เครือข่ายปชช.ร่างรัฐธรรมนูญ. จี้ กกต.เร่งส่งรายชื่อเสนอทำประชามติแก้ รธน.60 ทั้งฉบับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4180314
เครือข่าย ปชช.ร่างรัฐธรรมนูญ จี้ กกต.เร่งส่งรายชื่อเสนอทำประชามติแก้ รธน.60 ทั้งฉบับ ยันไม่ต้องรอครบ 30 วัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำโดย น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร นายธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ ตัวแทนคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) นายกฤต แสงสุรินทร์ ตัวแทนจาก we watch ยื่นเรื่องทวงถามความคืบหน้ากับทาง กกต.ในการนำรายชื่อกว่า 212,139 รายชื่อ ที่รวบรวมเพื่อยื่นทำประชามติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ขณะนี้เวลาผ่านมาแล้ว 15 วัน กกต.ควรเร่งตรวจสอบรายชื่อประชาชน 212,139 คน นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะ กกต.มีบุคลากรและเครื่องมืออุปกรณ์ที่พร้อม ภาคประชาชนนำรายชื่อประชาชนลงลายมือชื่อในกระดาษเสร็จภายใน 3 วันและคีย์ข้อมูลดังกล่าวลงระบบเอ็กเซลเสร็จ 4 วัน แต่ขณะนี้ส่งรายชื่อให้ กกต.15 วันแล้ว กกต.ไม่จำเป็นต้องรอใช้เวลาครบ 30 วันตามกรอบกฎหมายกำหนดไว้แต่อย่างใด
ขณะที่ทางด้านรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้ กกต.ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม.ก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการขั้นตอนทำประชามติ ครม.สามารถนำหัวข้อชื่อการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับเสนอขอความเห็นจากสภาล่วงหน้าว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รู้สึกว่ามีข้อเคลือบแคลงสงสัยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยหลายอย่าง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ว่าจะไม่แก้ทั้งฉบับยกเว้นหมวด 1 และ 2 หลังจากนั้นต่อมาไม่ชัดเจนว่า ส.ส.ร.จะเป็นการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง เป็นต้น
แกนนำเสื้อแดงอีสาน จี้ ‘สุทิน’ นำคณะทำงาน ขอขมา หลังพบเกี่ยวข้องคดี 99 ศพ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7866560
แกนนำคนเสื้อแดงอีสาน จี้ ‘สุทิน’ นำคณะทำงานขอขมาคนเสื้อแดง หลังพบบางคนเกี่ยวข้องคดี 99 ศพสลายนปช. เชื่อหากได้พูดคุยกันทุกอย่างเป็นผลดีแน่
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ภาคอีสาน เปิดเผยว่า หลังจาก นาย
สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เข้ารับตำแหน่ง และมีการแต่งตั้งคณะทำงาน ซึ่งล้วนเป็นคนรู้จักของอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานไม่สบายใจ ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พูดคุยสอบถามไปยังนาย
สุทิน ซึ่งยอมรับว่าคณะทำงานบางคนที่จะมาช่วยทำงานนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายคนเสื้อแดง
“
เคยทักท้วงไปตั้งแต่รอบแรก เมื่อคนเสื้อแดงมารับทราบว่าคณะทำงานยังคงเป็นกลุ่มเดิม ก็เกิดความไม่สบายใจ ในฐานะภาคประชาชนและอยู่กับความขัดแย้งมานานกว่า 10 ปี ยอมรับว่าต้องการเห็นรัฐบาลชุดนี้สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกกลุ่ม แต่ประเด็นที่ยังคงติดอยู่ในใจของกลุ่มคนเสื้อแดงคือ คณะทำงานบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร รวมทั้งการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง 99 ศพ ที่ยังยอมรับไม่ได้”
ผศ.
พรรณวดี กล่าวอีกว่า เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้า คนเสื้อแดงมีข้อเสนอสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ให้เกิดขึ้น คือต้องการให้ นาย
สุทิน จัดการพบปะพูดคุยกันของทุกฝ่าย มีการทำบุญเลี้ยงพระ แล้วเชิญทุกฝ่ายมาให้เป็นบรรยากาศขอโทษ ขอขมา พูดคุยทำความเข้าใจ ขออภัยกัน ต่างฝ่ายต่างมีกรณีขัดแย้งซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ฝากถึงรัฐบาลว่าขอให้สร้างบรรยากาศปรองดองให้ทุกฝ่ายร่วมกันมาขอขมา และอภัยซึ่งกันและกัน เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น
กัณวีร์ ยกคำวินิจฉัยศาลชี้ชัดแล้ว ปาตานี-จังหวัดจัดการตนเอง ไม่เท่ากับแบ่งแยกดินแดน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179238
กัณวีร์ เป็นธรรม ยกคำวินิจฉัยศาลชี้ชัดแล้ว ปาตานี-จังหวัดจัดการตนเอง ไม่เท่ากับแบ่งแยกดินแดน
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องของ นาย
ณฐพร โตประยูร ยื่นร้อง พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หลังเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในหมวด 1 และหมวด 2 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบุคคล และกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ หรือแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ โดยสนับสนุนให้ดินแดนอันเป็นเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรมีสิทธิปกครองตัวเองหรือแยกตัวเป็นเอกราชในลักษณะของการแบ่งแยกดินแดน เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ล่าสุด (13 ก.ย.)
กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว โดยระบุว่า
ปาตานีไม่เท่ากับการแบ่งแยกดินแดน
จังหวัดจัดการตนเองไม่เท่ากับการแยกเอกราช
คำครหา ติฉิน และปรามาสจากสังคม และสาธารณะจากคนบางคนและกลุ่มบางกลุ่ม คงได้รับคำอรรถาธิบายจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นที่กระจ่างแล้วนะครับ
“สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย และพื้นที่สาธารณะในการแสดงออกของพี่น้องประชาชนต้องถูกเปิดให้คนทุกคนโดยไม่ปิดกั้น หากกิจกรรมและการกระทำใดๆ ยังอยู่ภายภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ”
ที่มา: ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้องยุบพรรคเป็นธรรม ไม่พบว่ามีการกระทำหรือพฤติการณ์เพื่อล้มล้างการปกครอง
https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid02HkKFdciqack4PcDudyN7mcw2sEanzangvgrHhADtXhncdbbFZNWBHRrCfQQNM7LRl
จีนโวยยุโรป “กีดกันการค้า” กรณีสั่งสอบ-เล็งขึ้นภาษี EV เตือนกระทบสัมพันธ์
https://www.prachachat.net/world-news/news-1393417
ฝุ่นตลบ ! จีนโวยยุโรป “กีดกันทางการค้า” กรณีสั่งสอบสวนการอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน พร้อมเล็งจะขึ้นภาษี เตือนจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
จากกรณีที่
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศต่อรัฐสภาสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีนที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าของจีนสามารถขายได้ในราคาต่ำเกินจริง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนไหลบ่าเข้าไปยังตลาดยุโรป และจะมีการพิจารณาที่จะปรับขึ้นภาษีการนำเข้ารถยนต์ เพื่อปกป้องบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป
ต่อมา วันที่ 14 กันยายน 2023 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า รัฐบาลจีนโจมตีการสอบสวนของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปว่าเป็นการ “
กีดกันทางการค้า” และเตือนว่าจะทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า การสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรป “
เป็นการกระทำกีดกันทางการค้าอย่างโจ่งแจ้ง ที่จะขัดขวางและบิดเบือนอุตสาหกรรมยานยนต์และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอย่างจริงจัง รวมถึงสหภาพยุโรปเอง และจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป”
แถลงการณ์ระบุอีกว่า จีนจะจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อแนวโน้มการกีดกันทางการค้าของสหภาพยุโรปและการดำเนินการติดตามผล และจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทจีนอย่างแข็งขัน
นอกจากนั้น
หวัง หลู่ตง (Wang Lutong) เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกิจการยุโรปในกระทรวงการต่างประเทศของจีน โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ตอบโต้ว่า “
สมาชิกสหภาพยุโรปจำนวนมากก็ให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของตนเอง”
ส่วนหอการค้าจีนประจำสหภาพยุโรปกล่าวว่า มีความกังวลอย่างมากและไม่เห็นด้วยกับการสอบสวน พร้อมอธิบายว่าความได้เปรียบทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนไม่ได้เกิดจากการอุดหนุน ของรัฐ และเรียกร้องให้สหภาพยุโรปมองรถยนต์ไฟฟ้าของจีนอย่างเป็นกลาง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ ยูเรเชียน กรุ๊ป (Eurasian Group) เตือนว่า หากคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกเก็บภาษี EV จีนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ รัฐบาลจีนก็น่าจะกำหนดมาตรการตอบโต้เพื่อทำร้ายอุตสาหกรรมของยุโรปเช่นกัน
นักวิเคราะห์รายอื่น ๆ กล่าวว่า การสอบสวนนี้ของยุโรปอาจชะลอการขยายการผลิตแบตเตอรี่ของจีน แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะสร้างความเสี่ยงขนาดใหญ่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เนื่องจากยังสามารถหันไปหาตลาดอื่นที่กำลังเติบโต เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยเบิร์นสไตน์ (Bernstein) กล่าวว่า กรณีนี้มันอาจจะส่งผลเสียต่อ perception (การรับรู้-ความเข้าใจ) ที่ผู้คนมีต่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน เมื่อแบรนด์เหล่านั้นขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
JJNY : 5in1 จี้กกต.เร่งส่งรายชื่อ│จี้สุทินนำคณะทำงานขอขมา│กัณวีร์ยกคำวินิจฉัยศาล│จีนโวยยุโรป│เอ็นแอลดีจวกรบ.ทหารเมียนมว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4180314
