ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนพุทธค่ะ เราคบกับแฟนชาวต่างชาติที่เป็นมุสลิม โดยที่ผ่านๆมาระยะเวลา 4 ปี เราได้ใช้ชีวิตแบบชาวมุสลิมที่ประเทศของเขา ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างว่าเราสามารถทำได้ไหม ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาอะไร ต้องบอกก่อนว่า บ้านของแฟนเรานั้น ทางครอบครัวค่อนข้างเคร่งเรื่องศาสนาค่ะ
เรากลับมาอยู่ไทยและทำงานที่ไทยได้สักระยะนึง พอดีมีเหตุการณ์ที่เราเองก็ไม่คาดคิด ทางอาของเราล้มป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งเขามีธุรกิจส่วนตัว และพึ่งเปิดบริษัทที่ 2 ไปไม่นานมานี้เอง เขาได้โทรหาเราให้กลับไปช่วยงานเขา เพื่อรับช่วงบริษัทต่อ คือบริษัทของอาเราเป็นบริษัทที่ต้องสื่อสารและทำงานร่วมกับต่างชาติหลายชาติมาก เช่น รัสเซีย เยอรมัน สหรัฐ ฝรั่งเศษ
กลับมาเรื่องแฟนต่อ เรามีแพลนที่จะแต่งงานกันค่ะ ซึ่งเราก็ได้วางแผนกัน แต่มาติดตรงที่ว่า ทางบ้านแฟนให้เราเป็นมุสลิมแบบเต็มตัว ความหมายคือ คลุมหัวเหมือนมุสลิมค่ะ ตอนแรก เราก็โอเคกับเรื่องนี้ เพราะเราคิดว่าเราคงไม่ได้ทำอะไรแค่อยู่บ้านและดูแลสามี แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิต เรื่องรับธุรกิจต่อจากอามันอาจยากต่อการทำอะไรแบบนี้ ซึ่งถ้าคนที่ทำงานกับต่างชาติจะรู้ดีว่าชาวต่างชาติบางคนจะเข้าถึงมุสลิมยากมาก จะมีข้อหรืออะไรหลายๆอย่างที่เราไม่รู้ การเข้าถึงลูกค้า หรือ การที่ลูกค้าเข้าถึงเราจะมีเส้นบางๆขีด การดิวกับลูกค้าก็จะยากขึ้น ซึ่งเรามองถึงเรื่องนี้ แต่ ทางบ้านแฟนไม่เข้าใจ พยายามที่จะให้เราทำ เราเลยไปปรึกษาทางครอบครัวเรา ซึ่งพ่อเราก็ไม่เห็นด้วย แค่เราเปลี่ยนศาสนาก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรจะบังคับอะไรแบบนี้ ก็มีการทะเลาะกัน ซึ่งทางแฟนของเราก็พยายามให้เราเปลี่ยนตามที่ฝั่งครอบครัวเขาได้บอกมา ทางครอบครัวเราบอกแค่ว่าเราต้องคิดเอาเองว่าควรที่จะทำหรือไม่ ทำแล้วมีความสุขไหม
ทางแฟนของเราก็ทวงคำที่เราเคยบอกว่า เราจะทำออกมา เรารู้ว่าอันนี้เราผิดที่พูดว่าจะทำ แต่ตอนนี้มันมีสิ่งที่เราจะต้องทำมากกว่าเเพื่อครอบครัวของเราเอง
ตอนนี้ทางฝั่งครอบครัวแฟนพยายามที่จะให้เราคลุมหัวและเป็นมุสลิม แฟนเราเองก็คอยพูดและเหมือนบังคับให้เราทำ
ตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง เหมือนทุกอย่างอยู่ที่เราคนเดียว เรารู้ว่าถ้าเราทำหรือคลุมหัว เราจะทำงานยากขึ้น เราต้องไม่มีความสุขแน่ๆ แต่ถ้าเราไม่ทำทางฝั่งแฟนเองก็ไม่มีความสุข เราควรต้องทำยังไง
มีปัญหาก่อนที่จะแต่งงาน กับ แฟนชาวมุสลิม
เรากลับมาอยู่ไทยและทำงานที่ไทยได้สักระยะนึง พอดีมีเหตุการณ์ที่เราเองก็ไม่คาดคิด ทางอาของเราล้มป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งเขามีธุรกิจส่วนตัว และพึ่งเปิดบริษัทที่ 2 ไปไม่นานมานี้เอง เขาได้โทรหาเราให้กลับไปช่วยงานเขา เพื่อรับช่วงบริษัทต่อ คือบริษัทของอาเราเป็นบริษัทที่ต้องสื่อสารและทำงานร่วมกับต่างชาติหลายชาติมาก เช่น รัสเซีย เยอรมัน สหรัฐ ฝรั่งเศษ
กลับมาเรื่องแฟนต่อ เรามีแพลนที่จะแต่งงานกันค่ะ ซึ่งเราก็ได้วางแผนกัน แต่มาติดตรงที่ว่า ทางบ้านแฟนให้เราเป็นมุสลิมแบบเต็มตัว ความหมายคือ คลุมหัวเหมือนมุสลิมค่ะ ตอนแรก เราก็โอเคกับเรื่องนี้ เพราะเราคิดว่าเราคงไม่ได้ทำอะไรแค่อยู่บ้านและดูแลสามี แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิต เรื่องรับธุรกิจต่อจากอามันอาจยากต่อการทำอะไรแบบนี้ ซึ่งถ้าคนที่ทำงานกับต่างชาติจะรู้ดีว่าชาวต่างชาติบางคนจะเข้าถึงมุสลิมยากมาก จะมีข้อหรืออะไรหลายๆอย่างที่เราไม่รู้ การเข้าถึงลูกค้า หรือ การที่ลูกค้าเข้าถึงเราจะมีเส้นบางๆขีด การดิวกับลูกค้าก็จะยากขึ้น ซึ่งเรามองถึงเรื่องนี้ แต่ ทางบ้านแฟนไม่เข้าใจ พยายามที่จะให้เราทำ เราเลยไปปรึกษาทางครอบครัวเรา ซึ่งพ่อเราก็ไม่เห็นด้วย แค่เราเปลี่ยนศาสนาก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรจะบังคับอะไรแบบนี้ ก็มีการทะเลาะกัน ซึ่งทางแฟนของเราก็พยายามให้เราเปลี่ยนตามที่ฝั่งครอบครัวเขาได้บอกมา ทางครอบครัวเราบอกแค่ว่าเราต้องคิดเอาเองว่าควรที่จะทำหรือไม่ ทำแล้วมีความสุขไหม
ทางแฟนของเราก็ทวงคำที่เราเคยบอกว่า เราจะทำออกมา เรารู้ว่าอันนี้เราผิดที่พูดว่าจะทำ แต่ตอนนี้มันมีสิ่งที่เราจะต้องทำมากกว่าเเพื่อครอบครัวของเราเอง
ตอนนี้ทางฝั่งครอบครัวแฟนพยายามที่จะให้เราคลุมหัวและเป็นมุสลิม แฟนเราเองก็คอยพูดและเหมือนบังคับให้เราทำ
ตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง เหมือนทุกอย่างอยู่ที่เราคนเดียว เรารู้ว่าถ้าเราทำหรือคลุมหัว เราจะทำงานยากขึ้น เราต้องไม่มีความสุขแน่ๆ แต่ถ้าเราไม่ทำทางฝั่งแฟนเองก็ไม่มีความสุข เราควรต้องทำยังไง