เด็กเทพวัดไผ่ตัน The Hero From Phaitan Temple ตอนที่ 14


ตอนที่  14  วันพักผ่อนมาถึงแล้ว

                วันนี้ผมกับปุ๊ตื่นนอนมาตามปกติ  ปุ๊ตื่นก่อนเพื่อไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าว  ผมตื่นทีหลังรู้ได้ทันทีว่าต้องตื่นแล้วเพราะกลิ่นอาหารที่หอมฉุยลอยขึ้นมาข้างบนผมจึงรีบลุกจากที่นอนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว  เดินเข้าไปหอมแก้มภรรยาสาวแสนสวยไปหนึ่งทีตอนนี้เธอไม่ตกใจแล้วเพราะรู้ว่าใคร  
                “ตื่นแล้วหรือคะคุณสามี” ปุ๊ทัก 
                “ตื่นเพราะกลิ่นอาหารของคุณนั่นแหล่ะครับ...ทำอะไรทานหรือจ้ะ” ผมถาม 
                “วันนี้ปุ๊ทำแกงหน่อไม้  น้ำพริกปลาร้าลวกผัก แล้วก็หมูคั่วเค็มคะ” ปุ๊ตอบ 
                “แกงหน่อไม้เหรอ...แล้วคุณใส่ผักอีเลิด(ใบชะพลู)รึป่าว” ผมถาม  
                “ใส่คะแต่ใส่ไปนิดเดียวกลัวคุณจะไม่ชอบ” ปุ๊ตอบ 
                “คุณรู้ไหมนั่นแหล่ะของโปรดผมเลยครับ...เดี๋ยวผมจะไปเก็บที่หลังบ้านเอง...เอามากินสดๆเลยก็ได้”  ปุ๊หัวเราะกับอาการติงต๊องของผม  และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเช้าผมกินอย่างเอร็ดอร่อยจนปุ๊แอบขำในท่าทางการกินของผม..ผมอิ่มแล้ว   
                “หนึ่ง...ปุ๊สังเกตท่าทางตอนคุณทานข้าว..ปุ๊ขำท่าทางตอนคุณกินเหมือนเด็กๆเลยนะ” ปุ๊ขำ 
                “จริงเหรอผมไม่รู้ตัวเลยเพียงแต่ผมมีความรู้สึกว่ากำลังกินข้าวที่แม่ผมทำให้กินหนะ..มันอร่อยมากจริงๆเหมือนแม่ทำให้กินเลย”  ปุ๊ยิ้มชอบใจ  
                “หนึ่งอิ่มแล้วใช่ไหมเดี๋ยวปุ๊จะจัดการจานชามพวกนี้เองนะคะ..คุณไปรอข้างนอกก่อนนะ” ปุ๊บอกผม 
                “ได้จ้ะที่รัก”  ผมเดินออกมาด้านหน้าสำนักงานเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า  สุดชื่นจริงๆสักพักบุญถมก็มาถึง  
                “เฮ้ย..ไอ้ถมมาทำงานแต่เช้าเลยนะกินข้าวมารึยัง”  
                “กูกินมาแล้ว”  แล้วไอ้ถมมันก็เดินเข้าสำนักงานทำโน้นทำนี่ตามประสาของมัน  ปุ๊เสร็จภารกิจด้านห้องครัวแล้วก็ออกมาสมทบที่ด้านหน้า  
                “สวัสดีคะพี่บุญถม..มาแค่เช้าเลยนะ” ปุ๊ทักทายบุญถม 
                “ถ้ามาสายไอ้นี่มันจะบ่น”  พูดแล้วก็ชำเลืองสายตามายังผม   
                “ปุ๊จ๋า..ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ” ผมถาม “แปดโมงครึ่งคะ”  ปุ๊ตอบ  
                “ปุ๊จ๋าเราไปขี่รถเล่นในตัวอำเภอกันดีกว่า...ท่านถมกูขอยืมรถเครื่องของหน่อยซิเพื่อนกูจะไปเที่ยวเล่นในตัวอำเภอ..ส่วนเฝ้าสำนักงานไว้ถ้าพี่ทศกับพี่มดมาแล้วถามหากูให้บอกว่ากูไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอก็แล้วกันนะ..เข้าใจตามนี้นะ”  ผมออกคำสั่ง  
                “เออ..แล้วกูจะบอกให้”  บุญถมตอบ
                “ขอบใจเพื่อน...ปุ๊จ๋าพร้อมรึยังไปกันเลย..ฮ้าๆๆๆ”  ผมกับปุ๊เดินทางเข้าไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้ว  เพื่อขอทราบข้อมูลว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้าสำนักงานตอนไหน  แล้วก็ทราบว่าท่านปศุสัตว์อำเภอ จะเข้าสำนักงานช่วงบ่ายเพราะช่วงเช้าท่านมีประชุมที่จังหวัด  ผมจึงเขียนโน้ตพร้อมเบอร์ไทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไปหนึ่งแผ่น  เจ้าหน้าที่หยิบมาอ่าน 
