ผมเป็นเด็กอิสานคนนึงที่อยู่กับตายายตั้งแต่เด็ก พ่อแม่เลิกกันพ่อเป็นคนกรุงเทพแต่แม่อิสานที่ไปทำงานที่กรุงเทพ ตอนเด็กๆผมคิดมาตลอดว่าพ่อกับแม่รักกันดี แต่ผมมารู้อีกทีว่าพ่อแม่เลิกกันนานแล้วก็ตอนที่คนรอบข้างชอบถามกันว่า พ่อกับแม่คืนดีกันยัง ตอนนั้นผมยังเด็กผมยังไม่รู้อะไรผมก็ได้แต่ตอบไปว่าดีกันแล้ว ตอบไปแบบงงๆเพราะตอนนั้นไม่รู้เรื่องไรเพราะย้งเด็กตอนนั้นประมาณ ป.4 - ป.5 ขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ ตอนประถมผมเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดครับ แต่พอจบป.6 แม่ผมก็พาไปเรียนที่กรุงเทพ ต่อ ม.1 ช่วงแรกๆที่ห่างจากตายายไปผมแอบร้องไห้เกือบทุกวัน แม่ผมชอบดุชอบด่าชอบตีครับ ผมทำการบ้านไม่ได้ขอให้แม่สอน พอผมทำตามไม่ได้เขาก็จะด่าแรงๆและก็ตีครับ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.1 - ม.3 เลยครับ จนผมจบ ม.3 ผมก็ไปเรียนต่อ ปวช. เพราะคิดว่าตัวเองเรียนต่อ ม.ปลาย ไม่ไหวแน่ๆ ช่วงที่เรียน ปวช. ไม่โดนด่าโดนตีเพราะเรื่องเรียนเลยครับ เพราะผมไม่ให้เขาสอนอีกเลย ผมเลือกที่จะให้เพื่อนสอนดีกว่า แต่ผมจะโดนเรื่องที่ขอไปเที่ยวกับเพื่อนมากกว่าครับ เขาจะชอบพูดว่า จะไปได้ยังไงเดี๋ยวก็ไปติดเหล้าติดยาเดี๋ยวก็เถลไถลไม่เรียน ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่เพราะไม่ชอบกลิ่น ส่วนเหล้าผมจะกินแค่ช่วงเทศกาลตอนกลับไปบ้านเกิด และมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ผมขอไปเที่ยวกับเพื่อนตั้งแต่ ปวช.1 - ปวช.3 ผมไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อนเลยสักครั้ง และเขาไม่เคยให้ผมออกจากบ้านตั้งแต่มาเรียนที่นี้ ผมรู้ว่าผมเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหนนอกจากซื้อข้าว ผมเลยเลือกที่จะรักษาตัวเอง หาวิธีฮิลใจตัวเอง แต่ทุกครั้งแม่ก็จะขัดไว้ตลอด หลังจากนั้นผมไม่พยายามแล้วครับ ผมอยู่แต่บ้านใครชวนไปไหนผมไม่ไป จนตอนนี้ผมเรียนอยู่ ปวส.2 อีกแค่ 1 เทอมจะจบแล้ว และช่วงนี้ผมร้องไห้บ่อยมากเพราะคำด่าของคนเป็นแม่ของผมเอง
แม่จ้างช่างมาซ่อมบ้านและต่อเติมบ้าน อาทิตย์แรกผมไม่โดนด่าอะไรเพราะผมไปทำโปรเจคที่วิลัย ต่อมาอาทิตย์ที่สองผมตื่นเที่ยงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะเอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ลงไปเจอแม่ แม่ = จะไปไหน ผม = จะเอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง แม่ = จะเอาไปอะไรวันนี้ช่างมาเต็มบ้านทำไมไม่ช่วยทำ
