Kuon No Tsuki (Bangkok,Thailand)
นี่น่าจะเป็นร้าน Kappo ที่ผมชอบที่สุดในไทยแล้วครับแต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงอาจจะทำให้ไม่ค่อยได้กลับมาเยือนที่นี้บ่อยครั้งนัก
Kuon No Tsuki เป็นร้านอาหารสไตล์Omakaseที่ไม่ได้เสริฟ์เพียงปลาดิบเเละซูชิ เเต่ยังมีอาหารร้อน ทั้งย่าง ต้ม ซุป ทอด หอมอร่อยในพริบตา ไม่ใช่ละ ที่เรียกว่า Kappo Kaiseki อีกด้วย โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับ Sushi หรือ Kappo ซึ่งมีสองราคาให้เลือกโดยในวันนี้ผมได้สั่ง Kappo 7500 บาท
อาหารประเภท Kappo นั้นอาจจะไม่คุ้นหูคนไทยมากนักเเละไม่นิยมในประเทศไทยเเบบร้านซูชิโอมาคาเซะ เเต่ทว่าในญี่ปุ่นเเล้ว Kappo นั้นได้รับความนิยมไม่เเพ้ Sushi Omakase เลยทีเดียว สรุปง่ายๆเเล้ว Kappo คือ Omakase ที่มีมากกว่าsushi ในทางธรรมเนียมเเล้วมันจะมีจานปลาดิบ จานต้ม จานซุป จานย่าง จานทอด ข้าว และ ขนมหวานปิดท้ายครับ
Kuon No Tsuki เป็นร้านอยู่ในซอยเล็กๆต้นถนนเอกมัย ในระยะไม่ไกลนักเราสามารถที่จะเดินมาได้จากบีทีเอส เอกมัย หรือถ้าขับรถมาเเล้วก็สามารถจอดรถได้เลยที่หน้าร้านครับสะดวกมากมาย ซอยเเละตัวร้านต้องสังเกตสักนิดอาจจะต้องระวังขับเลยครับ
จุดเด่นที่ยอดเยี่ยมของ Kuon no Tsuki สำหรับผมนอกจากการปรุงที่เก่งแล้วนั้นเชฟยังเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากญี่ปุ่นที่เราหาทานได้ยากในบ้านเรา โดยเฉพาะพวกสารพัดผักต่างๆ จากแหล่งปลูกที่ดีในญี่ปุ่น ที่ร้านอื่นจะไม่ให้ค่อยเน้นมากนัก อย่างมัทซึทาเกะจะเลือกเฉพาะของที่ปลูกในญี่ปุ่นซึ่งกลิ่นจะมีความหอมมากกว่า พริกมังกันจิ เกาลัดจากทันบะ หรือจะเเป๊ะก๊วยจากเมืองนากาโน่ โดยตอนจองนี่ถ้าเราอยากรับประทานอะไรสามารถรีเควสกับเชฟได้ครับ อย่างในวันนี้ผมขอมัทซึทาเกะไป
จานที่ประทับใจในวันนี้คือซุปปลาอามะไดกับมัทซึทาเกะ ใส่มะนาวซึดาจิเเละกระเจี๊ยบ ดอกไม้ เชฟบาลานซ์รสต่างๆที่หลากหลายในชามออกมาได้อย่างสุดยอด มีมิติเเละซับซ้อนมากๆ และแน่นอน ข้าวอบยังเป็นจานที่ผมประทับใจใน Kuon No tsuki ร้านนี้เป็นร้านที่ทำข้าวอบได้ถูกใจผมที่สุดร้านนึง โดยในวันนี้เป็นข้าวอบข้าวอบ Nama Sujiko หรือไข่เเซลม่อนสด และปลาเเซลม่อนจาก Hokkaido เห็ดShitake , Maitakeและใบเซริ
เอาจริงๆถ้าคุณเบื่อความอร่อยของวัตถุดิบที่มาจากเนื้อสัตว์การมาลองเปิดโลกวัตถุดิบดีๆจากผักนั้นก็สร้างความสนุกเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารได้เหมือนกัน
Sakizuke(Appetizer)
*Goma tofu
จานแรกเป็น Goma tofu เสริฟ์มาพร้อมกับซอสจากดาชิเเละโชยุ เชฟที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในร้านKappo kaisekiที่ผมชอบที่สุด เต้าหู้จากงาที่นี้นั้นหนึบแแตกต่าง หอมกลิ่นงาคั่ว ครีมมี่เข้ม แต่ไม่หวานมาก เนื้อเหนียวแบบโมจิ กินกับวาซาบิที่หวานเย็นฉุน และใบพริกไทยญี่ปุ่นเปรี้ยวฉุนนิดๆ ก่อนเพิ่มรสความอุมามิเเละเค็มด้วยซอสดาชิเบาๆแล้ว ทำออกมาได้ดีมากๆครับ
Shinogi(Over Come Cuisine)
*Karasumi mochi
จานต่อมาเป็นไข่ปลาโบระหมัก หรือคาราซูมิทำเอง ย่างกับโมจิและสาหร่าย จานนี้เชฟเสริฟ์มาร้อนๆ เนื้อโมจิหนึบยืดๆมีกลิ่นข้าวหอมๆ ตัวไข่ปลาไม่เค็มมากนักมีกลิ่นอายคล้ายชีสเบาๆ ก่อนปิดท้ายด้วยความอุมามิของสาหร่าย ไม่ได้ออกเค็มโดดกลิ่นทะเลขนาดนั้น แต่เป็นแนวนวลๆละมุนๆ
Wanmono(Soup Dish)
*Amadai Matsutake Kigiku
จานนี้เป็นจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้ เป็นซุปปลาอามะไดกับมัทซึทาเกะ ใส่มะนาวซึดาจิเเละกระเจี๊ยบ ดอกไม้ เนื่องจากผมอยากกินมัทซึทาเกะเชฟเลยจัดให้ครับ เป็นซุปที่ดีมากๆ เชฟบาลานซ์รสต่างๆที่หลากหลายในชามออกมาได้อย่างสุดยอด มีมิติเเละซับซ้อนมากๆ ตัวปลาที่เนื้อเเน่น ซุปรสอุมามิอ่อนๆหอมกลิ่นอายทะเลตัดกับรสเปรี้ยวเบาๆของซึดาจิที่ช่วยเพิ่มความอุมามิให้กับซุป กลิ่นดอกKigikuและกลิ่นซิตรัสช่วยเพิ่มกลิ่นที่สลับซับซ้อน ก่อนปิดท้ายด้วยเท็กเจอร์ความกรอบลื่นจากกระเจี๊ยบญี่ปุ่น สุดยอดครับ
Mukouzuke(Sashimi)
*Miyabidai
ปลามิยาบิไดซาชิมิ เสริฟ์มากับเครื่องจิ้มที่หลากหลายมากๆ ทั้ง Tosazu เกลือ โชยุ ปลาเนื้อกรอบใช้ของดีครับ
*Kohada Garimaki
Kohada garimaki โรลปลาโคฮาดะดองกับเมียวกะ ขิงดอง แตงกวา และออนท็อปด้วยดอกฮานะโฮชิโซะ จานนี้ดอกโฮชิโซะมาอลังการดีใครทำร้านอาหารญี่ปุ่นน่าจะรู้ราคาดีครับ จานนี้เเม้รสชาติจะดูเข้มข้น แต่กลับออกเป็นแนวสดชื่นทานได้เรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะการเลือกใช้โคฮาดะที่มันไม่มากนัก น้ำดองที่รสไม่จัดมากนัก และแตงกวากับความฉุนเฉพาะตัวของเมียวงะในการเบรครส มีทั้งความกรอบจากผักและความนุ่มของเนื้อปลาเป็ฯโรลที่น่าสนใจดีครับ
*kinki
จานต่อมา เชฟเสริฟ์ปลา Kinki จาก Kushiro นำไปอาบุริเล็กน้อย เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมอ่อน ตัวปลาปลาดีมากๆครับ มัน ฉ่ำ เด้ง ดีจนตกใจเลยผมไม่เคยเจอKinki คุณภาพแบบนี้ในไทย ดีใจจนอยากกรีดร้องแลยครับเพราะชอบเจ้าปลาตัวนี้มาก จะลองจิ้มกับโชยุก็ดี หรือจะจิ้มกับTosa zuก็ได้
