1. ปันผลสูง จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยง เมื่อหุ้นนั้นยังเป็นขาลง และจะเป็นตัวเพิ่มกำไร เมื่อหุ้นนั้นกลับเป็นขาขึ้น ถือหุ้นมีปันผลจะมี "เวลา" เป็นตัวช่วยลดความเสียหาย
2. หนี้น้อย ความเสี่ยงที่มีการเพิ่มทุนจะน้อยกว่า และมีโอกาสปันผลได้สูงกว่าหุ้นที่มีหนี้มาก
3. BV โตสม่ำเสมอ สะท้อนถึงการเติบโตของกิจการ อุ่นใจได้ว่าถัวแล้วราคาไม่ขึ้น แต่อย่างน้อยมูลค่ากิจการยังเติบโตอยู่
4. P/BV ต่ำ ถ้าต่ำกว่า 1 หมายถึงซื้อได้ในราคาถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี
5. %free float ไม่สูง รายย่อยยังถืออยู่น้อย การควบคุมราคาจะทำได้ง่ายกว่า มีโอกาสที่ราคาจะฟื้นได้เร็วเมื่อกลับเป็นขาขึ้น
6. Market Cap. ที่เหมาะกับจำนวนเงินที่ใช้ถัว ถ้าเป็นหุ้นขนาดเล็กมาก ยิ่งใช้เงินจำนวนมากจะยิ่งเสี่ยง
7. สัญญาณกลับตัวทางเทคนิค เช่น divergence รูปแบบ HH HL เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวขึ้น
นึกได้ประมาณนี้ คุณล่ะครับเวลาถัวดูอะไรบ้าง
หุ้นที่จะถัวควรมี ?
2. หนี้น้อย ความเสี่ยงที่มีการเพิ่มทุนจะน้อยกว่า และมีโอกาสปันผลได้สูงกว่าหุ้นที่มีหนี้มาก
3. BV โตสม่ำเสมอ สะท้อนถึงการเติบโตของกิจการ อุ่นใจได้ว่าถัวแล้วราคาไม่ขึ้น แต่อย่างน้อยมูลค่ากิจการยังเติบโตอยู่
4. P/BV ต่ำ ถ้าต่ำกว่า 1 หมายถึงซื้อได้ในราคาถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี
5. %free float ไม่สูง รายย่อยยังถืออยู่น้อย การควบคุมราคาจะทำได้ง่ายกว่า มีโอกาสที่ราคาจะฟื้นได้เร็วเมื่อกลับเป็นขาขึ้น
6. Market Cap. ที่เหมาะกับจำนวนเงินที่ใช้ถัว ถ้าเป็นหุ้นขนาดเล็กมาก ยิ่งใช้เงินจำนวนมากจะยิ่งเสี่ยง
7. สัญญาณกลับตัวทางเทคนิค เช่น divergence รูปแบบ HH HL เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวขึ้น
นึกได้ประมาณนี้ คุณล่ะครับเวลาถัวดูอะไรบ้าง