                “น้องนี่น้องเป็นสัตวแพทย์เหรอ”  เจ้าหน้าที่ถามผม
                “ใช่ครับผมพึ่งเรียนจบครับ..พี่ครับผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยได้ไหมครับถ้าท่านปศุสัตว์อำเภอท่านเข้ามาแล้วรบกวนพี่โทร.บอกผมตามเบอร์ที่ให้ไว้นี่นะครับ  ผมมีเรื่องสำคัญต้องการพบท่านจริงๆครับ  เชื่อเหลือผมหน่อยนะครับ” ผมขอร้องอย่างสุภาพ  
                “อ๋อ..ได้ค่ะถ้าท่านมาแล้วพี่จะโทร.บอกนะคะ” เธอตอบด้วยความสุภาพเหมือนกัน 
                “ขอบคุณพี่มากเลยครับ..ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับสวัสดีครับพี่”  หลังจากนั้นเวลาเหลือผมถามปุ๊ว่าอยากสำรวจในตัวอำเภอไหม  
                “ก็ไปซิคะคุณสามีจะรออะไรอยู่ล่ะคะ”  และแล้วเราก็ออกสำรวจพื้นที่ในตัวอำเภอคำเขื่อนแก้วเป็นที่สนุกสนาน  มีการแวะซื้อของกันบ้างเล็กน้อยส่วนมากจะเป็นของกินภรรยาผมชอบก็ต้องตามใจ  แล้วผมก็ไปเจอร้านๆหนึ่งเป็นร้านชำค่อนข้างใหญ่ชื่อร้านกานดาผมจึงชวนปุ๊เข้าไปดูมีของขายมากมายผมเหลิบไปเห็นสินค้าประเภทกระเช้าของที่ระลึกวางเรียงรายกันอย่างมากมาย  จึงเข้าไปถามเจ้าของร้าน...อ้าว!..เป็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เราเช่านั่นเอง  
                 “เจ๊สวัสดีครับ”  ผมทักทายเจ๊หันมามอง.. 
                 “อ้าวคุณนั่นเอง..เป็นยังไงบ้านเจ๊น่าอยู่ไหม”  เจ๊ถาม  
                 “น่าอยู่มากครับ..พอพวกเราทำความสะอาดแล้วก็ซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาตกแต่งแล้วช่วยกันจัดระเบียบแล้วดูดีน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยครับนี่ถ้าไม่ได้แฟนผมมาช่วยก็คงจะยุ่งน่าดู”  ผมบอกเจ๊  
                 “นี่แฟนคุณเหรอสวยจังเลยเหมาะสมกันจริงผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวย”  
                 “ขอบคุณครับ...เจ๊ครับผมสนใจชุดกระเช้าของที่ระลึกที่วางอยู่บนชั้นนั่นหนะครับ  เจ๊ขายอันละเท่าไหร่ครับผมอยากซื้อสักอันจะเอาไปฝากท่านปศุสัตว์อำเภอหนะครับ” ผมถาม 
                 “จะเอาไปฝากท่านสุพจน์เหรอ..อย่างนั้นเอาไปเลยเจ๊ยกให้ฟรีเลยอยากได้อันไหนเลือกเอาไปเลย..ถือซะว่าเป็นของกำนัลจากเจ๊ที่พวกคุณมาเช่าบ้านเจ๊แถมจ่ายเงินล่วงหน้าตั้ง 3 เดือน”  เจ๊ใจดี  
                 “เจ๊ครับมันจะดีเหรอครับของซื้อของขายนะครับ” ผมทักท้าง  
                 “เอาไปเถอะเจ๊เต็มใจ  ยิ่งเจ๊รู้ว่าจะเอาไปฝากท่านสุพจน์แล้วเจ๊ยิ่งเต็มใจมากเลยนะ..ท่านสุพจน์ท่านเป็นคนดีน้า”  เจ๊พูดจบ  ผมกับปุ๊ก็ยกมือไหว้ขอบคุณ  
                 “เออ..เจ๊ครับตอนนี้ผมยังเอาไปไม่ได้เพราะพวกผมขับรถมอเตอร์ไซค์มาเกรงว่าจะเอาไปไม่สะดวกหนะครับ..เอาอย่างนี้นะครับเจ๊เดี๋ยวผมจะบอกให้หัวหน้าของผมมาเอาก็แล้วกันเขามีรถยนต์..หัวหน้าผมก็คนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละครับ”  เจ๊หัวเราะชอบใจแล้วบอกว่า  
