วันพุธที่ 13-5-23 เจ้าของบริษัทที่ทำงานเป็นคนสิงคโปร์ รู้ว่าชอบกินอาหารสิงคโปร์
จึงชวนไปกินมื้อเที่ยงอาหารสิงคโปร์ ที่เมืองทองธานี มีผู้จัดการทั่วไปชาวสิงคโปร์ไปด้วยรวม 3 คน
11.54 น.ออกจากบริษัทแถวคลอง 1 รังสิต ขึ้นทางด่วนที่บางพูน ไปลงที่เมืองทองธานี





ลงทางด่วนข้างชาเลนเจอร์ฮอลล์ เลี้ยวขวาที่วงเวียนเข้าถนนป็อปปูล่า
เลี้ยวขวาที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ปากซอย คือ วัดผาสุกมณีจักร



ผ่านโครงการ  Active Park ผ่านร้านปลาช่อนแม่ลา
จากปากซอยเข้ามาประมาณ 350 เมตร ทางด้านซ้ายมือ 
ตรงข้ามทาวน์เฮาส์โครงการ Patio คือ ร้านชวนคิทเช่น



จอดรถที่หน้าร้าน





เป็นร้านขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่งไม่อึดดัด เลือกนั่งด้านขวาใกล้กับครัว





รายการอาหาร มีค่าบริการ 10%
พนักงานบอกว่าร้านเปิดมากว่า 10 ปีแล้ว



ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น.



อาหารจานโปรดของชาวสิงคโปร์
ราคาอาหารไม่แรง แต่ต้องดูปริมาณ
ไม่มีกระเบนย่างราดพริกซัมบัล
ต้องหาโอกาสไปลองร้าน 333 ย่านทาวน์อินทาวน์





ติ่มซำ



อาหารกินเล่นและอาหารประเภทมีน้ำแกง



อาหารจานหลัก
บ๊ะกุ๊ดเต๋ที่นี่ไม่เติมน้ำแกงเพิ่ม เหมือนบ๊ะกุ๊ดเต๋สิงคโปร์ 
แต่ที่นี่เป็นบ๊ะกุ๊ดเต๋น้ำแกงสีเข้มแบบมาเลเซีย คิดเงินค่าน้ำแกงเพิ่มชามละ 40 บาท+






ข้าวและบะหมี่







เครื่องดื่ม





โปรโมชั่น
Beef rendang nasi lemak ข้าวหุงกะทิแกงเนื้อแถมเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว



เสี่ยวหลงเปาเข่งที่ 2 ลด 50%



ช้อนส้อมและตะเกียบบรรจุในซองพลาสติก



เครื่องดื่มเลือกชาอู่หลงร้อน 1 กา 100 บาท+
เติมน้ำร้อนได้ตลอด จอกชา 3 ถ้วยตามจำนวนคน



อาหารรอไม่นาน
เริ่มด้วยเต้าหู้เสฉวน 180 บาท+



ถั่วแขกผัดพริกแห้ง 180 บาท+
ถั่วแขกผัดกับหมูสับและพริกแห้ง 
ถั่วแขกผัดไฟแรงคงความกรอบ รสเค็มพอดี มีรสเผ็ดเล็กน้อย



บ๊ะกุ๊ดเต๋ 200 บาท+



เป็นบ๊ะกุ๊ดเต๋น้ำดำแบบมาเลเซีย ต่างจากแบบน้ำใสของสิงคโปร์
ไม่ฉุนเครื่องเทศบ๊ะกุ๊ดเต๋ แบบมาเลเซียนิยมใส่ฟองเต้าหู้ เห็ดเข็มทอง 
และเก๋าคี่แดงเพิ่มความหวานของน้ำแกง มีผักชีโรยหน้า





กระดูกหมูเนื้อนุ่ม กระดูกหมูไม่เป็นแบบชิ้นยาว หรือ Spare Rib สวยงามแบบสิงคโปร์





บ๊ะกุ๊ดเต๋แบบสิงคโปร์ จะมีแค่กระดูกหมูชิ้นยาวและน้ำแกงใส 
ได้รสชาติของเครื่องเทศและพริกไทยล้วน ไม่ใส่เครื่องประกอบน้ำแกง ที่ข่มรสของเครื่องเทศ
ใส่แค่กระเทียมกลับใหญ่ต้มไม่ลอกเปลือก เติมน้ำแกงได้ไม่อั้นไม่คิดเงินเพิ่ม
"เที่ยวไปกินไป by laser @ Old Street Buk Kut Teh, มาบุญครอง"  https://ppantip.com/topic/38978604



