สวัสดีครับ..ผมชื่อนนนท์ครับ
อายุ17ปี ผมมีเรื่องผีมาเล่าให้ฟังครับ
วันนั้นใกล้ปิดเทอมแล้วครับ เพื่อนผม
ก็ได้อยู่แก้ 0,ร,ครับ แล้วผมคนเดียว
ในกลุ่มที่ไม่ได้แก้ครับ ด้วยความโชคดี
ผมส่งงานได้ทันเวลา ผมได้ไปขิง
เพื่อนในกลุ่มครับ ว่าโชคช่วยครูวิชา
ที่ผมคะแนนไม่ถึง ผมดันเจอเขาที่
ร้านข้าวครับ และส่งงานเขาได้ทันเวลา
และในวันนั้นด้วยความโชคดี ก็ได้พบกับโชคร้ายครับ
แม่ผมบอกว่าเราจะไปบ้านย่ากัน ผมนี่เซงเลยครับ
ที่นั่นไม่มีอินเตอร์เน็ตครับ ชนบทสุดๆเลยครับ สัญญามือถือน้อยมาก
และในช่วงเดือนธันวาคม พศ.2564
เป็นวันเดินทางของผมครับ
พอถึงนั่น(ภาคอีสานแห่งนึง)ผมก็ได้หากิจกรรมทำครับ เพราะมันไม่มีอินเตอร์เน็ต
ทั้งเลี้ยงควาย ตัดหญ้าครับ ผมกลายเป็นคนขยันในทันทีเลย 555+
ผมได้เข้าไปถาม ย่าครับว่าคนแถวนี้เขาไปทำอะไรกันแก้เบื่อ เพราะสัญญานมือถือมีน้อย
ย่าผมบอกว่า"เขาก็เข้าไปในป่ากันสิ หาของป่ามาแลกเปลี่ยนซื้อขาย หรือมาทานกันหน่ะสิ
ผมได้เกิดไอเดีย ชวนพี่เข้าไปในป่าครับ พี่ผมก็ตอบตกลง ในทันที
เพราะเขาก็ไม่มีอะไรทำเหมือนกันครับ
และแล้ว ผมก็ได้นั่ง รถซาเล้ง ไปกับพี่ครับ
ระหว่างก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ไปสะดุดตากับคุณยายท่านนึง
แกผมยาวครับ ผมสีขาวยาวประมาณไหล่ ใส่เสื้อคอกระเช้า
ยายแกยืนมองผมและพี่อยู่ไม่ไกลมากครับ ประมาน2-3เมตรได้
ผมได้เข้าไปในป่าลึกขึ้นครับ เพื่อหวังจะได้เจอพวกสัตว์ป่า ไก่ป่า นก กระรอก เป็นต้นครับ
และแล้วเรื่องประหลาดใจ ผมได้เกิดขึ้นอีกแล้วครับ
ผมได้พบกับยายคนเดิมที่ผมเจอก่อนเข้าป่า
ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ เลยชวนพี่เดินไปหายายคนนั้น ค่อนข้างไกลอยู่ครับ
เกือบๆ200เมตรได้ครับ ผมเรียกหาคุณยายอยู่นาน เหมือนแกจะไม่ได้ยิน
ในความพยายามของผม ยายแกหยุดเดินครับ ผมรีบเข้าไปหายายเพื่อพูดคุยครับ
ผมถามยายไปหลายประโยคอยู่ครับ ยายแกไม่ตอบผมครับ ยายแกยิ้มให้แบบฉีกยิ้ม
ค่อนข้างสยองอยู่ครับ ฟันแกดำมากครับ เรื่องปกติของคนทานหมาก
ผมได้บอกยายทิ้งท้ายว่า "รีบกลับนะครับยุงในป่ามันเยอะแล้ว "
ยายแกยิ้มให้ผมและมองผมจนผมเดินถึงรถเลยครับ "บอกเลยว่าน่ากลัวครับ"
แต่แล้วผมก็ลืมนึกขึ้นได้ ว่าระยะทางที่ผมเจอยายตอนแรก ห่างกับตอนนีเกือบถึง1.5กิโลเมตรเลยครับ