เครือข่าย ปชช.ร่างรัฐธรรมนูญ จี้ กกต.เร่งส่งรายชื่อเสนอทำประชามติแก้ รธน.60 ทั้งฉบับ ยันไม่ต้องรอครบ 30 วัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำโดย น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร นายธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ ตัวแทนคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) นายกฤต แสงสุรินทร์ ตัวแทนจาก we watch ยื่นเรื่องทวงถามความคืบหน้ากับทาง กกต.ในการนำรายชื่อกว่า 212,139 รายชื่อ ที่รวบรวมเพื่อยื่นทำประชามติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ขณะนี้เวลาผ่านมาแล้ว 15 วัน กกต.ควรเร่งตรวจสอบรายชื่อประชาชน 212,139 คน นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะ กกต.มีบุคลากรและเครื่องมืออุปกรณ์ที่พร้อม ภาคประชาชนนำรายชื่อประชาชนลงลายมือชื่อในกระดาษเสร็จภายใน 3 วันและคีย์ข้อมูลดังกล่าวลงระบบเอ็กเซลเสร็จ 4 วัน แต่ขณะนี้ส่งรายชื่อให้ กกต.15 วันแล้ว กกต.ไม่จำเป็นต้องรอใช้เวลาครบ 30 วันตามกรอบกฎหมายกำหนดไว้แต่อย่างใด
ขณะที่ทางด้านรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้ กกต.ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม.ก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการขั้นตอนทำประชามติ ครม.สามารถนำหัวข้อชื่อการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับเสนอขอความเห็นจากสภาล่วงหน้าว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รู้สึกว่ามีข้อเคลือบแคลงสงสัยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยหลายอย่าง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ว่าจะไม่แก้ทั้งฉบับยกเว้นหมวด 1 และ 2 หลังจากนั้นต่อมาไม่ชัดเจนว่า ส.ส.ร.จะเป็นการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง เป็นต้น
แกนนำเสื้อแดงอีสาน จี้ ‘สุทิน’ นำคณะทำงาน ขอขมา หลังพบเกี่ยวข้องคดี 99 ศพ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7866560
แกนนำคนเสื้อแดงอีสาน จี้ ‘สุทิน’ นำคณะทำงานขอขมาคนเสื้อแดง หลังพบบางคนเกี่ยวข้องคดี 99 ศพสลายนปช. เชื่อหากได้พูดคุยกันทุกอย่างเป็นผลดีแน่
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ภาคอีสาน เปิดเผยว่า หลังจาก นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เข้ารับตำแหน่ง และมีการแต่งตั้งคณะทำงาน ซึ่งล้วนเป็นคนรู้จักของอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคอีสานไม่สบายใจ ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พูดคุยสอบถามไปยังนายสุทิน ซึ่งยอมรับว่าคณะทำงานบางคนที่จะมาช่วยทำงานนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายคนเสื้อแดง
“เคยทักท้วงไปตั้งแต่รอบแรก เมื่อคนเสื้อแดงมารับทราบว่าคณะทำงานยังคงเป็นกลุ่มเดิม ก็เกิดความไม่สบายใจ ในฐานะภาคประชาชนและอยู่กับความขัดแย้งมานานกว่า 10 ปี ยอมรับว่าต้องการเห็นรัฐบาลชุดนี้สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกกลุ่ม แต่ประเด็นที่ยังคงติดอยู่ในใจของกลุ่มคนเสื้อแดงคือ คณะทำงานบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร รวมทั้งการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง 99 ศพ ที่ยังยอมรับไม่ได้”
ผศ.พรรณวดี กล่าวอีกว่า เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้า คนเสื้อแดงมีข้อเสนอสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ให้เกิดขึ้น คือต้องการให้ นายสุทิน จัดการพบปะพูดคุยกันของทุกฝ่าย มีการทำบุญเลี้ยงพระ แล้วเชิญทุกฝ่ายมาให้เป็นบรรยากาศขอโทษ ขอขมา พูดคุยทำความเข้าใจ ขออภัยกัน ต่างฝ่ายต่างมีกรณีขัดแย้งซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ฝากถึงรัฐบาลว่าขอให้สร้างบรรยากาศปรองดองให้ทุกฝ่ายร่วมกันมาขอขมา และอภัยซึ่งกันและกัน เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น
กัณวีร์ ยกคำวินิจฉัยศาลชี้ชัดแล้ว ปาตานี-จังหวัดจัดการตนเอง ไม่เท่ากับแบ่งแยกดินแดน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4179238
กัณวีร์ เป็นธรรม ยกคำวินิจฉัยศาลชี้ชัดแล้ว ปาตานี-จังหวัดจัดการตนเอง ไม่เท่ากับแบ่งแยกดินแดน
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องของ นายณฐพร โตประยูร ยื่นร้อง พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หลังเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในหมวด 1 และหมวด 2 และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบุคคล และกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ หรือแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ โดยสนับสนุนให้ดินแดนอันเป็นเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรมีสิทธิปกครองตัวเองหรือแยกตัวเป็นเอกราชในลักษณะของการแบ่งแยกดินแดน เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ล่าสุด (13 ก.ย.) กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว โดยระบุว่า