ผมคิดในใจ = ก็มันเป็นน่าที่ของช่างรึป่าว แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อผมก็ได้แต่ช่วยเก็บกวาดไปเรื่อยๆจนเสร็จผมก็เดินขึ้นห้อง อาทิตย์ที่สามก็คือวันนี้ ผมตื่นแต่เช้าแต่ไม่ได้ออกนอกห้อง ตอนเที่ยงแม่เดินขึ้นมาบอกว่า เดี๋ยวผับเสื้อผ้าบนตู้แล้วลงไปดูช่างด้วยนะแม่ไปข้างนอก ผมต่อไปว่าครับ หลังจากแม่ออกไปข้างนอกผมก็ลงไปต้มมาม่า แล้วก็นั่งกินดูช่างทำงานสักพักใหญ่ๆ แล้วผมก็ขึ้นห้องได้แปปเดี๋ยวแม่กลับมาอาละวาดใส่ผมหาว่าผมไม่ลงไปเฝ้าช่างละยังไม่ผับผ้าอีก ซึ่งผมผับเสร็จหมดแล้วแต่เขาไม่ได้ดู เขาด่าแรกมากและด่าแบบนี้ทุกครั้งที่ช่างมาทำบ้าน พอผมพูดว่าลงไปเฝ้ามาแล้วผ้าก็ผับเสร็จ และชี้ให้ดูแต่เขาไม่คิดที่จะหันไปดูสักนิด และเขาก็บอกว่ายังจะมาเถียงอีกจะไม่โกรธขนาดนี้เลยถ้าไม่เถียง และผมก็เงียบส่วนเขาก็ด่าไปเรื่อยๆจนเขาพอใจเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เขาพูดว่าถ้าไม่มีกูก็อยู่ได้ อยู่ไปก็ไม่ช่วยทำอะไร ไม่ขับรถชนตายไปเลยว่ะ...
ผมแค่อยากขอช่องทางระบายครับถ้าพิมพ์งงขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมอยากตายจริงๆ
อยากตาย.
แม่จ้างช่างมาซ่อมบ้านและต่อเติมบ้าน อาทิตย์แรกผมไม่โดนด่าอะไรเพราะผมไปทำโปรเจคที่วิลัย ต่อมาอาทิตย์ที่สองผมตื่นเที่ยงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะเอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ลงไปเจอแม่ แม่ = จะไปไหน ผม = จะเอารถไปถ่ายน้ำมันเครื่อง แม่ = จะเอาไปอะไรวันนี้ช่างมาเต็มบ้านทำไมไม่ช่วยทำ
ผมคิดในใจ = ก็มันเป็นน่าที่ของช่างรึป่าว แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อผมก็ได้แต่ช่วยเก็บกวาดไปเรื่อยๆจนเสร็จผมก็เดินขึ้นห้อง อาทิตย์ที่สามก็คือวันนี้ ผมตื่นแต่เช้าแต่ไม่ได้ออกนอกห้อง ตอนเที่ยงแม่เดินขึ้นมาบอกว่า เดี๋ยวผับเสื้อผ้าบนตู้แล้วลงไปดูช่างด้วยนะแม่ไปข้างนอก ผมต่อไปว่าครับ หลังจากแม่ออกไปข้างนอกผมก็ลงไปต้มมาม่า แล้วก็นั่งกินดูช่างทำงานสักพักใหญ่ๆ แล้วผมก็ขึ้นห้องได้แปปเดี๋ยวแม่กลับมาอาละวาดใส่ผมหาว่าผมไม่ลงไปเฝ้าช่างละยังไม่ผับผ้าอีก ซึ่งผมผับเสร็จหมดแล้วแต่เขาไม่ได้ดู เขาด่าแรกมากและด่าแบบนี้ทุกครั้งที่ช่างมาทำบ้าน พอผมพูดว่าลงไปเฝ้ามาแล้วผ้าก็ผับเสร็จ และชี้ให้ดูแต่เขาไม่คิดที่จะหันไปดูสักนิด และเขาก็บอกว่ายังจะมาเถียงอีกจะไม่โกรธขนาดนี้เลยถ้าไม่เถียง และผมก็เงียบส่วนเขาก็ด่าไปเรื่อยๆจนเขาพอใจเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เขาพูดว่าถ้าไม่มีกูก็อยู่ได้ อยู่ไปก็ไม่ช่วยทำอะไร ไม่ขับรถชนตายไปเลยว่ะ...
ผมแค่อยากขอช่องทางระบายครับถ้าพิมพ์งงขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมอยากตายจริงๆ