นพี่มดกับปุ๊คุยกันคุกๆคิกๆ ผมเดาว่าตั้งคุยเรื่องของผมแน่นอนเพราะผมฟังไม่ค่อยถนัดเพราะพวกเขาเว้าลาวกัน แล้วรถของพี่ทศก็รีบเข้ามาจอด พี่ทศลงมาจากรถแล้วตรงมาหาผมมองหน้าผมแล้วก็เข้ามากอด ผมตกใจเล็กน้อย
“พี่มากอดผมทำไม” ผมพูด
“ทำได้ยังไงวะ..ที่ทำให้เจ๊กานดามอบของที่ระลึกให้มาฟรีๆนี่หนะ” พี่ทศถามอย่างตื่นเต้น
“เอาอย่างนี้นะครับทุกคนเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะครับ ผมกับปุ๊ไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอมา เมื่อเสร็จธุระแล้วเราก็พากันสำรวจในตัวอำเภอแล้วบังเอิญเจออยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่พอสมควรผมก็เลยชวนปุ๊เข้าไปดูว่าอาจจะมีของใช้ที่เราต้องการระหว่างเดินดูสินค้า ผมก็เหลิบไปเห็นกระเช้าของที่ระลึกอย่างมากมาย ผมก็เดินไปถามเจ้าของร้าน พอเจ้าร้านเห็นผมก็จำได้ก็ทักทายกันอยู่นานพอสมควรแล้วผมก็บอกว่าผมอยากได้ของที่ระลึกไปให้ท่านปศุสัตว์อำเภอเท่านั้นแหละ พอเจ้าของร้านรู้ว่าจะเอาไปให้ใครเค้าก็เลยยกให้ฟรีๆเลยผมก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน แต่ผมขับรถเครื่องไปเอามาไม่สะดวกเลยบอกเจ๊กานดาว่าเดี๋ยวผมจะให้หัวหน้าผมมาเอาเพราะเขามีรถยนต์หัวหน้าผมคนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละ..เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ผมเล่าให้ทุกคนฟัง
“ถือว่าวันนี้เราโชคดีโชคเข้าข้างเรา...เพราะฉะนั้นงานกับปศุสัตว์อำเภอในวันนี้ต้องผ่านฉลุยแน่นอนผมรับประกัน” ผมพูดจบแล้วแต่มีเสียงมาจากพี่ทศพูดขึ้นบอกว่า
“เจ๊การดาเขาบอกกูว่า..ลูกน้องของคุณคนนี้ทั้งหล่อทั้งเก่ง พูดจาฉะฉานมีเหตุมีผล อัธยาศัยดีอ่อนน้อมถ่มตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่ต่อไปต้องเจริญก้าวหน้าแน่นอน แถมแฟนของเขาก็สวยกิริยามารยาทก็ดี ทั้งสองเหมาะกันจริงๆ” พี่ทศเล่าให้ฟ้ง แล้วก็มีเสียงฮือฮากันเกิดขึ้น
“เอาเถอะครับทุกคนผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า..ตอนนี้ผมว่าทุกคนควรเตรียมตัวเข้าพบท่านปศุสัตว์อำเภอได้แล้วนะครับ...พี่ทศและทุกคนตามแผนนะครับ” ทุกคนรับทราบ แล้วผมก็เอนตัวลงนอนพักแล้วหลับไปไม่รู้กี่นาที...แล้วก็สะดุ้งเมื่อปุ๊มาปลุก
“ที่รักคุณคงเหนื่อยมากซินะ..ลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะคะ...ทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเค้าโทรมาบอกว่าท่านปศุสัตว์อำเภอเข้ามาแล้วและตอนนี้ท่านกำลังรอคุณอยู่” ปุ๊บอกผม
“อ้าวจริงๆซินะ...งานเข้าอีกแล้วกูให้ท่านปศุสัตว์อำเภอรอ” ผมตื่นเต้น
“อย่าพึ่งบ่นเลยน่ารีบไปเร็วๆเถอะคะ” ปุ๊บอก
“ปุ๊จ๋าขนมที่ยังไม่แกะมีสักห่อไหม” ผมถามปุ๊
“มีคะจะเอาไปทำไมเหรอคะ” ปุ๊สงสัย
“เออน่าเดี๋ยวคุณก็รูเองแหละ” พวกเราพากันมาถึงหน้าสำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้วแล้วผมเดินนำเข้าไป ไปพบกับหญิงสาวเลขาฯพอเธอแลเห็นผมก็รีบเข้ามาทักทายในทันที
“คุณหมอเชิญทางนี้เลยคะท่านกำลังรออยู่”
“เดี๋ยวพี่รอก่อนครับ...ปุ๊จ๋าเอาขนมมาเร็ว” ปุ๊ยื่นให้ผม
“พี่คนสวยครับถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากพวกเราก็แล้วกันนะครับที่พี่ช่วยเหลือพวกเรา” เธอยิ้มอย่างดีใจแล้วก็ยื่นมือมารับกล่าวว่า
(มีต่อครับ)