                 “จะมาเอาตอนไหนก็ได้เลยนะ..ส่วนของที่น้องคนสวยเขาถืออยู่ในมือนั่นหนะเจ๊แถมให้ไปเลยนะ”  พูดจบเจ๊ก็หัวเราะลั่น แล้วเรา 2 คนก็ถือโอกาสกล่าวขอบคุณและสวัสดีแล้วเดินออกจากร้านมา  เราใช้เวลาสำรวจในตัวอำเภอประมาณ 30 นาที  
                 “ปุ๊จ๋าผมว่าเราควรกลับได้แล้วนะป่านนี้พวกพี่ๆเขาคงรอพวกเราแย่แล้ว” ผมชวนปุ๊กลับ  
                 “ก็ได้กลับก็กลับ” ตอบแบบไม่พอใจ  
                 “นี่คุณของเต็มมืออย่างนี้แล้วยังมีของฟรีจากเจ๊กานดาอีกยังไม่พอใจอีกเหรอ”  
                 “เช้อะ!!!”  ปุ๊ทำทีเป็นงอน  แล้วเราก็เดินทางกลับสำนักงาน  ถึงสำนักงานพี่ทศทำหน้าเคร่งเครียด  
                 “หายไปไหนมาตั้งนาน  แล้วเรื่องปศุสัตว์อำเภอว่ายังไง” พี่ทศยิงคำถามอย่างตื่นเต้น  
                 “เรื่องปศุสัตว์ไม่มีปัญหาหรอกเลขาฯเขาบอกผมว่าท่านปศุสัตว์อำเภอจะเข้ามาช่วงบ่ายเนื่องจากช่วงเช้าท่านติดประชุมที่จังหวัด  ผมให้เบอร์ไทร.ของพี่กับของมดไว้ให้เลขาฯของท่านแล้วเขาบอกว่าถ้าท่านมาจะโทร.มาบอก  แล้วพี่ล่ะเตรียมของที่ระลึกไห้ท่านหรือยัง”  ผมถาม  
                 “ตายห่าแล้วกูลืมไป  ไป...ไอ้ถมรีบไปหาซื้อกันเลย”  ผมตะโกนไล่หลังไป 
                 “พี่ทศเข้าไปในตลาดในตัวอำเภอนะแล้วถามหาร้านกานดาว่าอยู่ที่ไหนแล้วพี่จะเจอของที่พี่ต้องการในราคาที่ย่อมเยา”  พี่มดได้ยินก็แปลกใจ  
                 “หนึ่งเธอรู้ได้ยังไงว่าที่นั่นจะมีของที่พี่ทศต้องการหนะ”  
                 “เดี๋ยวพี่ทศกลับมาพี่ก็รู้เองแหล่ะ...ว่าแต่เรื่องรายงานของพวกพี่ไปถึงไหนแล้ว...เสร็จพร้อมส่งรึยัง” ผมตอบและถามต่อ 
                 “เสร็จเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง” พี่มดตอบ 
                 “ดีครับพี่แต่ผมอยากให้พี่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนนะครับ” ผมบอก 
                 “แบบนั้นมันก็ช้านะสิ” พี่มดข้องใจ  
                 “ก็ผมอยากให้มันช้าๆเองนั่นแหล่ะ..กว่าจะถึงสำนักงานใหญ่อย่างเร็วก็ 2 วัน  แล้วกว่าสำนักงานใหญ่จะพิจารณาแผนของพวกเราเสร็จเพื่อที่จะสั่งการให้เราจะดำเนินการอย่างไรต่ออย่างน้อยก็ 3 วัน  แล้วคำสั่งจะมาถึงเราอย่างน้อยก็ 2 วัน..รวมระยะเวลาแล้วเราจะต้องรอรับคำสั่งประมาณ 1 อาทิตย์ครับถ้าผมคำนวณไม่ผิดนะ  เดี๋ยวเรารอพวกพี่ทศกลับมาก่อนนะครับแล้วค่อยคุยกันอีกที”  พวกเราก็นั่งคุยกันเพลินๆกันตามสบายไปเรื่อยๆ  ระหว่างนั้นผมสังเกตเห็นพี่มดกับปุ๊คุยกันคุกๆคิกๆ  ผมเดาว่าตั้งคุยเรื่องของผมแน่นอนเพราะผมฟังไม่ค่อยถนัดเพราะพวกเขาเว้าลาวกัน  แล้วรถของพี่ทศก็รีบเข้ามาจอด  พี่ทศลงมาจากรถแล้วตรงมาหาผมมองหน้าผมแล้วก็เข้ามากอด  ผมตกใจเล็กน้อย  
                 “พี่มากอดผมทำไม”  ผมพูด  
                 “ทำได้ยังไงวะ..ที่ทำให้เจ๊กานดามอบของที่ระลึกให้มาฟรีๆนี่หนะ”  พี่ทศถามอย่างตื่นเต้น  