แค่ถ้าทำกินกันเอง ก็อดไม่ได้ที่จะใส่เห็ดแชมปิญองในน้ำเกลือ
เพราะตัดรสของน้ำแกงบ๊ะกุ๊ดเต๋น้อยมาก ส่วนผักชีใส่ตามความเคยชิน



หลักซา 195 บาท+ เป็นหลักซาใส่กะทิมากแบบเปอรานากัน
แตกต่างจาก Asam Laksa และ Penang Laksa ของมาเลเซีย
โรยหน้าด้วยใบหลักซา (ผักแพว) ซอยละเอียดส่งกลิ่นหอม
ใส่ไข่ต้มครึ่งฟอง เต้าหู้โปร่งหั่นครึ่งทอด



กุ้งสดตัวใหญ่ 2 ตัวแทนลูกชิ้นปลา



ฮื่อก้วยทอด



และที่ขาดไม่ได้ คือ หอยแครงลวก
ตามสูตรกาตงหลักซา ซึ่งเป็นชื่อย่านหนึ่งในสิงคโปร์
แต่ไม่ตัดเส้นสั้นตักกินด้วยช้อนโดยไม่ต้องใช้ตะเกียบ



ก่อนกินควรคนให้เนื้อกุ้งแห้งบดที่จมอยู่ก้นชาม กระจายขึ้นมาเพิ่มความหอมของน้ำแกง
น้ำแกงรสเข้มข้นตามแบบหลักซาดั้งเดิม มีรสเผ็ดพอเหมาะ
เส้นกลมแบบเส้นบะหมี่ฮกเกี้ยน รวมถึงถั่วงอก ลวกมาสุกกำลังดี



มีน้ำพริกซัมบัลให้หนึ่งถ้วยถ้าอยากกินเผ็ดกว่านี้



ฉ่าก๋วยเตี๋ยว 170 บาท+
เป็นเหมือนเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วเพิ่มตัวงอก มีรสเผ็ด
แต่เอาใจคนไทยด้วยการเพิ่มความหวานซึ่งไม่ชอบ



ฉ่าก๋วยเตี๋ยวจะไม่ใส่เนื้อหมู หรือเนื้อวัว แต่ใส่กุนเชียงทอด



หอยแครง



และฮื่อก้วยทอดหั่นเส้น
ถ้ากินที่ปีนังจะใส่เนื้อปลาด้วย



ฮกเกี้ยนหมี่ 195 บาท+
ถ่ายรูปตอนยกมาไม่ทันต้องรอมาครั้งที่สองและสาม



ผัดหอมกระทะ มีเครื่องเคียงให้หนึ่งถ้วย ที่ใช้มะนาวแทนส้มจี๊ดฝานปลายด้านหนึ่ง
มีรสเผ็ดอยู่แล้ว แต่มีน้ำพริกซัมบัลให้เติมเพิ่มความเผ็ด มีกากหมูเจียวกรอบ ๆ เพิ่มเนื้อสัมผัส



ข้าวอบเผือก 165 บาท+
ใส่ทั้งกุ้งสดและกุ้งแห้ง รสจืดไปหน่อย ต้องเพิ่มความหอมด้วยพริกไทยอีกนิด



มื้อนี้ 3 คน รวมค่าบริการ 1,738 บาท เฉลี่ยคนละ 500 กว่าบาท
โดยรวมถือว่ารสชาติสิงคโปร์แท้ และราคาไม่แพง
ช่วยให้คลายความคิดถึงอาหารสิงคโปร์โดยไม่ต้องบินไปกิน



ขอโบรชัวร์ทางร้านมาด้วย
คงต้องพาแฟนไปลองสาขาชั้น 6 เซ็นทรัลเวิร์ล
เพราะเดินทางสะดวกว่าด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว





13.15 น.ออกจากร้านชวนคิทเช่น
ผ่านโครงการ  Active Park ซึ่งมีทั้ง Makro Food Service และร้านโอ้ กะ จู๋





ถึงถนนป็อปปูล่าเลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่วงเวียนขึ้นทางด่วนกลับที่ทำงาน