ปาตานีไม่เท่ากับการแบ่งแยกดินแดน
จังหวัดจัดการตนเองไม่เท่ากับการแยกเอกราช
คำครหา ติฉิน และปรามาสจากสังคม และสาธารณะจากคนบางคนและกลุ่มบางกลุ่ม คงได้รับคำอรรถาธิบายจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นที่กระจ่างแล้วนะครับ
“สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย และพื้นที่สาธารณะในการแสดงออกของพี่น้องประชาชนต้องถูกเปิดให้คนทุกคนโดยไม่ปิดกั้น หากกิจกรรมและการกระทำใดๆ ยังอยู่ภายภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ”
ที่มา: ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้องยุบพรรคเป็นธรรม ไม่พบว่ามีการกระทำหรือพฤติการณ์เพื่อล้มล้างการปกครอง
https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid02HkKFdciqack4PcDudyN7mcw2sEanzangvgrHhADtXhncdbbFZNWBHRrCfQQNM7LRl
จีนโวยยุโรป “กีดกันการค้า” กรณีสั่งสอบ-เล็งขึ้นภาษี EV เตือนกระทบสัมพันธ์
https://www.prachachat.net/world-news/news-1393417
ฝุ่นตลบ ! จีนโวยยุโรป “กีดกันทางการค้า” กรณีสั่งสอบสวนการอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน พร้อมเล็งจะขึ้นภาษี เตือนจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
จากกรณีที่ เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศต่อรัฐสภาสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีนที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าของจีนสามารถขายได้ในราคาต่ำเกินจริง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนไหลบ่าเข้าไปยังตลาดยุโรป และจะมีการพิจารณาที่จะปรับขึ้นภาษีการนำเข้ารถยนต์ เพื่อปกป้องบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป
ต่อมา วันที่ 14 กันยายน 2023 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า รัฐบาลจีนโจมตีการสอบสวนของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปว่าเป็นการ “กีดกันทางการค้า” และเตือนว่าจะทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า การสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรป “เป็นการกระทำกีดกันทางการค้าอย่างโจ่งแจ้ง ที่จะขัดขวางและบิดเบือนอุตสาหกรรมยานยนต์และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอย่างจริงจัง รวมถึงสหภาพยุโรปเอง และจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป”
แถลงการณ์ระบุอีกว่า จีนจะจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อแนวโน้มการกีดกันทางการค้าของสหภาพยุโรปและการดำเนินการติดตามผล และจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทจีนอย่างแข็งขัน
นอกจากนั้น หวัง หลู่ตง (Wang Lutong) เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกิจการยุโรปในกระทรวงการต่างประเทศของจีน โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ตอบโต้ว่า “สมาชิกสหภาพยุโรปจำนวนมากก็ให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของตนเอง”
ส่วนหอการค้าจีนประจำสหภาพยุโรปกล่าวว่า มีความกังวลอย่างมากและไม่เห็นด้วยกับการสอบสวน พร้อมอธิบายว่าความได้เปรียบทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนไม่ได้เกิดจากการอุดหนุน ของรัฐ และเรียกร้องให้สหภาพยุโรปมองรถยนต์ไฟฟ้าของจีนอย่างเป็นกลาง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ ยูเรเชียน กรุ๊ป (Eurasian Group) เตือนว่า หากคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกเก็บภาษี EV จีนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ รัฐบาลจีนก็น่าจะกำหนดมาตรการตอบโต้เพื่อทำร้ายอุตสาหกรรมของยุโรปเช่นกัน
นักวิเคราะห์รายอื่น ๆ กล่าวว่า การสอบสวนนี้ของยุโรปอาจชะลอการขยายการผลิตแบตเตอรี่ของจีน แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะสร้างความเสี่ยงขนาดใหญ่สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เนื่องจากยังสามารถหันไปหาตลาดอื่นที่กำลังเติบโต เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยเบิร์นสไตน์ (Bernstein) กล่าวว่า กรณีนี้มันอาจจะส่งผลเสียต่อ perception (การรับรู้-ความเข้าใจ) ที่ผู้คนมีต่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน เมื่อแบรนด์เหล่านั้นขยายธุรกิจไปต่างประเทศ