                 “เอาอย่างนี้นะครับทุกคนเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะครับ  ผมกับปุ๊ไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอมา  เมื่อเสร็จธุระแล้วเราก็พากันสำรวจในตัวอำเภอแล้วบังเอิญเจออยู่ร้านหนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่พอสมควรผมก็เลยชวนปุ๊เข้าไปดูว่าอาจจะมีของใช้ที่เราต้องการระหว่างเดินดูสินค้า  ผมก็เหลิบไปเห็นกระเช้าของที่ระลึกอย่างมากมาย  ผมก็เดินไปถามเจ้าของร้าน  พอเจ้าร้านเห็นผมก็จำได้ก็ทักทายกันอยู่นานพอสมควรแล้วผมก็บอกว่าผมอยากได้ของที่ระลึกไปให้ท่านปศุสัตว์อำเภอเท่านั้นแหละ  พอเจ้าของร้านรู้ว่าจะเอาไปให้ใครเค้าก็เลยยกให้ฟรีๆเลยผมก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน  แต่ผมขับรถเครื่องไปเอามาไม่สะดวกเลยบอกเจ๊กานดาว่าเดี๋ยวผมจะให้หัวหน้าผมมาเอาเพราะเขามีรถยนต์หัวหน้าผมคนที่จ่ายเงินค่าเช่าให้เจ๊นั่นแหละ..เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ผมเล่าให้ทุกคนฟัง 
                  “ถือว่าวันนี้เราโชคดีโชคเข้าข้างเรา...เพราะฉะนั้นงานกับปศุสัตว์อำเภอในวันนี้ต้องผ่านฉลุยแน่นอนผมรับประกัน” ผมพูดจบแล้วแต่มีเสียงมาจากพี่ทศพูดขึ้นบอกว่า  
                  “เจ๊การดาเขาบอกกูว่า..ลูกน้องของคุณคนนี้ทั้งหล่อทั้งเก่ง  พูดจาฉะฉานมีเหตุมีผล  อัธยาศัยดีอ่อนน้อมถ่มตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่ต่อไปต้องเจริญก้าวหน้าแน่นอน  แถมแฟนของเขาก็สวยกิริยามารยาทก็ดี  ทั้งสองเหมาะกันจริงๆ” พี่ทศเล่าให้ฟ้ง  แล้วก็มีเสียงฮือฮากันเกิดขึ้น  
                  “เอาเถอะครับทุกคนผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า..ตอนนี้ผมว่าทุกคนควรเตรียมตัวเข้าพบท่านปศุสัตว์อำเภอได้แล้วนะครับ...พี่ทศและทุกคนตามแผนนะครับ”  ทุกคนรับทราบ  แล้วผมก็เอนตัวลงนอนพักแล้วหลับไปไม่รู้กี่นาที...แล้วก็สะดุ้งเมื่อปุ๊มาปลุก  
                  “ที่รักคุณคงเหนื่อยมากซินะ..ลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะคะ...ทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเค้าโทรมาบอกว่าท่านปศุสัตว์อำเภอเข้ามาแล้วและตอนนี้ท่านกำลังรอคุณอยู่”  ปุ๊บอกผม  
                  “อ้าวจริงๆซินะ...งานเข้าอีกแล้วกูให้ท่านปศุสัตว์อำเภอรอ” ผมตื่นเต้น 
                  “อย่าพึ่งบ่นเลยน่ารีบไปเร็วๆเถอะคะ” ปุ๊บอก 
                  “ปุ๊จ๋าขนมที่ยังไม่แกะมีสักห่อไหม” ผมถามปุ๊ 
                  “มีคะจะเอาไปทำไมเหรอคะ” ปุ๊สงสัย  
                  “เออน่าเดี๋ยวคุณก็รูเองแหละ”  พวกเราพากันมาถึงหน้าสำนักงานปศุสัตว์อำเภอคำเขื่อนแก้วแล้วผมเดินนำเข้าไป  ไปพบกับหญิงสาวเลขาฯพอเธอแลเห็นผมก็รีบเข้ามาทักทายในทันที  
                  “คุณหมอเชิญทางนี้เลยคะท่านกำลังรออยู่”  
                  “เดี๋ยวพี่รอก่อนครับ...ปุ๊จ๋าเอาขนมมาเร็ว”  ปุ๊ยื่นให้ผม  
                  “พี่คนสวยครับถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากพวกเราก็แล้วกันนะครับที่พี่ช่วยเหลือพวกเรา”  เธอยิ้มอย่างดีใจแล้วก็ยื่นมือมารับกล่าวว่า  
                (มีต่อครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่