Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยรายได้จากธุกิจบริการที่สูงกว่าคาดการณ์ ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.46 ดอลลาร์ ต่อหุ้นสูงกว่าที่คาดไว้ 1.39 ดอลลาร์ ต่อหุ้น รายได้รวม 89,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 89,280 ล้านดอลลาร์
รายได้จาก iPhone เพิ่มขึ้น 3% เป็น 43.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อน สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 43.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้จากธุรกิจบริการ รวมถึง Apple Pay, Apple TV+, และ iCloud storage มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% เป็น 22.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปีก่อน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 21.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งนำโดยธุรกิจบริการ เพิ่มขึ้น 6.1% ในไตรมาสที่ 4 จากปีก่อน
รายได้จากหมวดหมู่ wearables, home and accessories ของ Apple - ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่า other products - ลดลง 3.4% เป็น 9.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม รายได้จาก iPad ลดลง 10% และรายได้จาก Mac ลดลง 34% ในไตรมาสนี้จากปีก่อน การทำลายสถิติทั้งด้านรายได้และกำไรเกิดขึ้นในขณะที่ยอดขายในอเมริกาและยุโรปช่วยบรรเทาผลกระทบต่อรายได้จากการที่ยอดขายในจีนลดลง 2.5% จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง Huawei
ราคาหุ้น Apple ร่วงลงในช่วงปิดการซื้อขายจากการเปิดเผยว่าช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้ที่เป็นเทศกาลวันหยุด ยอดขายของบริษัทฯอาจจะเติบโตไม่มากนัก
Apple รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด แต่ยอดขายฮาร์ดแวร์อื่นยกเว้นไอโฟนเติบโตลดลง
รายได้จาก iPhone เพิ่มขึ้น 3% เป็น 43.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อน สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 43.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายได้จากธุรกิจบริการ รวมถึง Apple Pay, Apple TV+, และ iCloud storage มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% เป็น 22.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปีก่อน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 21.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งนำโดยธุรกิจบริการ เพิ่มขึ้น 6.1% ในไตรมาสที่ 4 จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม รายได้จาก iPad ลดลง 10% และรายได้จาก Mac ลดลง 34% ในไตรมาสนี้จากปีก่อน การทำลายสถิติทั้งด้านรายได้และกำไรเกิดขึ้นในขณะที่ยอดขายในอเมริกาและยุโรปช่วยบรรเทาผลกระทบต่อรายได้จากการที่ยอดขายในจีนลดลง 2.5% จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง Huawei
ราคาหุ้น Apple ร่วงลงในช่วงปิดการซื้อขายจากการเปิดเผยว่าช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้ที่เป็นเทศกาลวันหยุด ยอดขายของบริษัทฯอาจจะเติบโตไม่มากนัก