และนี่ก็เป็นการที่ผมเจอยายครั้งแรก
ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยไม่ได้กลัวอะไรครับ
ในวันนึงผมได้ไปนอนกระท่อมปลายนา เป็นเพื่อนพี่ผมครับ หน้าหนาวต่างจังหวัดค่อนข้างมืดไวครับ
ด้วยความที่ไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือ
ผมและพี่ก็เข้านอนเลยครับ 21:00น.ก็หลับกันแล้วครับ
ผมก็ได้ตื่นมาช่วงเวลาประมาณ23:30ด้วยความปวดฉี่
อาการเมาขี้ตาของผมก็ได้มองไปที่พี่ครับ พี่ผมได้หลับไปแล้ว เลยไม่ขอรบกวน
ผมได้กวาดสายตาไปรอบๆมุ้ง ผมได้ตกใจขึ้นครับ ผมมองจากเงาพระจันทร์
เจอคนครับนั่งยองยองอยู่ ข้างมุ้งผมแล้วเหมือนจะเอาหน้ามาแนบด้วย
ผมตกใจมากครับ! แต่ผมพยายามไม่คิดอะไร
แล้วจึงรีบคุมโปรงนอนจนถึงเช้าครับ
แล้วเหมือนย่าผมจะนึกได้ว่าผมเข้าป่า แกได้ถามผมว่า"เข้าป่าไปเจออะไรเล่าให้ย่าฟังหน่อย"
ผมก็ได้เล่าครับว่า"ผมไม่เจอสัตว์เลย แต่เจอชาวบ้านอยู่คนนึงครับ" ใช่ครับ
ชาวบ้านที่ผมเจอ คือยายคนนั้นครับ
ย่าผมก็ถามว่า"ใครหล่ะ" ผมก็ไม่รู้ชื่อแซ่ครับ เลยบอกย่าไปว่าไม่รู้
ย่าผมเลยถามรูปร่างลักษณะ
ผมก็ตอบไปว่า มีอายุแล้วครับ ผมสีขาวยาวถึงไหล่ ฟันดำครับ ผมถามอะไรเขาก็ไม่พูดไม่ตอบ
ย่าผมก็ตกใจและได้เข้าไปถามปู่ว่า "ใช่อีพะยอมมั้ยวะพ่อ"
ปู่ผมก็บอกว่าก็คงใช่แหละมั้ง
แล้วย่าผมก็เงียบครับ แล้วเหมือนบอกผมและพี่ว่า" พรุ่งนี้ก็ตื่นทำบุญกันนะ จะกลับกันแล้วไม่ใช่เล่อะ"
ผมไม่ได้คิดอะไรครับ เพราะพวกเราจะกลับกันแล้ว
พอวันรุ่งขึ้น พวกผม พี่ พ่อ แม่ ก็ได้ทำบุญ แล้วก็กลับสายวันนั้นเลยครับ
พ่อถึงบ้าน ย่าผมก็โทรมาถามแม่ว่า ผมอยู่มั้ย และแม่ก็เรียกผมให้มาคุยครับ
ย่าถามผมว่า ไปทำบุญบ้างนะ เหมือนที่เจอในป่าจะไม่ใช่คน
และผมก็นึกขึ้นได้ว่า เงาที่เอาหน้าแนบมุ้งผม ก็คงไม่ใช่ภาพลวงตา หรือคนเหมือนกัน
ย่าผมบอกว่า ยายพะยอมเขาเสียชีวิตในป่าครับ
แกเข้าไปหาของป่าในนั้นแล้วเกิดเป็นลม กว่าจะมาเจอศพก็4-5วันแล้วครับ
แต่ย่าผมก็ลืมบอกผมไป ว่าไม่ค่อยมีใครเข้าไปในป่าแล้ว เพราะว่า เจอยายพะยอมแกเล่นงานครับ
ผมก็ไม่ได้สังเกตุว่า ในป่าไม่มีใครมาหาของป่าเลย....ครับ
.
.
.
.
-นี่ก็เป็นประสบการณ์หลอนของผมครับ ภาพยายพะยอมยิ้มให้ยังติดตาผมถึงทุกวันนี้เลยครับ
.
.ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ🙏🏻
ประสบการณ์หลอน ของผมเองครับ
อายุ17ปี ผมมีเรื่องผีมาเล่าให้ฟังครับ
วันนั้นใกล้ปิดเทอมแล้วครับ เพื่อนผม
ก็ได้อยู่แก้ 0,ร,ครับ แล้วผมคนเดียว
ในกลุ่มที่ไม่ได้แก้ครับ ด้วยความโชคดี
ผมส่งงานได้ทันเวลา ผมได้ไปขิง
เพื่อนในกลุ่มครับ ว่าโชคช่วยครูวิชา
ที่ผมคะแนนไม่ถึง ผมดันเจอเขาที่
ร้านข้าวครับ และส่งงานเขาได้ทันเวลา
และในวันนั้นด้วยความโชคดี ก็ได้พบกับโชคร้ายครับ
แม่ผมบอกว่าเราจะไปบ้านย่ากัน ผมนี่เซงเลยครับ
ที่นั่นไม่มีอินเตอร์เน็ตครับ ชนบทสุดๆเลยครับ สัญญามือถือน้อยมาก
และในช่วงเดือนธันวาคม พศ.2564
เป็นวันเดินทางของผมครับ
พอถึงนั่น(ภาคอีสานแห่งนึง)ผมก็ได้หากิจกรรมทำครับ เพราะมันไม่มีอินเตอร์เน็ต
ทั้งเลี้ยงควาย ตัดหญ้าครับ ผมกลายเป็นคนขยันในทันทีเลย 555+
ผมได้เข้าไปถาม ย่าครับว่าคนแถวนี้เขาไปทำอะไรกันแก้เบื่อ เพราะสัญญานมือถือมีน้อย
ย่าผมบอกว่า"เขาก็เข้าไปในป่ากันสิ หาของป่ามาแลกเปลี่ยนซื้อขาย หรือมาทานกันหน่ะสิ
ผมได้เกิดไอเดีย ชวนพี่เข้าไปในป่าครับ พี่ผมก็ตอบตกลง ในทันที
เพราะเขาก็ไม่มีอะไรทำเหมือนกันครับ
และแล้ว ผมก็ได้นั่ง รถซาเล้ง ไปกับพี่ครับ
ระหว่างก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ไปสะดุดตากับคุณยายท่านนึง
แกผมยาวครับ ผมสีขาวยาวประมาณไหล่ ใส่เสื้อคอกระเช้า
ยายแกยืนมองผมและพี่อยู่ไม่ไกลมากครับ ประมาน2-3เมตรได้
ผมได้เข้าไปในป่าลึกขึ้นครับ เพื่อหวังจะได้เจอพวกสัตว์ป่า ไก่ป่า นก กระรอก เป็นต้นครับ
และแล้วเรื่องประหลาดใจ ผมได้เกิดขึ้นอีกแล้วครับ
ผมได้พบกับยายคนเดิมที่ผมเจอก่อนเข้าป่า
ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ เลยชวนพี่เดินไปหายายคนนั้น ค่อนข้างไกลอยู่ครับ
เกือบๆ200เมตรได้ครับ ผมเรียกหาคุณยายอยู่นาน เหมือนแกจะไม่ได้ยิน
ในความพยายามของผม ยายแกหยุดเดินครับ ผมรีบเข้าไปหายายเพื่อพูดคุยครับ
ผมถามยายไปหลายประโยคอยู่ครับ ยายแกไม่ตอบผมครับ ยายแกยิ้มให้แบบฉีกยิ้ม
ค่อนข้างสยองอยู่ครับ ฟันแกดำมากครับ เรื่องปกติของคนทานหมาก
ผมได้บอกยายทิ้งท้ายว่า "รีบกลับนะครับยุงในป่ามันเยอะแล้ว "
ยายแกยิ้มให้ผมและมองผมจนผมเดินถึงรถเลยครับ "บอกเลยว่าน่ากลัวครับ"
แต่แล้วผมก็ลืมนึกขึ้นได้ ว่าระยะทางที่ผมเจอยายตอนแรก ห่างกับตอนนีเกือบถึง1.5กิโลเมตรเลยครับ
และนี่ก็เป็นการที่ผมเจอยายครั้งแรก
ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยไม่ได้กลัวอะไรครับ
ในวันนึงผมได้ไปนอนกระท่อมปลายนา เป็นเพื่อนพี่ผมครับ หน้าหนาวต่างจังหวัดค่อนข้างมืดไวครับ
ด้วยความที่ไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือ
ผมและพี่ก็เข้านอนเลยครับ 21:00น.ก็หลับกันแล้วครับ
ผมก็ได้ตื่นมาช่วงเวลาประมาณ23:30ด้วยความปวดฉี่
อาการเมาขี้ตาของผมก็ได้มองไปที่พี่ครับ พี่ผมได้หลับไปแล้ว เลยไม่ขอรบกวน
ผมได้กวาดสายตาไปรอบๆมุ้ง ผมได้ตกใจขึ้นครับ ผมมองจากเงาพระจันทร์
เจอคนครับนั่งยองยองอยู่ ข้างมุ้งผมแล้วเหมือนจะเอาหน้ามาแนบด้วย
ผมตกใจมากครับ! แต่ผมพยายามไม่คิดอะไร
แล้วจึงรีบคุมโปรงนอนจนถึงเช้าครับ
แล้วเหมือนย่าผมจะนึกได้ว่าผมเข้าป่า แกได้ถามผมว่า"เข้าป่าไปเจออะไรเล่าให้ย่าฟังหน่อย"
ผมก็ได้เล่าครับว่า"ผมไม่เจอสัตว์เลย แต่เจอชาวบ้านอยู่คนนึงครับ" ใช่ครับ
ชาวบ้านที่ผมเจอ คือยายคนนั้นครับ
ย่าผมก็ถามว่า"ใครหล่ะ" ผมก็ไม่รู้ชื่อแซ่ครับ เลยบอกย่าไปว่าไม่รู้
ย่าผมเลยถามรูปร่างลักษณะ
ผมก็ตอบไปว่า มีอายุแล้วครับ ผมสีขาวยาวถึงไหล่ ฟันดำครับ ผมถามอะไรเขาก็ไม่พูดไม่ตอบ
ย่าผมก็ตกใจและได้เข้าไปถามปู่ว่า "ใช่อีพะยอมมั้ยวะพ่อ"
ปู่ผมก็บอกว่าก็คงใช่แหละมั้ง
แล้วย่าผมก็เงียบครับ แล้วเหมือนบอกผมและพี่ว่า" พรุ่งนี้ก็ตื่นทำบุญกันนะ จะกลับกันแล้วไม่ใช่เล่อะ"
ผมไม่ได้คิดอะไรครับ เพราะพวกเราจะกลับกันแล้ว
พอวันรุ่งขึ้น พวกผม พี่ พ่อ แม่ ก็ได้ทำบุญ แล้วก็กลับสายวันนั้นเลยครับ
พ่อถึงบ้าน ย่าผมก็โทรมาถามแม่ว่า ผมอยู่มั้ย และแม่ก็เรียกผมให้มาคุยครับ
ย่าถามผมว่า ไปทำบุญบ้างนะ เหมือนที่เจอในป่าจะไม่ใช่คน
และผมก็นึกขึ้นได้ว่า เงาที่เอาหน้าแนบมุ้งผม ก็คงไม่ใช่ภาพลวงตา หรือคนเหมือนกัน
ย่าผมบอกว่า ยายพะยอมเขาเสียชีวิตในป่าครับ
แกเข้าไปหาของป่าในนั้นแล้วเกิดเป็นลม กว่าจะมาเจอศพก็4-5วันแล้วครับ
แต่ย่าผมก็ลืมบอกผมไป ว่าไม่ค่อยมีใครเข้าไปในป่าแล้ว เพราะว่า เจอยายพะยอมแกเล่นงานครับ
ผมก็ไม่ได้สังเกตุว่า ในป่าไม่มีใครมาหาของป่าเลย....ครับ
.
.
.
.
-นี่ก็เป็นประสบการณ์หลอนของผมครับ ภาพยายพะยอมยิ้มให้ยังติดตาผมถึงทุกวันนี้เลยครับ
.
.ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ🙏🏻