JJNY : ยอดดับพุ่ง 20 ศพ ถูกจับ 14ราย│“ปดิพัทธ์”ชี้ปมข่าวฉาว พรรคจัดการได้│‘ก้าวไกล’ย้ำสอบสส.แชต│ขนส่งชื่อดัง รับลดค่าคอม

ด่วน แรงงานไทย ใน อิสราเอล ยอดดับพุ่ง 20ศพ ถูกจับเพิ่มเป็น 14ราย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7910473

กระทรวงการต่างประเทศ เผย แรงงานไทย ใน อิสราเอล เสียชีวิตพุ่ง 20 ราย ได้รับบาดเจ็บเพิ่ม 13 ราย ถูกจับเพิ่มเป็น 14 ราย และขอกลับ 5,019 คน
 
วันที่ 11 ต.ค.2566 น.ส.กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงผลกระทบต่อแรงงานไทยในสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล ว่า ข้อมูลจากแรงงานในพื้นที่พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ราย และสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ รายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 4 ราย รวมเป็น 13 ราย และผู้ที่ถูกจับกุมไปเพิ่มเติมอีก 3 ราย เป็น 14 ราย
  
น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า และยังไม่ทราบสถานะความปลอดภัย จากที่ฮามาสระบุว่าจับตัวประกันไปรวม 150 คน นอกจากนี้ ได้อพยพแรงงานไทยไปที่ปลอดภัยกว่า 100 คนแล้ว และมีผู้ขอกลับไทย 5,019 คน ส่วนที่ไม่ขอกลับ 61 คน จากแรงงานไทยในพื้นที่สู้รบใกล้ฉนวนกาซ่าราว 5,000 คน และทั่วประเทศราว 30,000 คน
 
สำหรับผู้บาดเจ็บ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล ได้มีโอกาสไปเยี่ยมผู้ที่บาดเจ็บสาหัสในโรงพยาบาลใกล้กรุงเทลอาวีฟ และย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งแรงงานไทย


 
“ปดิพัทธ์” ชี้ปมข่าวฉาว “ส.ส.ก้าวไกล” คุกคามทางเพศ พรรคจัดการได้ รับกลไกสภาไม่พร้อม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4225892

“ปดิพัทธ์” ชี้ปมข่าวฉาว “ส.ส.ก้าวไกล” คุกคามทางเพศ พรรคจัดการได้ รับกลไกสภาไม่พร้อม ต้องตั้งผู้นำฝ่ายค้านด่วน
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ กรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของ ส.ส. พรรค ก.ก. ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากขณะนี้สภาฯ ยังไม่มีคณะกรรมการจริยธรรม ว่า ความจำเป็นที่ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องคณะกรรมการจริยธรรม คณะกรรมการสรรหาตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง ถ้าไม่มีผู้นำฝ่ายค้านก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่เรื่องนี้คงไม่ได้เป็นแค่กลไกเดียวที่จะสามารถทำให้เกิดการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้เห็นหลักฐานในหน้าสื่อแต่สำคัญที่สุดคือต้องมีโอกาสชี้แจงและแสดงหลักฐานเพิ่มเติม จากทางผู้ร้องและผู้ที่ถูกร้องด้วย และคิดว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะตอนนี้รอธุรการบางอย่างจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะรับรองสถานะหัวหน้าพรรค ก.ก. และจะมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเร็วๆ นี้แน่นอน
 
เมื่อถามว่า ได้มีคุยกับพรรค ก.ก. บ้างหรือไม่ว่ากรณีเช่นนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อในส่วนของสภาฯ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะเรื่องยังไม่ได้มาร้องที่สภาฯ แต่เรื่องไปร้องที่แต่ละพรรค ซึ่งจะมีคณะกรรมการจริยธรรมและข้อบังคับของตัวเอง ที่เราคงจะไม่ไปก้าวล่วงได้ แต่ผู้ร้องมีสิทธิ์ที่จะร้องทุกอย่าง ทั้งที่พรรคหรือที่สภาฯ ก็ได้ แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่ากลไกทางสภาฯ ยังไม่พร้อม
 
เมื่อถามว่า ทางสภาฯ สามารถหยิบหยกขึ้นมาพิจารณาเองได้ก่อนหรือไม่ หรือต้องมีผู้ร้องก่อน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องมีคนร้องก่อน เพราะไม่สามารถไปเก็บหลักฐานด้วยตัวเองได้ว่าหลักฐานเหล่านี้เก็บมาอย่างเป็นธรรมหรือครบถ้วนหรือไม่ ฉะนั้น ต้องมีคนร้องให้ชัดเจน



‘ก้าวไกล’ย้ำสอบสส.แชตสยิวอาสาสมัครต้องรอบคอบ
https://www.dailynews.co.th/news/2798260/

ฟังข้อเท็จจริงรอบด้านทั้ง 2 ฝ่าย รายงานคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะ-ยันไม่ดึงเวลา ไม่หวั่นเป็นเรื่องโจมตีทางการเมือง ให้ว่าไปตามถูกผิด