Yakimono(Grille Dish)
*Gindara Shinrenkon Unagi
Morokyuu
จานนี้มีสองอย่างในจานเดียวคือ ปลากินดาระจากฮอคไกโด และอุนางิครับ จากการกินUnagi นั้นปลาขึ้นสดๆย่างออกมาได้ดีมากๆไม่เเพ้ร้านปลาไหลดังๆในไทย เนื้อฟูเบานุ่มมีความมันเเทรกผิวกรอบบางๆไม่เเข็ง ผมว่าทำได้ดีเกินเบอร์ร้านที่ไม่ใช่ร้านปลาไหลไปแล้วครับ ปลากินดาระทำได้ตามมาตราฐานร้านครับเนื้อเด้งฉ่ำมัน
เครื่องเคียงในจานนี้มี รางบัวน้ำมันงา รสหวาน และแตงกวาดอง รสเผ็ด
Nimono(Simmered Dish)
*Kaki Namanameko
kujhonegi
จานต่อมาเชฟเสริฟ์มาในหม้อร้อน เป็นหอยนางรมตัวโต(จริงๆ)จากเมืองakashi ,มันถูกนำไปเทมปุระ ก่อนราดในดาชิเดือดปุดๆ เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมคุโจ Daikon oroshi และเห็ด Nameko จานนี้แม้วัตถุดิบจะเป็นของดีหมด แต่ผมว่าดาชิเข้มข้นไปพอซึมเข้าตัวแป้งมากๆแล้วกลบรสหวานครีมมี่ของหอยนางรมไป แม้จะมีมีรสหัวไชเท้าหวานๆคอยช่วยเสริม
Shiizakana(Main Dish)
*A5kagoshima gyu (fillet)
*A5kagoshima gyu(misuji)
*Ginnan
จานต่อมาเชฟเสริฟ์มาในหม้อร้อน เป็นหอยนางรมตัวโต(จริงๆ)จากเมืองakashi ,มันถูกนำไปเทมปุระ ก่อนราดในดาชิเดือดปุดๆ เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมคุโจ Daikon oroshi และเห็ด Nameko จานนี้แม้วัตถุดิบจะเป็นของดีหมด แต่ผมว่าดาชิเข้มข้นไปพอซึมเข้าตัวแป้งมากๆแล้วกลบรสหวานครีมมี่ของหอยนางรมไป แม้จะมีมีรสหัวไชเท้าหวานๆคอยช่วยเสริม จานนี้เป็นสเต็กเนื้อคาโกชิมะ A5 ส่วนHire ชิ้นนึงและ Misuji อีกชิ้น รับประทานกับ แป๊ะก๊วย จานนี้เชฟปรุงมาเเบบMedium rare ตัวเนื้อย่างเนย ซอสรสหวานนำ รับประทานกับเกลือและวาซาบิ รสเข้มข้นตามสไตล์เนื้อA5 ที่บางคนอาจจะรู้สึกว่าหนักไปถ้ากินกับซอสที่รสเข้มข้นแบบนี้ ตัวแป๊ะก๊วยเป็นของที่ผมชอบมากๆครับ เท็กเจอร์หนึบๆมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและไม่ขม เเป๊ะก๊วยดีๆนี่เเตกต่างจริงๆครับ
Agemono(Deep Fried Dish)
*Shibaebi shinjyou
*Manganji tougarashi
พริกManganji Peppers สอดไส้ลุกชิ้นกุ้งย่าง พริกตัวนี้มีลักษณะคล้ายพริกกระดิ่งอยู่บ้างแต่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันเล็กน้อย ไส้กุ้งสับรสหวานข้างในเข้ากับพริกหวานที่เผ็ดเบาได้ดี เกลือที่โรยมาอ่อนๆนั้นช่วยขับทั้งรสหวานของผักเเละกุ้งได้ดี ทำได้ตามมาตราฐานร้านครับ
Shokuji(Rice Dish)
*Akijyake
*Nama sujiko
*5kind japanese mushroom
*Seri
