เบื่อกับครอบครัวมาก ทำยังไงดี

สวัสดีค่ะ เราขอเกริ่นก่อนว่าพ่อกับแม่เราหย่าร้างกันและแยกกันอยู่ค่ะ แม่เราพาน้องสาวเราไปอยู่ด้วย ส่วนเราอยู่กับพ่อค่ะ พ่อเราเป็นคนไม่ทำงาน หรือถ้าช่วงไหนทำงานก็จะยิ่งดื่มเหล้าหนักมากๆจนโวยวาย ทำลายข้าวของ ตะคอกด่า ทำแบบนี้ตั้งแต่เราป.2 จนเราม.6 ทำให้เรากลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ แพนิคเสียงดัง และซึมเศร้าค่ะ พอขึ้นมหาลัยอาการเราก็เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย จนตอนนี้อาการเริ่มกลับมาเพราะน้องสาวค่ะ น้องสาวกับเราห่างกัน 7 ปี เราอยู่มหาลัยปี 2 น้องเราอยู่ม.1 แม่กับน้องชอบทะเลาะกันมากๆ แม่ชอบให้เราคุยกับน้อง ให้สอนน้อง ส่วนน้องก็ชอบให้เราคุยกับแม่ให้หน่อยเวลาพวกเขาทะเลาะกันจนเราเบื่อ และแอบคิดว่าน้องสาวที่ได้อยู่กับแม่ตั้งแต่เด็ก มีพ่อเลี้ยงที่ใจดีถึงขั้นไม่ยอมมีลูกเป็นของตัวเองเพราะจะได้เลี้ยงน้องเราได้อย่างเต็มที่ แต่น้องก็ชอบพูดว่าไม่อยากเกิดมา เพียงเพราะว่าทะเลาะกับแม่ และชอบพูดว่าอยากเป็นเรา เราสบายหรือว่าเราดีกว่า ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลยว่าตอนที่เราอายุเท่าน้อง เราต้องแพนิคกับพ่อขี้เมาขนาดไหน เราเคยไปกินข้าวกับแม่ที่แวะมาหาเราที่มหาลัย โดยมีน้องและพ่อเลี้ยงมาด้วย วันนั้นเราจำได้เลยว่าตัวเองเหมือนส่วนเกินมากๆ ร้านอาหารที่เคยกินกับเพื่อนแล้วบอกว่าอร่อย ในวันนั้นเราแทบรู้สึกไม่อยากกินเลย เรารู้สึกแย่มากหลังจากวันนั้น และยิ่งรู้สึกแย่ไปใหญ่เวลาที่แม่โอนเงินให้หรือเราต้องคุยกับแม่เรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาลัย เพราะแม่ต้องแอบโอนให้ แอบไม่ให้น้องเห็น ซึ่งเรายอมรับว่าเรารู้สึกแย่จนร้องไห้ออกมาเลย มันเหมือนเราเป็นส่วนเกิน ไม่มีที่ไหนคือที่ๆเราควรอยู่เลย พ่อก็พึ่งพาไม่ได้ แม่ก็ไม่สามารถแสดงความรักต่อเราได้อย่างเต็มที่ ส่วนน้องก็ไม่รู้จักโต เอาแต่ปัญหาเล็กๆมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เช่น เสื้อครอปโดนผู้ใหญ่ห้ามไม่ให้ใส่ ก็นำมาทะเลาะกันใหญ่โต เหตุกราดยิงที่พารากอนพึ่งเกิดไปแม่ห้ามว่าอย่าไปเที่ยวห้างระยะนี้ก่อนก็ไม่ฟัง นำมาทะเลาะกันอีก อีกอย่างน้องเราเท้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผ่าตัดบ่อยและซื้อรองเท้าดัดบ่อยมาก ตอนเด็กตอนที่กระดูกยังอ่อนก็ไม่ยอมใส่เพราะว่าอายเพื่อน จนมันเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาก็มาบ่นทีหลังว่าอยากหายแต่ก็ไม่ยอมรักษาให้มันดีๆ จนเราก็แอบคิดว่าเขาไม่รู้จักแยกแยะบ้างเลยหรออะไรสำคัญ อะไรควรทำ เรารู้สึกโดนบังคับให้มีความคิดให้โตกว่าอายุ เหมือนโดนบังคับให้เร่งโต ซึ่งเราเหนื่อยมากๆ บางครั้งเราก็อยากงี่เง่าบ้าง เอาแต่ใจบ้าง แต่สุดท้ายก็รู้ว่าทำแบบนั้นก็ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ ก็ต้องเก็บมันเอาไว้ในใจ เรื่องทั้งหมดเหล่านี้มันทำให้เราตอนนี้อาการที่เคยเป็นมันกลับมาอีกรอบ ซึ่งเราลองทำสิ่งที่เราเคยทำแล้วมีความสุขดู ในตอนนี้เรากลับเฉยๆแล้วค่ะ ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย มันมีแต่ความรู้สึกอึดอัด รู้สึกอยากตัดทุกอย่างทิ้ง อยากระบายให้ใครสักคนฟัง แต่พอเราโตขึ้นเรากลับหาคนที่ระบายให้ฟังได้ยากมาก เรารู้สึกว่าทุกคนมีเรื่องเครียดเป็นของตัวเอง เลยยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่มีใครให้คุยด้วยเลย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เหมือนตัวคนเดียว จนเราแอบคิดว่าถ้าไม่มีเราแม่ก็อาจจะเต็มที่กับพ่อเลี้ยงน้องหรือสร้างครอบครัวกันได้เต็มที่กว่านี้ หรือแม้กระทั่งป้าเราที่เขามีบุญคุณกับเราช่วยส่งค่าขนมให้เราทุกเดือน ช่วยออกค่าเทอมให้ตอนมัธยม เราก็ยังคิดว่าถ้าไม่มีเรา เขาก็คงสามารถให้การดูแลกับลูกเขาเต็มที่ได้มากกว่านี้ พอคิดแบบนั้นเรายิ่งดิ่งเหมือนจะตาย รู้สึกหาความสุขได้ยากขึ้น และยิ่งทำให้เราไม่สามารถรักและเอ็นดูน้องได้แบบพี่สาวคนอื่นๆ เพราะเราพยายามเป็นพี่สาวที่ดีมากๆ แต่ทุกครั้งเวลาที่สอนน้อง น้องก็จะไม่อ่านไม่ตอบ แต่เวลาทะเลาะกับแม่ก็จะมาระบายกับเราจนเรารู้สึกเหมือนถังขยะ กับพ่อที่คนอื่นอาจมองว่าเราเนรคุณ เราไม่มีความรักหรือเคารพเลย จากที่โดนมาตลอดสิบกว่าปี มันไม่มีอะไรให้น่าเคารพรักเลย แต่ทุกวันนี้ที่ต้องกลับบ้านก็เพราะเราอยากกลับไปหาย่าที่ต้องคอยหาข้าวหาน้ำให้พ่อเราอีกที เพราะพ่อเราไม่ทำงาน วันๆก็ขอเงินย่าไปดื่มเหล้า เรารู้สึกชีวิตเฮงซวยมาตลอด เราอยากพอกับทุกอย่าง รู้สึกเหนื่อยมากที่ต้องคอยพยายามเติมโตให้เร็วขึ้น ต้องรีบลิ้มรสความเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าคนรุ่นเดียวกัน ต้องมารับรู้ว่าเรียนจบมาเรามีภาระหน้าที่อะไรต้องดูแลบ้าง เราเหนื่อยที่จะรับรู้เรื่องทุกอย่าง ถ้าเราเล่าอะไรวกไปวนมาต้องขอโทษด้วยนะคะ จริงๆนี่ก็แอบเป็นการระบายด้วยค่ะ เพราะมันไม่ไหวแล้วจริงๆ 55555 ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่