เมื่อวันที่ 11 ต.ค ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของ สส.พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร ว่า พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว และมีกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเฉพาะกิจเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งคณะกรรมการสอบวินัยได้สอบหาข้อเท็จจริงทั้งฝั่งผู้กล่าวหาที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และฝั่งผู้ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ในการสอบหาข้อเท็จจริงที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวอ้างตัวบุคคล และเอกสารจำนวนมาก จึงถือว่ากระบวนการยังไม่สิ้นสุด และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะสิ้นสุดเมื่อไรนั้น ตนคิดว่าไม่สามารถระบุเป็นวันเวลาได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าทั้งนี้ ได้มีการสื่อสารกับผู้เสียหายเป็นระยะว่าขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในขั้นไหน และในท้ายที่สุดเรื่องจะถูกเสนอให้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พิจารณา ขึ้นอยู่ว่า กก.บห.จะพิจารณาอย่างไร หากเรื่องนี้มีความคืบหน้า พรรคก้าวไกลจะแถลงให้ทราบพร้อมกับอีก 2 กรณีก่อนหน้านี้ ซึ่งเราได้มีการตัดสินความผิดไปนานแล้ว โดยอีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องภายในของพรรค แต่อีกด้านก็เป็นเรื่องที่เราต้องสื่อสารให้สังคมทราบ เพราะเขาคาดหวังกับเราสูง
 
เมื่อถามว่า เบื้องต้นถือว่ามีมูลความผิดหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวลาเรารับเรื่องเช่นนี้ เราก็จะมองว่ากว่าผู้เสียหายจะเดินทางมาร้องเรียน รวบรวมความกล้า รวบรวมข้อมูลหลักฐาน หรือบางกรณีก็ไม่มีพยานหลักฐาน เราจึงมองว่าเขากล้าตัดสินใจที่จะร้องเรียนก็ต้องถือว่าเรื่องเหล่านี้มีมูล แต่มูลจะเป็นลักษณะความผิดแบบใดนั้น มีวงเล็บภายในข้อบังคับพรรคที่มีความแตกต่างกัน

เมื่อถามต่อว่า โทษของกรณีนี้จะออกมาประมาณไหน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าตัดสินว่ามีความผิดแล้วเป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศก็ต้องถือว่าเป็นวินัยร้ายแรง โทษมีแค่ 2 สถานเท่านั้นคือ 
 
1.ตัดสิทธิ์ที่พึงมี ซึ่งอาจส่งไปถึงการตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง 
และ 2.ให้พ้นสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกของพรรค 
 
แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าในท้ายที่สุดผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ยอมรับว่าเราได้รับเรื่องมานานจริง แต่ก็มีการสอบหลายรอบ ตั้งแต่มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม แต่คณะกรรมการวินัยยังเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่มากพอ
 
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะมีกระบวนการคัดกรองผู้สมัครหรือไม่ เนื่องจากเกิดกรณีลักษณะนี้ในพรรคค่อนข้างมาก นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ รวมถึงได้มีการอบรมให้ความรู้ว่าที่ผู้สมัครและสมาชิกพรรค ในเรื่องของความรู้ด้านความเท่าเทียมทางเพศสำหรับนักการเมือง ซึ่งเราพยายามทำงานอย่างหนักในเรื่องนี้มาโดยตลอด

เมื่อถามต่อว่า หากเปรียบเทียบกับ สส.พรรคอื่นในประเด็นเดียวกัน จะเห็นว่าพรรคก้าวไกลแสดงท่าทีรวดเร็ว แต่เมื่อเป็นพรรคตัวเองกลับค่อนข้างช้า นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จริงๆ เราไม่ได้แสดงออกในนามพรรค และตนคงตอบกรณีอื่นไม่ได้ แต่คุณค่าหลักในเรื่องเพศเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมากที่สุด แต่ในเมื่อข้อเท็จจริงและหลักฐานของแต่ละรายไม่เหมือนกัน ทั้ง 2 ฝ่ายต่างอ้างพยานหลักฐาน คณะกรรมการวินัยมีมติว่าต้องสอบข้อเท็จจริงเพิ่มในบางประเด็น แต่ก็มีการรายงานความคืบหน้าให้ กก.บห.ขึ้นเป็นระยะๆ
 
เมื่อถามว่าหลักฐานที่ยังขาดอยู่คืออะไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอไม่ลงรายละเอียด แต่มีพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายอีกหลายชิ้นที่เราต้องสอบเพิ่ม
เมื่อถามว่ากังวลว่าจะเป็นการโจมตีทางการเมืองหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะต้องว่ากันตามความถูกผิด ไม่ว่าผู้กล่าวหาจะเป็นใคร ไม่ว่าสังคมจะตัดสินเราแล้วหรือไม่ อย่างไร เราจะว่ากันด้วยความจริงและพยานหลักฐาน และคณะกรรมการวินัยที่ตั้งมาเพิ่มเติม ก็มี 2 คนที่เป็นผู้หญิง  เป็น ส.ส.ที่ทำงานในประเด็นเหล่านี้โดยตรง ประกอบด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. และนางนิตยา มีศรี ส.ส.สมุทรปราการ ร่วมกับคณะกรรมการวินัยเดิม ซึ่งมีน.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วย

เราต้องขอเวลาแต่ไม่ใช่ขอเพื่อจะให้ดึงเวลา แต่เพื่อให้ดูพยานหลักฐานอย่างรอบด้าน และครบถ้วนก่อนจะมีการตัดสินอะไรออกไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่