ข้าวอบ Nama Sujiko หรือไข่เเซลม่อนสด และปลาเเซลม่อนจาก Hokkaido เห็ดShitake , Maitakeและใบเซริ รับประทานกับซุปมิโซะซึคุเนะ
ข้าวอบยังเป็นอาหารที่ผมประทับใจ Kuon no tsuki ที่สุด เป็นร้านที่ทำข้าวอบได้ดีมากๆครับ และในวันนี้ข้าวอบของที่นี้ยังคงอร่อยเช่นเคย
Tomewan(Miso Soup)
Kounomono(tsukemono)
Mizugashi(Watery Dessert)
*Peach
*Japanese Grape(Kyoho)
พีชกับองุ่นจากนากาโน่ ผลไม้ชั้นเลิศนั้นสร้างความเเตกต่างระหว่างมื้ออาหารดีกับมื้ออาหารเลิศได้ดีจริงๆ
Kanmi(Seasonal Dessert)
*Tamagoyaki
*Kuri shibukawani
*Kaki butter
ไข่หวาน ลูกผลับ และเกาลัดจากTanba ที่ว่ากันว่าดีสุดในญี่ปุ่น
ตัวไข่หวานนั้นดูแค่จำนวนชั้นแล้วก็น่าจะช็อคกันนะครับเป็นร้านที่ทำไข่หวานได้สวยงามมาก การทำไข่หวานได้ในระดับนี้นอกจากฝีมือเชฟต้องเก่งกาจแล้วยังต้องอาศัยเวลาและสมาธิเป็นอย่างมาก
#Score:
Service : 7.5/10
Food:8/10
WOW factor: 8/10
Value for money: 7.5/10
Total: 7.75/10
Visit : Sep-2023
เเผนที่ :
https://maps.app.goo.gl/4zVk1zGB2BbdCinS9
เวลาเปิดปิด: 12–3 PM, 6–10 PM ปิดทุกวันจันทร์
ค่าเสียหาย: ~7500++ Baht
เว็บไซต์ร้าน: NA
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[CR] บอสพาชิม : Kuon No Tsuki Kappoของสายลึก
นี่น่าจะเป็นร้าน Kappo ที่ผมชอบที่สุดในไทยแล้วครับแต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงอาจจะทำให้ไม่ค่อยได้กลับมาเยือนที่นี้บ่อยครั้งนัก
Kuon No Tsuki เป็นร้านอาหารสไตล์Omakaseที่ไม่ได้เสริฟ์เพียงปลาดิบเเละซูชิ เเต่ยังมีอาหารร้อน ทั้งย่าง ต้ม ซุป ทอด หอมอร่อยในพริบตา ไม่ใช่ละ ที่เรียกว่า Kappo Kaiseki อีกด้วย โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับ Sushi หรือ Kappo ซึ่งมีสองราคาให้เลือกโดยในวันนี้ผมได้สั่ง Kappo 7500 บาท
อาหารประเภท Kappo นั้นอาจจะไม่คุ้นหูคนไทยมากนักเเละไม่นิยมในประเทศไทยเเบบร้านซูชิโอมาคาเซะ เเต่ทว่าในญี่ปุ่นเเล้ว Kappo นั้นได้รับความนิยมไม่เเพ้ Sushi Omakase เลยทีเดียว สรุปง่ายๆเเล้ว Kappo คือ Omakase ที่มีมากกว่าsushi ในทางธรรมเนียมเเล้วมันจะมีจานปลาดิบ จานต้ม จานซุป จานย่าง จานทอด ข้าว และ ขนมหวานปิดท้ายครับ
Kuon No Tsuki เป็นร้านอยู่ในซอยเล็กๆต้นถนนเอกมัย ในระยะไม่ไกลนักเราสามารถที่จะเดินมาได้จากบีทีเอส เอกมัย หรือถ้าขับรถมาเเล้วก็สามารถจอดรถได้เลยที่หน้าร้านครับสะดวกมากมาย ซอยเเละตัวร้านต้องสังเกตสักนิดอาจจะต้องระวังขับเลยครับ
จุดเด่นที่ยอดเยี่ยมของ Kuon no Tsuki สำหรับผมนอกจากการปรุงที่เก่งแล้วนั้นเชฟยังเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากญี่ปุ่นที่เราหาทานได้ยากในบ้านเรา โดยเฉพาะพวกสารพัดผักต่างๆ จากแหล่งปลูกที่ดีในญี่ปุ่น ที่ร้านอื่นจะไม่ให้ค่อยเน้นมากนัก อย่างมัทซึทาเกะจะเลือกเฉพาะของที่ปลูกในญี่ปุ่นซึ่งกลิ่นจะมีความหอมมากกว่า พริกมังกันจิ เกาลัดจากทันบะ หรือจะเเป๊ะก๊วยจากเมืองนากาโน่ โดยตอนจองนี่ถ้าเราอยากรับประทานอะไรสามารถรีเควสกับเชฟได้ครับ อย่างในวันนี้ผมขอมัทซึทาเกะไป
จานที่ประทับใจในวันนี้คือซุปปลาอามะไดกับมัทซึทาเกะ ใส่มะนาวซึดาจิเเละกระเจี๊ยบ ดอกไม้ เชฟบาลานซ์รสต่างๆที่หลากหลายในชามออกมาได้อย่างสุดยอด มีมิติเเละซับซ้อนมากๆ และแน่นอน ข้าวอบยังเป็นจานที่ผมประทับใจใน Kuon No tsuki ร้านนี้เป็นร้านที่ทำข้าวอบได้ถูกใจผมที่สุดร้านนึง โดยในวันนี้เป็นข้าวอบข้าวอบ Nama Sujiko หรือไข่เเซลม่อนสด และปลาเเซลม่อนจาก Hokkaido เห็ดShitake , Maitakeและใบเซริ
เอาจริงๆถ้าคุณเบื่อความอร่อยของวัตถุดิบที่มาจากเนื้อสัตว์การมาลองเปิดโลกวัตถุดิบดีๆจากผักนั้นก็สร้างความสนุกเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารได้เหมือนกัน
Sakizuke(Appetizer)
*Goma tofu
จานแรกเป็น Goma tofu เสริฟ์มาพร้อมกับซอสจากดาชิเเละโชยุ เชฟที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในร้านKappo kaisekiที่ผมชอบที่สุด เต้าหู้จากงาที่นี้นั้นหนึบแแตกต่าง หอมกลิ่นงาคั่ว ครีมมี่เข้ม แต่ไม่หวานมาก เนื้อเหนียวแบบโมจิ กินกับวาซาบิที่หวานเย็นฉุน และใบพริกไทยญี่ปุ่นเปรี้ยวฉุนนิดๆ ก่อนเพิ่มรสความอุมามิเเละเค็มด้วยซอสดาชิเบาๆแล้ว ทำออกมาได้ดีมากๆครับ
Shinogi(Over Come Cuisine)
*Karasumi mochi
จานต่อมาเป็นไข่ปลาโบระหมัก หรือคาราซูมิทำเอง ย่างกับโมจิและสาหร่าย จานนี้เชฟเสริฟ์มาร้อนๆ เนื้อโมจิหนึบยืดๆมีกลิ่นข้าวหอมๆ ตัวไข่ปลาไม่เค็มมากนักมีกลิ่นอายคล้ายชีสเบาๆ ก่อนปิดท้ายด้วยความอุมามิของสาหร่าย ไม่ได้ออกเค็มโดดกลิ่นทะเลขนาดนั้น แต่เป็นแนวนวลๆละมุนๆ
Wanmono(Soup Dish)
*Amadai Matsutake Kigiku
จานนี้เป็นจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้ เป็นซุปปลาอามะไดกับมัทซึทาเกะ ใส่มะนาวซึดาจิเเละกระเจี๊ยบ ดอกไม้ เนื่องจากผมอยากกินมัทซึทาเกะเชฟเลยจัดให้ครับ เป็นซุปที่ดีมากๆ เชฟบาลานซ์รสต่างๆที่หลากหลายในชามออกมาได้อย่างสุดยอด มีมิติเเละซับซ้อนมากๆ ตัวปลาที่เนื้อเเน่น ซุปรสอุมามิอ่อนๆหอมกลิ่นอายทะเลตัดกับรสเปรี้ยวเบาๆของซึดาจิที่ช่วยเพิ่มความอุมามิให้กับซุป กลิ่นดอกKigikuและกลิ่นซิตรัสช่วยเพิ่มกลิ่นที่สลับซับซ้อน ก่อนปิดท้ายด้วยเท็กเจอร์ความกรอบลื่นจากกระเจี๊ยบญี่ปุ่น สุดยอดครับ
Mukouzuke(Sashimi)
*Miyabidai
ปลามิยาบิไดซาชิมิ เสริฟ์มากับเครื่องจิ้มที่หลากหลายมากๆ ทั้ง Tosazu เกลือ โชยุ ปลาเนื้อกรอบใช้ของดีครับ
*Kohada Garimaki
Kohada garimaki โรลปลาโคฮาดะดองกับเมียวกะ ขิงดอง แตงกวา และออนท็อปด้วยดอกฮานะโฮชิโซะ จานนี้ดอกโฮชิโซะมาอลังการดีใครทำร้านอาหารญี่ปุ่นน่าจะรู้ราคาดีครับ จานนี้เเม้รสชาติจะดูเข้มข้น แต่กลับออกเป็นแนวสดชื่นทานได้เรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะการเลือกใช้โคฮาดะที่มันไม่มากนัก น้ำดองที่รสไม่จัดมากนัก และแตงกวากับความฉุนเฉพาะตัวของเมียวงะในการเบรครส มีทั้งความกรอบจากผักและความนุ่มของเนื้อปลาเป็ฯโรลที่น่าสนใจดีครับ
*kinki
จานต่อมา เชฟเสริฟ์ปลา Kinki จาก Kushiro นำไปอาบุริเล็กน้อย เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมอ่อน ตัวปลาปลาดีมากๆครับ มัน ฉ่ำ เด้ง ดีจนตกใจเลยผมไม่เคยเจอKinki คุณภาพแบบนี้ในไทย ดีใจจนอยากกรีดร้องแลยครับเพราะชอบเจ้าปลาตัวนี้มาก จะลองจิ้มกับโชยุก็ดี หรือจะจิ้มกับTosa zuก็ได้
Yakimono(Grille Dish)
*Gindara Shinrenkon Unagi
Morokyuu
จานนี้มีสองอย่างในจานเดียวคือ ปลากินดาระจากฮอคไกโด และอุนางิครับ จากการกินUnagi นั้นปลาขึ้นสดๆย่างออกมาได้ดีมากๆไม่เเพ้ร้านปลาไหลดังๆในไทย เนื้อฟูเบานุ่มมีความมันเเทรกผิวกรอบบางๆไม่เเข็ง ผมว่าทำได้ดีเกินเบอร์ร้านที่ไม่ใช่ร้านปลาไหลไปแล้วครับ ปลากินดาระทำได้ตามมาตราฐานร้านครับเนื้อเด้งฉ่ำมัน
เครื่องเคียงในจานนี้มี รางบัวน้ำมันงา รสหวาน และแตงกวาดอง รสเผ็ด
Nimono(Simmered Dish)
*Kaki Namanameko
kujhonegi
จานต่อมาเชฟเสริฟ์มาในหม้อร้อน เป็นหอยนางรมตัวโต(จริงๆ)จากเมืองakashi ,มันถูกนำไปเทมปุระ ก่อนราดในดาชิเดือดปุดๆ เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมคุโจ Daikon oroshi และเห็ด Nameko จานนี้แม้วัตถุดิบจะเป็นของดีหมด แต่ผมว่าดาชิเข้มข้นไปพอซึมเข้าตัวแป้งมากๆแล้วกลบรสหวานครีมมี่ของหอยนางรมไป แม้จะมีมีรสหัวไชเท้าหวานๆคอยช่วยเสริม
Shiizakana(Main Dish)
*A5kagoshima gyu (fillet)
*A5kagoshima gyu(misuji)
*Ginnan
จานต่อมาเชฟเสริฟ์มาในหม้อร้อน เป็นหอยนางรมตัวโต(จริงๆ)จากเมืองakashi ,มันถูกนำไปเทมปุระ ก่อนราดในดาชิเดือดปุดๆ เสริฟ์มาพร้อมกับต้นหอมคุโจ Daikon oroshi และเห็ด Nameko จานนี้แม้วัตถุดิบจะเป็นของดีหมด แต่ผมว่าดาชิเข้มข้นไปพอซึมเข้าตัวแป้งมากๆแล้วกลบรสหวานครีมมี่ของหอยนางรมไป แม้จะมีมีรสหัวไชเท้าหวานๆคอยช่วยเสริม จานนี้เป็นสเต็กเนื้อคาโกชิมะ A5 ส่วนHire ชิ้นนึงและ Misuji อีกชิ้น รับประทานกับ แป๊ะก๊วย จานนี้เชฟปรุงมาเเบบMedium rare ตัวเนื้อย่างเนย ซอสรสหวานนำ รับประทานกับเกลือและวาซาบิ รสเข้มข้นตามสไตล์เนื้อA5 ที่บางคนอาจจะรู้สึกว่าหนักไปถ้ากินกับซอสที่รสเข้มข้นแบบนี้ ตัวแป๊ะก๊วยเป็นของที่ผมชอบมากๆครับ เท็กเจอร์หนึบๆมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและไม่ขม เเป๊ะก๊วยดีๆนี่เเตกต่างจริงๆครับ
Agemono(Deep Fried Dish)
*Shibaebi shinjyou
*Manganji tougarashi
พริกManganji Peppers สอดไส้ลุกชิ้นกุ้งย่าง พริกตัวนี้มีลักษณะคล้ายพริกกระดิ่งอยู่บ้างแต่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันเล็กน้อย ไส้กุ้งสับรสหวานข้างในเข้ากับพริกหวานที่เผ็ดเบาได้ดี เกลือที่โรยมาอ่อนๆนั้นช่วยขับทั้งรสหวานของผักเเละกุ้งได้ดี ทำได้ตามมาตราฐานร้านครับ
Shokuji(Rice Dish)
*Akijyake
*Nama sujiko
*5kind japanese mushroom
*Seri
ข้าวอบ Nama Sujiko หรือไข่เเซลม่อนสด และปลาเเซลม่อนจาก Hokkaido เห็ดShitake , Maitakeและใบเซริ รับประทานกับซุปมิโซะซึคุเนะ
ข้าวอบยังเป็นอาหารที่ผมประทับใจ Kuon no tsuki ที่สุด เป็นร้านที่ทำข้าวอบได้ดีมากๆครับ และในวันนี้ข้าวอบของที่นี้ยังคงอร่อยเช่นเคย
Tomewan(Miso Soup)
Kounomono(tsukemono)
Mizugashi(Watery Dessert)
*Peach
*Japanese Grape(Kyoho)
พีชกับองุ่นจากนากาโน่ ผลไม้ชั้นเลิศนั้นสร้างความเเตกต่างระหว่างมื้ออาหารดีกับมื้ออาหารเลิศได้ดีจริงๆ
Kanmi(Seasonal Dessert)
*Tamagoyaki
*Kuri shibukawani
*Kaki butter
ไข่หวาน ลูกผลับ และเกาลัดจากTanba ที่ว่ากันว่าดีสุดในญี่ปุ่น
ตัวไข่หวานนั้นดูแค่จำนวนชั้นแล้วก็น่าจะช็อคกันนะครับเป็นร้านที่ทำไข่หวานได้สวยงามมาก การทำไข่หวานได้ในระดับนี้นอกจากฝีมือเชฟต้องเก่งกาจแล้วยังต้องอาศัยเวลาและสมาธิเป็นอย่างมาก
#Score:
Service : 7.5/10
Food:8/10
WOW factor: 8/10
Value for money: 7.5/10
Total: 7.75/10
Visit : Sep-2023
เเผนที่ : https://maps.app.goo.gl/4zVk1zGB2BbdCinS9
เวลาเปิดปิด: 12–3 PM, 6–10 PM ปิดทุกวันจันทร์
ค่าเสียหาย: ~7500++ Baht
เว็บไซต์ร้าน: NA
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้